------------------------------------------------------------------------------------------------
บันทึกขั้นตอนการปฏิบัติงานของทีมงานกระจกเงาในการให้ความช่วยเหลือกรณีคำร้องเด็กชายนิวัฒน์ จันทร์คำ หรือ “น้องนิก”
(ยื่นขอลงรายการสัญชาติพม่า ,ขั้นตอนการทำบัตรประชาชนประเทศพม่า)
โดย นางสาวรัชนีวรรณ สุขรัตน์
เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา
เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗
------------------------------------------------------------------------------------------------
๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
น้องนิก ติดต่อมาทาง Facebookข้าพเจ้า ความว่าพี่แอนครับวันนี้เวลาประมาณบ่ายสอง พ่อเลี้ยงผมติดต่อมา พ่อเลี้ยงบอกว่า วันที่ ๑๕ ถึง ๒๐ มีนาคมนี้ จะมีการสำรวจและทำบัตรประชาชนของประเทศพม่าในพื้นที่ ๆ พ่อเลี้ยงและแม่ผมอาศัยอยู่ และให้ผมกลับไปทำบัตรประชาชนในรอบนี้ครับ
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
น้องนิก ติดต่อมาทาง Facebookข้าพเจ้า เพื่อขอคำปรึกษา กรณีที่ครูทองเสาร์ (ครูประจำชั้นห้องน้องนิก)ช่วยหาทุนช่วงปิดภาคเรียนให้น้องนิก แต่มีเงื่อนไขว่าน้องนิกต้องไปบวชและเรียนทางธรรม จากการพูดคุยน้องนิกบอกว่าตนเองสนใจเพราะไม่มีทุนจะเรียนต่อระดับ ม.๖ แล้ว น้องนิกเล่าอีกว่าครูทองเสาร์ยังบอกอีกด้วยว่าพระอาจารย์ที่ผมจะไปบวชเรียนด้วยจะช่วยเรื่องบัตรประชาชนผมด้วย น้องนิกทิ้งข้อความไว้เพียงแค่นี้สำหรับการพูดคุยปรึกาเรื่องการบวชเรียน
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
เวลาประมาณ ๐๘.๒๙ น. ข้าพเจ้าได้สอบถามน้องนิกผ่านทาง Facebook เกี่ยวกับเรื่องการบวชเรียนที่น้องปรึกามา ความว่า “นิกจะเรียนที่ไหนยังไง ขอรายละเอียดสถานที่เรียนให้พี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่ปรึกษาทางพี่ๆเขาอีกทียังไงก็เป็นอีกทางที่เราจะได้เรียนต่อ เพราะเท่าที่รู้เขาก็มีหลายสาขาวิชา”
เวลาประมาณ ๑๐.๔๙ น. น้องนิกติดต่อกลับมา บอกว่าใจหนึ่งผมก็อยากไปเรียนแต่อีกใจหนึ่งก็ยังตัดจากกิเลสไม่ได้ ผมยังติดเพื่อน ยังอยากเที่ยว และอยากทำอะไรอีกหลายอย่างน่ะครับ
เวลาประมาณ ๑๕.๑๐ น. น้องนิกติดต่อกลับมาอีกครั้งและบอกว่า “พี่แอนไม่ใช่บวชแล้ว แต่เป็นการเรียนทางธรรมครับ ผมฟังผิด บวชเฉพาะช่วงปิดเทอมน่ะครับแล้วเค้าจะให้ทุนเรียนต่อครับ ที่วัดธรรมกาย ปากน้ำ กรุงเทพโน่นน่ะครับ ส่วนรายละเอียดครูทองเสาร์บอกว่าจะเอามาให้วันพุธครับ จากการพูดคุยข้าพเจ้าให้น้องนิกช่วยส่งรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนทางธรรมที่วัดธรรมกายให้ข้าพเจ้าดูอีกครั้งหนึ่ง
๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗
น้องนิกติดต่อมาทาง Facebook ข้าพเจ้า ว่าตนเองได้เดินทางข้ามกลับมาฝั่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องนิกเขียนเล่าว่า
วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ตัวผมเดินทางจากประเทศไทยไปพม่าเพื่อไปทำบัตรประจำตัวพม่าโดยมีพ่อเลี้ยงของผมมารับโดยข้ามน้ำไปเสียไป ๕๐๐ บาท สิ่งแรกที่ผมกลับไปทำบัตรตอนแรกคือผมถามแม่ว่าจะทำได้ยังไงแม่บอกว่าผมเกิดในพม่าและเกิดที่หมู่บ้านที่ชื่อว่าเวียงลานโดยหมอประจำหมู่บ้าน(ภาษาพม่าเรียกว่า“ส่าม่า” หรือ "ซายะมะ" คือ หมอตำแย) แม่บอกว่าสามารถไปซื้อใบเกิดจากหมอประจำหมู่บ้านได้แต่ตอนนี้หมอคนนั้นไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านแล้วแต่ย้ายไปอยู่ที่อื่นแต่ก็สามารถหาตัวได้อยู่
วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ พ่อเลี้ยงและแม่ผมไปหาหมอคนนั้นซึ่งผมไม่ได้ไปด้วยเพราะพ่อเลี้ยงบอกว่าผมไม่มีอะไรไปก็อันตรายเพราะแถวนั้นมีทหารพม่าอยู่ด้วยพ่อเลี้ยงและแม่ผมได้พาหมอคนนั้นมาที่บ้านแล้วผมก็เล่าเรื่องของผมให้แกฟัง(เล่าเป็นภาษาไทยใหญ่)แล้วแกก็บอกว่าได้แต่ต้องไปเอาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวแกจะช่วย(แต่ก็เสียเงินอยู่)ไปที่โรงพยาลท่าเลอซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเมืองเล็นแกบอกว่าจะไปเอาให้พรุ่งนี้
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ พ่อเลี้ยงและหมอคนนั้นไปเอาใบเกิดที่โรงพยาบาลท่าเลอแล้วก็เอาไปให้”อุ๊กก๊ะท่า” (“อุ๊กก๊ะท่า” คือ ผู้ใหญ่บ้าน) แล้ว”อุ๊กก๊ะท่า”บอกว่าเดี๋ยวจะดูให้(เสียเงินอีกแล้ว) ผมยังไม่ทันเห็นใบเกิดผมเลยมารู้อีกทีก็พ่อเลี้ยงบอกว่าอยู่ที่อุ๊กก๊ะท่าแล้ว
๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ วันนี้พ่อเลี้ยงพาผมไปหาอุ๊กก๊ะท่า อุ๊กก๊ะท่าให้ผมพิมพ์ลายนิ้วมือลงในใบอะไรก็ไม่รู้ทั้ง ๑๐ นิ้วเลย มี ๒ แผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ ทั้ง ๒ แผ่นแล้วบอกว่าให้ไปเอารูปถ่ายครึ่งนิ้วขาว – ดำมาให้ด้วย ๒ ใบ และนัดหมายเวลาให้พ่อเลี้ยงผมนำเอกสารไปยื่น”ลูม” (“ลูม” ภาษาไทยใหญ่ หมายถึง ส่วนราชการหรือที่ว่าการอำเภอ) และไปเจอกันที่นั้น ประมาณ ๑๐ โมงเช้า
๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗ พ่อเลี้ยงพาผมไปที่ลูมเพื่อพบกับอุ๊กก๊ะท่า เจอกันที่ลูม อุ๊กก๊ะท่า บอกว่าให้ไปตรวจเลือดก่อนว่าเลือดกรุ๊ปอะไร ซึ่งสถานที่รับตรวจเลือดตั้งอยุ่ไม่ห่างจากลูมมากนัก จากผลการตรวจเลือดครั้งนี้ผมเพิ่งจะได้รู้ว่าผมมีกรุ๊ปเลือดกรุ๊ป A จากนั้นนำผลการตรวจเลือดนั้นไปให้อุ๊กก๊ะท่า พอกลับมาที่ลูม อุ๊กก๊ะท่าก็นำเอกสารทั้งหมดมาให้พ่อเลี้ยงผมแล้วก็บอกให้พ่อเลี้ยงผมไปยื่นข้างใน พอเข้าไปในลูมพ่อก็ยื่นเอกสารให้แล้วเค้าก็ถามอะไรพ่อก็ไม่รู้เป็นภาษาพม่า สุดท้ายพ่อก็พาผมออกมาจากลูม แล้วอุ๊กก๊ะท่าก็เข้าไปในลูมผมกับพ่อรอข้างนอก ซักพักอุ๊กก๊ะท่าเดินออกมาแล้วบอกพ่อผมว่าเอาเงินมาซักสองพัน พ่อเลี้ยงผมยื่นเงินให้อุ๊กก๊ะท่า อุ๊กก๊ะท่าเดินกลับเข้าไปในลูม ซักพักเมื่ออุ๊กก๊ะท่าเดินออกมาจากลูม พร้อมกับบอกพ่อเลี้ยงผมว่าให้กลับไปรอที่บ้าน
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ มีคนมาบอกพ่อเลี้ยงผมว่าวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๗ ให้ให้ไปเอา“ม่าผุ่งติ่น” ( “ม่าผุ่งติ่น” หรือ "มะโป่วติ่น" คือ บัตรประชาชน)
๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ ผมเดินทางกลับมาประเทศไทยโดยลำพัง การเดินทางกลับครั้งนี้ผมเดินทางเข้ามาประเทศไทยทางด่านชายแดนแม่สาย พร้อมกับขบวนพระที่มาบิณฑบาตรสาม แผ่นดินที่อำเภอแม่สาย ผมเดินทางข้ามมาทางสะพานเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า และ อำเภอแม่สาย ประเทศไทย การข้ามกลับเข้ามาประเทศไทยในครั้งนี้ผมไม่ตรวจเอกสารอะไรซักอย่าง ผมเดินทางออกจากเมืองเล็นประมาณตี ๒ ของวันที่ ๒๒ มีนาคม มาถึงหน้าด่านอำเภอแม่สาย ประมาณ ๘ โมงเช้า
---------------------------------------------------------------------
ไม่มีความเห็น