มนุษย์ส่วนใหญ่ในสังคมไทยในปัจจุบันได้รับการรับแจ้งเกิดในทะเบียนราษฎรของรัฐในทันทีตั้งแต่เกิด จึงย่อมได้รับการรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายทั้งตามกฎหมายเอกชนและตามกฎหมายมหาชน คนเกิดผู้นั้นย่อมได้รับการบันทึกในทะเบียนราษฎรของรัฐผู้รับการแจ้งเกิดในสถานะ “คนชาติ (National)” อันทำไปสู่ความสามารถที่จะใช้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานได้อย่างไม่มีปัญหา ดังนั้น คนข้างมากในสังคมไทยจึงไม่เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดจากการตกหล่นจากทะเบียนคนเกิดในระบบทะเบียนราษฎร
แต่ถ้ามนุษย์สักคนที่เกิดในประเทศไทย แต่มีบุพการีซึ่งเป็นคนต่างด้าว เขาก็อาจไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิดโดยรัฐไทย แต่ถ้ารัฐเจ้าสัญชาติของบิดาหรือมารดาต่างด้าวของเขารับแจ้งการเกิดของเขาและจดแจ้งชื่อเขาในทะเบียนการเกิดของรัฐดังกล่าว กรณีก็อาจจะไม่ร้ายแรงแต่อย่างใดต่อเด็ก[1] แต่หลายกรณี แม้ไม่มากนัก บิดาต่างด้าวไม่อาจไปแจ้งการเกิดให้บุตรต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลในประเทศไทยของรัฐเจ้าของสัญชาติของเขา หากรัฐไทยไม่รับแจ้งการเกิดอีกด้วย กรณีก็อาจร้ายแรงต่อเด็ก[2]
ปัญหาการจดทะเบียนการเกิดไม่เป็นที่สนใจสำหรับการศึกษาวิจัยมากนั้น หากเป็นเรื่องของบุคคลในสถานการณ์ปกติและทั่วไป แต่ในกรณีที่บุคคลเกิดในต่างประเทศ หรือบุคคลเป็นคนต่างด้าว หรือมีบุพการีเป็นคนที่มีความผิดกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่งในประเทศที่บุคคลเกิด บุคคลดังกล่าวอาจไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิด ซึ่งกรณีหลังนี้มักเกิดในสถานการณ์ที่ไม่ปกติและพิเศษอย่างมาก การศึกษาวิจัยจึงเกิดในกรณีหลังนี้เอง และมักเป็นเรื่องที่สนใจศึกษาในแวดวงของนักวิชาการด้านระหว่างประเทศศึกษา ด้วยเหตุที่ปัญหาการจดทะเบียนการเกิดมักปรากฏตัวเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพย่อมจะเป็นได้ ก็แต่โดยอาศัยกฎหมายและนโยบายต่างประเทศ
เมื่อปัญหาการจดทะเบียนการเกิดมิใช่ปัญหาสำหรับคนเกิดในสถานการณ์ปกติ คนโดยทั่วไปจึงไม่เห็นความร้ายแรงปัญหานี้ เฉพาะแต่คนเกิดในสถานการณ์ไม่ปกติเท่านั้นที่เห็นความร้ายแรงของการไม่ได้รับจดทะเบียนการเกิด เพราะคนกลุ่มนี้ย่อมประสบโศกนาฎกรรมจากการไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิด อันได้แก่ ความไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร ความไร้สัญชาติ ความไร้รัฐ ความเป็นคนผิดกฎหมาย
[2] อาทิ เด็กหญิงจันทราซึ่งเกิดในประเทศไทยจากนายหม่องคนสัญชาติพม่าซึ่งเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และไม่ได้รับการผ่อนผันให้มีสิทธิอาศัยชั่วคราว แม้โรงพยาบาลจะออกหนังสือรับรองการเกิดให้แก่เด็กหญิงจันทรา แต่การแจ้งการเกิดต่อเขตหรืออำเภอหรือเทศบาลของประเทศไทยเพื่อขอรับสูติบัตรให้แก่เด็กหญิงจันทรายังทำไม่ได้ตามกฎหมายไทยในปัจจุบัน และนายหม่องก็ไม่กล้าที่จะไปแจ้งการเกิดของบุตรสาวต่อสถานทูตพม่าในประเทศไทย ด้วยว่า เขาเป็น “อดีตนักศึกษาพม่าที่ต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหารพม่าซึ่งหนีภัยความตายออกมาจากประเทศพม่า” แล้วเด็กหญิงจันทราจะเป็นอย่างไร ? เธอย่อมไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรของรัฐไทย หรือรัฐพม่า หรือรัฐใดเลยบนโลก เธอย่อมไร้รัฐ
ไม่มีความเห็น