คนไม่ยอมเรียน กับคนไม่คิดจะเรียน


เมื่อวาน 29มีค 57 
ที่ตลาดพระได้พบคนที่เคยมาขอสมัครเป็นศิษย์สมัยหลายปีมาแล้ว

วันนั้นสักสามปีมาแล้ว ผมเห็นแต่เขาเล่นพระเก๊ตาเปล่า ทั้งเนื้อดินและเนื้อผง

ผมพยายามแนะนำเขา แต่ยิ่งแนะนำ เขาก็ยิ่งห่างเหิน ไม่กล้ามาคุยกับผม
ผมก็เลยไม่ได้คุยกับเขาเลย สามปีมาแล้ว

เมื่อวานเจอเขาจังๆ ผมกำลังนั่งรอว่าใครจะเอาพระมาให้ชมบ้าง ที่ตลาดพระ
หลายเดือนมานี้ เขาคนนั้นขยับตัวเองมาทำกิจการเป็นคนเช่าช่วงตลาดใหม่ บขส.

ผมก็เพิ่งรู้ว่า แท้ที่จริงคนที่ขายของที่ตลาดพระพูดถึงว่ามีคนเก็บค่าเช่า ก็คือเขาคนนี้นี่เอง

(จุดไต้ตำตอจริงๆ อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ)

เมื่อเผชิญกันแบบซึ่งๆหน้า ก็จำเป็นต้องคุยกัน ผมก็เปิดประเด็นว่า ........

"เล่นพระไปถีงไหนแล้ว?"

เขาว่า เนื้อดินเขาดูขาดแล้ว แต่เนื้อผงเลิกเด็ดขาด.......

พร้อมกับยื่นพระในคอมาให้ดู 20 กว่าองค์ 
(เขาบอกว่าต้องแขวนเผื่อเจอคนที่จะช่วยดูให้ในตลาดพระ)

ผมส่องดูแล้วก็ ประทับใจมาก ...........

มีแท้อยู่ 1 องค์ นอกนั้นเก๊เฉียบเกือบทั้งหมด แทบไม่มีเก๊ตาเปล่าเลย

เลยชมเขาว่า "ขอชื่นชม ฝีมือพัฒนามาไกลมากทีเดียว"

เขาก็อธิบายใหญ่เลยว่า เขาพัฒนาฝีมือมาอย่างไร ที่ผมก็เพียงรับทราบ 
เพราะยังเป็นการเรียนแบบมั่วๆ ตื้นๆ กับพระเนื้อดิน
จึงมีพระเก๊เฉียบเต็มคอ อิอิอิอิอิอิอิ
แต่เนื้อผงที่เขาว่าเลิกเล่นนั้น ก็ยังมีเก๊ตาเปล่าอยู่สองสามองค์

ที่ผมถือว่า "ยังไม่ยอมเรียน" ก็คงได้แค่นี้ อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
-----------------------------------------------------------------
พอกลับมาบ้าน ก็เจอเพื่อนในเฟซ มาบ่นว่า...
มีทรัพยากรจำกัด เลยไม่ทราบจะเรียนยังไง 
และอยากจะขอยืมวัสดุการสอนของผมไปใช้ในการเรียน

ผมฟังแล้วก็ขำ แต่ก็หัวเราะไม่ออก

เพราะที่จริงที่ว่าจำกัดนั้น มิใช่วัสดุ แต่อยู่ที่ "ความคิด" ต่างหาก

คนที่คิดจะเรียน จะเห็นทุกสิ่งรอบตัวเป็นวัสดุการเรียน

"อิฐ หิน ปูน ทราย พลาสติก และพระเก๊ ฯลฯ" เป็นวัสดุการเรียนได้ทั้งหมด

ขอให้ "แค่คิดจะเรียน" เท่านั้น

เพราะผมก็เรียนมาด้วยตัวเองแบบนี้
ดูพระเนื้อผงเป็นก็จากการนั่งส่องเปลือกหอยแบบไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครชี้แนะอยู่เกือบปี
นั่งส่องอิฐ หิน ดิน ปูน ทราย เทียบกับพระเก๊ อยู่หลายเดือน

กว่าจะเริ่มมองออก และพอจะเข้าใจ
ตระเวณขับรถทั่วประเทศ หลายแสนกิโลเมตร
เพื่อเพียง "ไปถาม" เขาว่า ที่ผมคิด พอจะเข้าเค้าไหม หรือ มีคำแนะนำอะไร

ที่ส่วนใหญ่ก็ "คว้าน้ำเหลว" แต่ผมก็ไม่เคยย่อท้อ

สู้ แบบคิดจะเรียน และตั้งใจเรียน มาจนแยกแยะเก๊แท้ได้ชัดขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

เพราะงานฝีมือพัฒนาเร็วมาก 
เราต้องเรียนแบบทั้งตามให้ทัน และหนีให้รอด

อะไรที่เขาทำได้แล้ว อะไรที่ช่างยังทำไม่ได้

ต้องพัฒนาตัวเองทุกวัน จนถึงทุกวันนี้

และนำสิ่งที่มั่นใจมาแนะนำให้คนที่

1. ยอมเรียน และ
2. คิดจะเรียน

ได้เรียนแบบรวดเร็ว ได้ทันกับเหตุการณ์ 
ก. ตามฝีมือช่างโรงงานได้ทัน และ
ข. หนีพระฝีมือเฉียบๆ ได้รอด

ที่ก็ได้ผลดีพอสมควร กับเพื่อนส่วนใหญ่

แต่ก็มีระดับ "ไม่ยอมเรียน" และ "ไม่คิดจะเรียน" นี่แหละที่มีปัญหา พัฒนายาก

สงสัยคงจะต้อง "ปล่อยไปก่อน" 
อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

หมายเลขบันทึก: 564934เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2014 07:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2014 07:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท