จากอ่าวไทย.....ถึง......อันดามัน 8 : พบกันที่บ้านสวน....จากกันที่สี่แยกเอเชีย


เราจับมือสัญญากันว่า...จะพบกันที่บ้านคุณมะเดื่อในวัน ที่ 4 - 6 เมษายน 57 แน่นอน

 

 

ออกจากบ้านคุณพ่อเขียน  ไกด์กิตติมศักดิ์ของเราก็พาคณะเดินทางต่อ

ไป  แต่ก่อนที่จะไปกินมื้อเที่ยง ลุงวอพาพวกเราแวะไปชมวัดที่เก่าแก่

ที่สุดของพัทลุง คือ ... วัดเขียน...เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ต้นสมัยกรุงศรีฯ

 

 

เป็นวัดที่มีบริเวณเนื้อที่กว้างขวาง ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย อย่างต้น

มะม่วงต้นนี้ คงมีอายุยาวนาน 

 

 

ขนาดของลำต้น 3 คนโอบ จริง ๆ ....คุณมะเดื่อเห็นดอกไม้สีสันสะดุด

ตาสะพรั่งตัดกับกิ่งใบสีเขียว ๆ เด่นชัด

 

 

ดอกโศก...นั่นเอง เป็นโศกอีกชนิดหนึ่งซึ่งไม่เหมือนที่เคยเห็นทั่ว ๆ ไป

 

 

อากาศร้อนมาก พวกเราจึงหลบเข้าร่มมะขาม น้องนอง เจอฝักมะขามจึง

แกะเปลือกเอาใส่ปาก แล้วทำหน้าตาว่า มะขาม " หวาน " มาก ๆ 

คุณมะเดื่อลองชิมดูบ้าง ... แค่แตะ ๆ ลิ้น ก็ต้องรีบขว้างไปให้พ้นตัวให้

มากที่สุด......โค..ตะ...ระ....เปรี้ยวววววว....!

 

 

ลุงวอนำพวกเราไปชมพระพุทธรูปที่รายรอบอยู่ในวิหารคต 

 

องค์นี้ อยู่ต้นแถว แต่ไม่ใช่พระพุทธรูป  หากแต่เป็นรูปปั้นแทนองค์

พระชายาของเจ้าเมืองที่สร้างวัดแห่งนี้ สังเกตุจากเครื่องทรงที่

ไม่ใช่พระแต่คล้ายกษัตริย์.....ครูหยินสังเกตเห็นว่า พระพุทธรูปที่นี่ มี

ปากแดงทุกองค์....จริงด้วยนะ

 

 

ลุงวอบอกว่า ตรงนี้้เป็นพิพิธภัณฑ์แต่ไม่มีเวลาแวะเข้าไปชม จึงได้แต่

ภาพคันไถโบราณมาเป็นหลักฐาน

 

 

ออกจากวัด  ลุงวอพาไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารบริเวณหาดลำปำซึ่ง

เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา ที่ดูยังไง ๆ ก็เหมือนทะเลน้ำเค็ม ไม่ใช่ทะเลสาบน้ำจืด

 

บริเวณชายหาด มีซุ้มอาหารเรียงรายตลอดแนว คล้าย ๆ กับที่

อ่างซับเหล็ก สระบุรี  คุณมะเดื่อสังเกตดูว่า แต่ละซุ้มค่อนข้างว่า ไม่

ค่อยมีคนมาใช้บริการ

เจ้าของร้านนำเมนูอาหารมาให้สั่ง เมื่อสั่งอาหารแล้ว พวกเราก็นั่งรอ...

รอ....รอ...นานมาก .......

 

 

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงอาหารจึงมา ... ได้ทราบภายหลังว่า ร้านนี้ตั้งอยู่

คนละฝั่งถนนกับซุ้มอาหาร และมีคนที่ร้านอยู่เพียง 2 คน (น่าจะเป็น

แม่ครัว กับคนบริการเสริฟอาหาร)  อิ่มหนำสำราญแล้วก็ถึงเวลาคิดค่า

อาหาร ... ก็นานนนนนมากอีก กว่าจะมาบอกค่าอาหาร...สรุปแล้วทั้ง

เวลารออาหาร  และ  รอคิดเงิน  ใช้เวลามากกว่าเวลาที่กินอาหาร

คุณมะเดื่อจึงตั้งชื่อร้านนี้ให้ว่า " ร้านอาหารใจเย็น ๆ " คือ ถ้าใจร้อนคง

ต้องเปลี่ยนร้านแน่ ๆ ... คุณมะเดื่อมองไปรอบ ๆ ซุ้มอาหารที่เป็นของ

ร้านนี้ว่างซะส่วนมาก  จึงพูดว่า " นี่ขนาดวันนี้มีแขกน้อยนะ..ยังช้า  ถ้า

หากมีแขกเยอะ ๆ คงต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน " ลุงวอบอกว่า...นับดูแล้ว

วันนี้ มีแขก 1 คน....คุณมะเดื่องง ครูหยินจึงเฉลยว่า....ก็ลุงวอญ่าไง...จึงถึงบางอ้อ..! (ตามไม่ทันจริง ๆ เลยนะไกด์เรานี่ )

 

 

ออกจากร้านอาหาร คุณมะเดื่อก็จะเดินทางกลับ เนื่องจากบ่ายสองโมง

กว่าแล้่ว แต่ทางผ่าน มีวังเจ้าเมืองเก่าให้ได้แวะชมอีกเป็นรายการส่ง

ท้าย  ลุงวอจึงพาแวะชมโดยใช้เวลาไม่มากนัก

 

 

 

วังเก่า เป็นเรือนไทยไม้สักสวยงามมาก ที่จริงที่นี่ต้องเสียค่าเข้าชม แต่

ลุงวอบอกว่า วันนี้เป็นวันครอบครัว (วันอาทิตย์) พวกเรามาเป็น

ครอบครัว  จึงยกเว้นค่าเข้าชม 

 

 

เรือไม้ตะเคียน ที่ขุดด้วยไม้ตะเคียนทั้งต้นในสภาพสมบูรณ์ ที่ใต้ถุน

วังเก่า กลางลำเรือมีเหรียญเสื่ยงทายมากมาย

 

 

บนตัวเรือนวังเก่า 

ห้องนอน

 

ภาพเก่า  เจ้าของภาพไม่ทราบชื่อ ไม่มีบอกไว้ แต่เป็นหญิงที่่

งดงามมาก ๆ

 

 

 

ภาพนี้น่าจะเป็นเจ้าเมืององค์แรกของพัทลุง

 

 

ด้านหลังวังเก่า มีวังใหม่ สร้างด้วยวัสดุแบบยุคใหม่  สวยไปอีกแบบ

หนึ่ง แบบยุคใหม่ 

 

 

ด้านหลังมีลำคลอง และมีเรือที่เคยรับเสด็จในหลวงและสมเด็จ

พระนางเจ้า ฯ จอดไว้ให้ชม

 

 

ริมคลองมีแต่แพผักกระฉูดแน่นขนัดไปหมด

 

 

สามพี่น้องพลาดไม่ได้ที่จะขอเก็บภาพหัวเรือไว้เป็นที่ระลึก

 

 

ภาพนี้...ไม่ขอบรรยายนะ...ใครทราบบ้างว่าน้องนอง...กำลังทำอะไร 

 

 

ข้าง ๆ วังใหม่ มีทานตะวันปลูกไว้ริมทางเดิน กำลังออกดอกสวยงาม

 

 

ภาพแห่งความสุขส่งท้ายในทริปนี้ของพวกเรา...ดอกทานตะวันงดงาม

เหมือนสัญญาใจของพวกเราที่มีต่อกันว่า ..จะเบ่งบานงดงาม และ

รุ่งเรื่อง สดใส เหมือนดอกทานตะวันนี้ ตลอดไป...ภาพต่อไป เราจะ

ถ่ายภาพร่วมกันที่ ...เมืองสามอ่าว...จ้ะ

 

ครอบครัวของครูหยิน และลุงวอ นำทางมาส่งคุณมะเดื่อกลับบ้านที่

สี่แยกเอเซีย...เราจับมือสัญญากันว่า...จะพบกันที่บ้านคุณมะเดื่อในวัน

ที่ 4 - 6 เมษายน 57 แน่นอนจ้ะ.....

 

หมายเลขบันทึก: 564870เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2014 23:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2014 23:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

...ตามมาชมวังเจ้าเมืองพัทลุง...รูปแบบเรือนไทยทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ผสมกลมกลืนกันดูสวยงามมากนะคะ

ดีใจที่ได้ต้อนรับกัลยาณมิตร บล็อกเกอร์ชาวโกทูโนว์

ทัวร์ครอบครัวที่ได้สาระและคุณค่า ได้ดูวิถี ซาไก

ยังเสียดายอยู่นิดหนึ่งที่ได้พาชม วิถีคนหาปลาในทะเลสาบ

เมษานี้ทัวร์ เมืองสามอ่าว

มีเวลาจะได้ไปดูช้าง ดูป่า เมืองกุย

หวัดดีจ้ะท่าน ดร.พจนา เป็นวังเก่าที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่จ้ะ วังเดิมทรุดโทรมมากแล้ว ขอบคุณที่มาให้กำลังใจจ้ะ

หวัดดีจ้ะลุงวอ มื้อเย็นที่เขื่อนยางชุมในวันที่ 4 นั้น ก็อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติป่ากุยบุรีจ้ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท