วิธีแบบสกรัม และความแตกต่างของสกรัมจากวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบเดิม


ในการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบอะไจล์นั้น มีวิธีให้เลือกได้หลากหลายวิธี สกรัม (Scrum) เป็นหนึ่งในวิธีการพัฒนาของอะไจล์ซึ่งเน้นให้สมาชิกในทีมทำงานร่วมกันและประชุมอย่างสม่ำเสมอ ในขั้นตอนการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบสกรัม ต้องมีการสร้างทีมประกอบด้วยสมาชิกภายในทีมประมาณ 5 – 9 คน ประกอบด้วย 3 บทบาท ได้แก่

  1. Product Owner
  2. Scrum master
  3. Scrum team

หน้าที่ของ Product Owner หรือ ลูกค้า คือผู้ที่ให้การสนับสนุนโปรเจ็คให้สามารถสำเร็จลุล่วงได้ เป็นผู้กำหนดขอบเขต การทำงานของระบบที่ทีมจะพัฒนา และที่สำคัญ Product owner หรือลูกค้าต้องการผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุน Product owner ถือเป็นสมาชิกคนหนึ่งในทีมของสกรัมและเป็นผู้ผลักดันให้ทีมสร้างผลงานออกมาตามลำดับความสำคัญของงาน

หน้าที่ของ Scrum master อำนวยความสะดวกให้สมาชิกในทีม ประสานการทำงานระหว่างสมาชิกในทีม และ Product owner นอกจากนั้น Scrum master ยังต้องคอยแก้ไขปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ควบคุมการทำงานให้สอดคล้องตามกฎของสกรัมและขั้นตอนของสกรัม

หน้าที่ของ Scrum team สมาชิกในทีมประกอบด้วยตำแหน่งงานทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ นักพัฒนา นักออกแบบเว็บ นักทดสอบระบบ เป็นต้น ทุกตำแหน่งในสกรัมทีมมีบทบาทและความสำคัญเท่ากัน สมาชิกภายในทีมสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทุกเรื่อง โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับตำแหน่งงานในทีม นั่นคือสมาชิกในทีมต้องช่วยกันทำงานทุกเรื่องให้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์และเวลาที่กำหนด  

          จากบทบาทและหน้าที่ของสกรัมทีม จะเห็นได้ว่าทุกคนคือทีม ทำงานร่วมกัน หากสมาชิกคนหนึ่งในทีมมีปัญหา ทั้งทีมต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาเพื่อให้งานสำเร็จ ซึ่งต่างจากขั้นตอนการพัฒนาแบบเดิมที่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน และไม่ก้าวก่ายกันเมื่อคนใดคนหนึ่งประสบปัญหาต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ทำให้สมาชิกคนอื่นที่ทำงานในทีมเดียวกัน ไม่สามารถทราบปัญหาหรือวิธีการแก้ไขปัญหา ความรู้ทั้งทางด้านเทคนิคและธุรกิจไม่ถ่ายทอดและแบ่งปันไปยังสมาชิกคนอื่นภายในทีม เป็นผลให้การทำงานของทีมล่าช้า

หมายเลขบันทึก: 564065เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2014 14:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม 2014 14:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท