จากเน้นการสอน
|
เป็นเน้นการเรียนรู้
|
จากเน้นสิ่งที่สอน
|
เป็นเน้นสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้
|
จากการได้สอนครอบคลุมเนื้อหา
|
เป็นการแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความรู้และทักษะเหล่านั้น
|
จากการมอบคู่มือหลักสูตรแก่ครูแต่ละคน
|
เป็นจัดให้ทีม PLC ได้สร้างความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับหลักสูตรที่จำเป็น
|
จากการสอบเพื่อได้- ตกนานๆ ครั้ง
|
เป็นการสอบเพื่อให้นักเรียนปรับปรุงตนเอง และครูปรับปรุงวิธีจัดการเรียนรู้
|
จากการสอบเพื่อดูว่ามีนักเรียนคนไหนบ้างที่สอบตกตามเวลาที่กำหนด
|
เป็นการสอบเพื่อค้นหานักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ให้กลับมาเรียนกับเพื่อนได้ทำ
|
จากการสอบเพื่อให้รางวัลหรือลงโทษนักเรียน
|
เป็นการสอบเพื่อสื่อสารและสร้างแรงจูงใจต่อการเรียนของนักเรียน
|
จากการสอบความรู้และทักษะหลายๆ อย่างนานๆ ครั้ง
|
เป็นการสอบความรู้และทักษะครั้งละน้อยๆ แต่สอบบ่อยๆ
|
จากการออกข้อสอบและจัดการสอบโดยครูแต่ละคน
|
เป็นการออกข้อสอบและจ้ดการข้อสอบโดยทีม PLC
|
จากสภาพที่ครูแต่ละคนเป็นคนกำหนดเกณฑ์ประเมิน
|
เป็น PLC ร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสร้างความสม่ำเสมอของการประเมินโดยครูในทีม
|
จากการเน้นการประเมินแบบใดแบบหนึ่ง
|
เป็นการประเมินโดยใช้การประเมินหลายแบบอย่างสมดุล
|
จากเน้นที่คะแนนเฉลี่ย
|
เป็นการเน้นตรวจสอบความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคนในความรู้และทักษะแต่ละด้าน
|
จากการตัดสินใจโดยครูคนเดียว
|
เป็นการดำเนินการอย่างเป็นระบบร่วมกันในทีม PLC เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการดูแลช่วยเหลือ
|
จากการกำหนดเวลาและการเรียนรู้ตายตัวสำหรับนักเรียน
|
เป็นการจัดเวลาและบทเรียนอย่างยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงได้
|
จากการสอนซ่อม
|
เป็นการเรียนเพื่อให้เข้าใจ
|
จากการช่วยเหลือตามความสมัครใจนอกเวลาเรียน
|
เป็นการเรียนบังคับในเวลาเรียน
|
จากมีเพียงโอกาสเดียวที่จะได้เรียนรู้
|
เป็นมีหลายโอกาสที่จะแสดงว่าได้เรียนรู้
|
จากโดดเดี่ยว
|
เป็นการทำงานเป็นทีม พุ่งเป้าร่วมกันที่การเรียนรู้ของศิษย์และครู
|
จากครูแต่ละคนคิดคนเดียวว่านักเรียนควรได้เรียนรู้อย่างไรบ้าง
|
เป็นทีม PLC ร่วมกันคิดว่า “ความรู้ที่จำเป็น” สำหรับนักเรียนมีอะไรบ้าง
|
จากครูแต่ละคนกำหนดลำดับความสำคัญของมาตรฐานการเรียนรู้
|
เป็นทีม PLC ร่วมกันกำหนดลำดับความสำคัญของมาตรฐานการเรียนรู้
|
จากครูแต่ละคนกำหนดความเร็วในการเรียน
|
เป็นทีม PLC ร่วมกันกำหนดและใช้อัตราความเร็วของการเรียนรู้
|
จากครูแต่ละคนพยายามค้นหาวิธีการเพิ่มผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
|
เป็นทีม PLC ช่วยเหลือกัน
|
จากครูดำเนินกิจกรรมการสอนแบบเป็นกิจกรรมส่วนตัว ไม่เปิดเผย
|
เป็นครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการสอนและวิธีทำหน้าที่ครูอย่างเปิดเผยต่อกัน
|
จากการตัดสินใจตามความพึงพอใจส่วนตัว
|
เป็นการรวมตัวตัดสินใจตามความรู้จากประสบการณ์และ best practice ที่นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
|
จากการร่วมมือกันแบบเปะปะ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
|
เป็นการเน้นความร่วมมือในประเด็นที่มีลำดับความสำคัญสูงต่อผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ของศิษย์
|
จากการคิดว่า “นี่ศิษย์ฉัน” นั่น “ศิษย์คุณ”
|
เป็น “ศิษย์ของเรา”
|
จากต่างคนต่างเป็นอิสระต่อกัน
|
เป็นการช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน
|
จากไวยากรณ์แห่งการบ่นว่า
|
เป็นไวยากรณ์แห่งความตั้งใจมุ่งมั่น
|
จากการวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว
|
เป็นการวางแผนให้เกิดผลสำเร็จระยะสั้นจำนวนมาก
|
จากการชื่นชมยกย่องเป็น “ครูดีเด่น” ปีละครั้ง
|
เป็นการยกย่องผลสำเร็จเล็กๆ ที่จำเพาะ และมีผู้ได้รับการยกย่องจำนวนมากและบ่อยๆ
|
ศาสตราจารย์นพ.วิจารณ์ สรุปว่า PLC เป็นเครื่องมือของการเปลี่ยนชีวิตครู เปลี่ยนจาก “ผู้สอน” เป็น “นักเรียน” เปลี่ยนจาก “โดดเดี่ยว” เป็น “มีเพื่อน มีกลุ่ม” รวมตัวเป็นชุมชน ทำงานแบบปรึกษาหารือและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายที่เด็ดเดี่ยวชัดเจน คือ ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ ๒๑ ของศิษย์ทุกคน
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ปัญหาที่แท้จริงของคนไทยในเรื่องการศึกษา คือ "ครูไม่อ่าน"...หมายถึง... บันทึกนี้จะไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย