สื่อสารด้วยงานเขียน..ถ้าทำได้..จะพูดเวทีไหนก็ได้
เดินทางถึงโรงเรียนแต่เช้า..ข้าวของเตรียมไว้พร้อมแล้ว ทั้งอีเอ็มขยาย น้ำหมักชีวภาพจากผักและผลไม้ ฮอร์โมนนม สารบำบัดน้ำเสีย น้ำสมุนไพรหลากหลายรส พิมเสนน้ำ ยาหม่องและข้าวกล้อง รวมทั้งปุ๋ยหมักดินดำ และเครื่องสีข้าวโบราณ ครูและนักเรียนช่วยกันนำขึ้นรถ..เดินทางไปโรงเรียนบ้านเขานางสางหัว......
ที่โรงเรียนบ้านเขานางฯ มีงานการประชุมเสวนา และนิทรรศการทางวิชาการ ที่เป็นงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ชื่องาน "พลังขับเคลื่อนสู่การปฏิรูปการศึกษา เพื่อเด็ก เยาวชนและชุมชน..จัด ๒ วัน ๑๔ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาก..แต่หลายโรงเรียนที่เป็นเครือข่ายกัน มาช่วยเตรียมงานตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนาคม..ด้วยน้ำใจไมตรีที่มีให้แก่โรงเรียนขนาดเล็ก..
และต้อนรับผู้มาเยือน อาทิ บุคลากรจากโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก โรงเรียนกุดเสถียร จากโรงเรียนพระปริยัติธรรมจากจังหวัดน่าน มีคณะครูมาจากอยุธยา-ลพบุรีและจังหวัดยโสธร ที่กลุ่มโรงเรียนเลาขวัญของผม เคยไปศึกษาดูงาน
คณะที่มานำผลงานที่เกิดจากภูมิปัญญาที่ร่วมกันถักทอความคิด ทั้งที่เป็นเอกสาร งานฝีมือ ที่บ่งบอกความเป็นไทยท้องถิ่น มาร่วมแลกเปลี่ยนกันกับโรงเรียนในสังกัดสมาคมครูอำเภอเลาขวัญและกลุ่มโรงเรียนในเขตพื้นที่กาญจนบุรี เขต ๔
ผมมีผลิตภัณฑ์พอเพียงจากกิจกรรมเกษตรอินทรีย์ของโรงเรียน ที่นักเรียนร่วมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จริงๆแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ทำเพื่อใช้เอง มีโอกาสที่จะจำหน่ายไม่มากนัก..เมื่อโอกาสเปิดและมีเวลาเตรียมการแต่เนิ่นๆ จึงทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับงานนี้..แม้จะต้องหอบหิ้วสินค้าไปขายกันเยอะแยะ
ด้วยใจจริง..อยากเห็นนักเรียนชั้น ป.๕ - ๖ ได้ใช้เวทีนี้ เป็นเครื่องมือฝึกปรือและทดสอบความกล้า ที่จะเป็นผู้ขายที่ดี เรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีมีประโยชน์ และราคาไม่แพง ให้ผู้ซื้อเข้าใจ เชื่อใจ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ และต่อยอดในครัวเรือนหรือชุมชนก็ได้
จัดของเสร็จสรรพ..ผลิตภัณฑ์บนโต๊ะดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่นานนักพิธีเปิดงานก็เริ่มขึ้น ราวสิบโมง คุณครูบอกผมให้ไปพบท่านศึกษานิเทศก์ ที่ทำหน้าที่ผู้นำการเสวนาบนเวที ซึ่งมีด้วยกัน ๔ ท่าน หนึ่งในนั้นมีผมด้วย...จริงๆผมทราบมาหลายวันแล้ว..แต่เช้าวันนี้..ผมลืมสนิท
การเสวนาแบบเป็นกันเองครั้งนี้ พิธีกรตั้งหัวข้อ ให้พูดในมุมมองของแนวคิดและประสบการณ์ของแต่ละคนที่ได้ทำงานเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา..พอถึงเวลา ๑๐.๓๐ น.ผมกับคณะก็ขึ้นเวที..การเสวนาก็เริ่มขึ้น
ผมไม่ได้เตรียมตัวแม้แต่น้อย ก็แปลกดี ที่ไม่รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใด..และได้พูดเป็นคนสุดท้ายของรอบแรก แนะนำตัวเสร็จก็บอกท่านผู้ฟังว่า พูดคนสุดท้ายและใกล้เที่ยงไม่ควรจะพูดนาน..พระคุณเจ้าท่านก็ต้องรีบไปฉันเพลด้วย
ครับ..ต้องขอบคุณโกทูโนว์..ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสบันทึกงานเขียนมากมาย พอได้เขียนและจัดลำดับความคิดได้ ถึงเวลานำไปใช้พูด ก็พูดออกมาจากใจได้ไม่ยาก..
ผมพูดว่า..จะปฏิรูปการศึกษา จะต้องปฏิรูปการเรียนรู้ในห้องเรียนก่อน ทำให้เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ได้ โดยครู..เริ่มที่จิตวิญญาณครู ที่พึงมี ๓ ประการ คือ ความเคารพ (ในผู้อื่นบ้าง ทำงานด้วยกันได้ อย่าทะเลาะกัน) ความศรัทธา (ในวิชาชีพ /องค์กร เพื่อนร่วมงานและตนเอง) สุดท้ายต้องมีความมุ่งมั่น (ที่ปรารถนาจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จ...)
รอบที่สอง..พฺิธีกร ให้ ๒ นาที ผมต้องสรุปแล้ว
" การทำงานเพื่อเด็ก..ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำด้วยใจ อย่าหวั่นไหวกับความยากลำบากและขาดแคลน.. การปฏิรูปการศึกษา ผู้บริหารต้องพร้อมจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง แน่นอน ต้องพบปัญหาและอุปสรรคบ้าง ต้องอดทน อย่าท้อถอย ขอให้สู้..เริ่มใหม่ได้..ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้..."
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗
ความเห็น (6)
เข้ามาเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงครับ.... ขอบคุณครับ
...ปฏิบัติจริง ทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร มีผลงานเป็นที่ประจักษ์นะคะ
..แวะมา..เคารพ..ค่ะ..ร้องเพลงนี้ได้แล้ว.."ใจ..สู้รึเปล่า"....(บางครั้งต้องแอบๆ..ถามตัวเอง ต่อไปเรื่อยๆๆและเรื่อยๆ)..แล้วมันก็ลงตัว..อย่างไม่ต้อง..จัดสรรค์..นะเจ้าคะ...คุณครูผู้ยิ่งยง...(ขอขอบพระคุณอีก..ครั้ง..ยายธี..)
ผู้บริหารต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทุกวงการค่ะอาจารย์ ไม่เฉพาะการปฏิรูปการศึกษา
นิทรรศการ มีชีวิต ที่เกิดจาการทำ KM สุดยอด
จิตวิญาณ ความเป็นครู .... ประโยคนี้ดีจังเลยค่ะ เพราะบอกถึงความเป็น "วิชาชีพ" นะคะ ^_^