พี่เล็ก-OR จูงมือข้าพเจ้าแบบเชื้อเชิญให้ดินตามหลังจากร่วมสามชั่วโมงที่เราแบ่งปันในแนวคิดเรื่อง R2R ข้าพเจ้าเดินตามไปแบบงงๆ พร้อมกับสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัวไปด้วย จากชั้นสามเราเดินขึ้นไปบันไดไปชั้น 4 พี่เล็กก็ยังไม่เฉลยว่าไปดูอะไร จนเรามาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งซึ่งเพิ่งเสร็จการผ่าตัด
แล้วหยุดอยู่ที่อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งซึ่งอยู่เหนือเตียงฝาตัด พี่เล็กเล่าว่านี้ใช้สำหรับการผ่าตัดตา ว่าแล้วพี่เล็กก็สาละวนหาอุปกรณ์มาเพื่อจะสาธิตบางสิ่งบางอย่างให้ข้าพเจ้าดู
พี่เล็กหยิบผ้าสามเหลี่ยมขึ้นมาชิ้นหนึ่ง พร้อมเล่าว่าจะนำมาใช้ในการคลุมกล้องขณะที่หมอผ่าตัดตาแต่ผ้านี้ใช้ยุ่งยากมากเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและไปสัมผัสกับผู้ป่วยและไม่เป็นไปตามหลักการปราศจากเชื้อได้
ในขณะนั้นข้าพเจ้าก็ยังเป็นงงๆ แต่พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่พี่เล็กกำลังเล่า
จนกระทั่งพี่เล็กบอกว่า "มันยุ่งยากนะ เพราะบางทีผูกผ้าไม่ดีหลุดแล้วไปสัมผัสผู้ป่วย แต่พี่ก็พยายามหาแนวทางนะ ไปเห็นนวัตกรรมที่เขาพัฒนาเย็บเป็นรูปทรงเข้ากับกล้องพอดี แต่พี่ก็พบว่ากว่าจะสวมผ้านั้นเสร็จหากน้องพยาบาลคนไหนไม่ชำนาญก็อาจใช้เวลานานเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของแพทย์"
"พี่ก็ไปคิดนะ...ที่ OR มีถุงพลาสติกไว้ใช้..." ว่าแล้วพี่เล็กก็หยิบถุงที่ถูกแพ็คไว้อย่างดีหยิบขึ้นโชว์ให้ดู
"นี่ผ่านการอบแก็สทำให้ปราศจากเชื้อแล้วนะ..." พี่เล็กยิ้มอย่างเบิกบานพร้อมบอกว่าอยากเล่าให้ ดร.กะปุ๋มฟังมากเลย
"พี่ก็ไปตัดพลาสติกอีกมุมหนึ่ง แล้วนำมาครอบกล้อง มันง่ายมากเลยนะ ไม่ต้องคอยเก็บชายผ้า ไม่ต้องระวังว่าเวลาที่ผูกมันจะหลุดไปปนเปื้อนกับผ้าหรืออุปกรณ์ที่ทำให้ปราศจากเชื้อ..."
ว่าแล้วพี่เล็กก็สาธิตวิธีการใช้พลาสติกครอบกล้องที่อยู่เหนือเตียงผู้ป่วยที่ผ่าตัดตาทำให้ดูอยู่หลายรอบ
ข้าพเจ้าก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า "มันง่ายนิดเดียว..."
"แล้วทำไมเราต้องไปทำให้มันซับซ้อนด้วยล่ะ"
ชื่นใจมาก...เห็นประกายแห่งความสุขที่ฉายออกมาผ่านใบหน้านักพัฒนางานประจำ
หลายชิ้นแล้วที่ได้เห็นการทำเรื่องยากให้มันง่าย ทำเรื่องที่ซับซ้อนให้มันเรียบง่าย
ถือว่าคุ้มค่าและเต็มอิ่มมาก
แล้วเราก็นัดกันอีกครั้งเพื่อที่จะมาค้นหาและตามรอยเรื่องราวดีดีที่ปรากฏขึ้นยังกับดอกเห็ด
สำหรับวันนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก
...
๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๗
น่านนะซิ ทำให้ยากทำไม นิ
ทำยากให้ง่าย ยากกว่า ทำง่ายให้ยากนะ
แต่พอทำสำเร็จแล้ว ผลลัพธ์คือ ปลอดภัย และ ลดงาน