เวทีครูเรียนรู้ศิษย์
จากการที่ได้ดำเนิน LLEN มาไม่นานก็ถึงคราวปิดตัวลง เเต่การเรียนรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด ในคราวนี้เป็นเวทีเเห่งการเรียนรู้เช่นเคย ที่จัดอยู่ ณ MK PARK หรือห้องสมุดเเห่งการเรียนรู้มหาสารคาม การเรียนรู้ในครั้งนี้เป็นของครุที่ครูจะมาเรียนรู้จากศิษย์ จากกันเเละกัน เพื่อที่จะเรียนรู้ในการเป็นโคช ของครูเอง กิขกรรมในวันนี้จัดขึ้นวันที่ 14 กรกฏคม 2555 ซึ่งในครั้นั้นกระผมเองก็ได้ขึ้นม.ปลายไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ครูชวนมาเราก็เลยมา เรามาดูว่าเป็นอย่างไร เพราะในเรื่องของ ทักษะเเห่งการเรียนรู้ในศตวรรตที่ 21 นั้นเราก็ยังอ่อนหัดอีกมาก มาในครั้งนี้มากัน 4 คนเช่นเคย ในครั้งเเรกๆก็รู้สึกตื่นเต้น เเต่พอครั้งหลังๆ ความรู้สึกตื่นเต้นนั้นก้หมดไปเพราะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ในงานของครูที่มาเรียนรู้กับศิษย์ในคราวนี้ เราก็ได้รับโอกาสสำคัญ ไปนั่งให้ครูหัดฝึกตั้งคำถามกับเด็กอย่างเรา ในครั้งนั้นกระผมเองก็ไม่รู้สิ่งใดเลย อาจารย์ ดร.เอ็ม ก็บอกว่ามานั่งๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่านั่งอะไร มารู้ในภายหลังมาที่ให้มานั่งนี้ ผมก็นึกว่าให้นำเสนอโครงงานตนเอง เเล้วก็มานั่ง เเล้วกระผมเองก็พูดไปๆ ครูก็เหมือนกับวา่สัมภาษณ์ไปว่า สิ่งที่หนูทำนั้นเป็นอย่างไร ใช้งบเยอะไหม คิดว่าในคุ้มค่าไหม คิดว่าจะเกิดผลอย่างไร ฯ ซึ่งกระผมเองก็ตอบไปทีละข้อๆ จนเริ่มที่ตาลาย ครูบางท่านก็นั่งรับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ได้พูดอันใดเลย ครูหลายท่านก็ซักถามอย่างตั้งใจ บางท่านก็ถามชี้ให้เห็นว่าเราบกพร่อง ครูบางท่านก็ให้กำลังใจ ตอบไปตอบมาอยู่นานพอสมควร ครูก็เเยกวงกันออกเป็น 4 วงเพื่อเรียนรู้กับศิษย์ (คราวนี้ศิษย์เป็นครู) เราก็อธิบายไปได้พักใหญ่ๆ ก็หมดเวลา ณ ช่วงนั้นลงไป
กิจกรรมในวันนั้นไม่ได้มีเพียงให้ศิษย์มาเป็นครูกับครูอย่างเดียว ในช่วงเเรกๆที่เข้ามา เป็นช่วงของการละลายพฤติกรรมเข้าหากัน โดยนักเรียนเราเอง เพื่อนเราเอง เเละเราเอง ที่ละลายพฤติกรรมของครุเข้าหากันด้วยกิจกรรมสันทนาการตามเคย เเต่คราวนี้เราไม่ได้เล่นกับเด็ก เเต่เราเล่นกับผู้ใหญ่เเถมยังผู้ใหญ่ไฟเเรงอีกต่างหาก เพลงที่เราให้เล่น คือ เปายิ้งฉุบต่อเเถว ใครเเพ้ก้ไปอยู่ด้านหลัง ใครชนะก็มาอยู่ด้านหน้า เเล้วก็ทำเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงสองทีมสุดท้าย เเต่ครูผู้ใหญ่ไฟเเรงก็เต้นไปตามเรา ตามจังหวะ "ซ้ายเเล้วก็ซ้าย ขวาเเล้วก็ขวา" เมื่อครูเล่นกับเราด้วย ไฉนเลยมันจะไม่สนุก รอยยิ้มเกิดขึ้นในขณะเล่น เเล้วเสียงบ่นเกิดขึ้น เมื่อเล่นจบเพราะ ปวดหลัง ปวดเอวไปตามๆกัน หลังจากกิจกรรมนี้เเล้วนั้น อาจารย์ ดร.เอ็ม ก็ให้ทั้งครูเเละนักเรียนชมวิดีโอเรื่องหนึ่ง ซึ่งในเรื่องนี้มีชื่อว่า 2+2=5 ซึ่งในครั้งเเรกชื่อนี้ผมก็คิดว่ามันเเปลกๆ อะไรสักอย่าง เเล้ววิดีโอก็ฉายขึ้นมา มีใจความตรงนี้ที่ว่า ครูคนหนึ่งสอนนักเรียนว่า 2+2=5 นักเรียนคิดว่ามันผิด เพราะ 2+2=4 ต้องเท่ากับ 4 สิถึงจะถูก เเต่ครูก็บอกว่า 2+2=5 เพราะครูถูกเสมอ ดังกฏ 2ข้อ นี้ คือ 1.ครูผู้สอนถูกเสมอ 2.หากคิดว่าครูผู้สอนไม่ถูกให้กลับไปดูที่ข้อ 1 เเล้วครูคนนั้นก็โมโหขึ้นเพราะนักเรียนไม่เชื่อฟังตนเอง ครูกดดันเด็กว่า ถึงอย่างไร 2+2 ก็ต้อง = 5 เเล้วนักเรียนก็เริ่มเชื่อในบางส่วนเพราะครู คือ ครู เเล้วมีเด็กคนหนึ่งก้าวขึ้นมาบอกว่าครูผิด เเล้วครูก็ลงโทษให้เป็นเเบบอย่างว่าอย่าพูดเช่นนี้อีกเพราะไมันไม่ถูก ก็ทำให้เด็กคนอื่นๆนั้นรู้อยู่ว่า 2+2=5 เเต่ก็ต้องทนครูเเล้วบอกว่า 2+2=4เรื่อยมา ได้ชมวิดีโอนี้เเล้วเราเองก็รู้สึกสลดใจอยู่นิดๆ เเละคิดว่าครูเเบบนี้ก็มีด้วยหรือ หรืออาจจะมีอยู่หลายคน(ในมุมตนเอง) ก็เป็นได้ เเล้วหลังจากที่ได้ชมวิดีโอเเล้วนั้นก็มาเข้าการเรียนรู้จากนักเรียนโดยครูฝึกตั้งคำถามไป..
กิจกรรมในวันนี้นับว่ากระผมเองได้เรียนรู้อยู่หลายอย่างด้วยกัน คือ การที่ครูจะตั้งคำถามกับเราได้นั้นมันไม่ง่ายเลย จำต้องหัดกันไปตามทักษะของเเต่ละบุคคล การเป็นโคชนั้นเป็นคนที่คอยตั้งคำถาม มิใช่การตั้งคำตอบ การตอบนั้นเป็นเรื่องของนักเรียน การเรียนรู้ในศตวรรตที่ 21 นั้นพึ่งเริ่มต้นขึ้น กว่าจะเปลี่ยนเเปลงได้ก็คงจะนานพอสมควร ผลพวงของ LLEN มหาสารคามนั้นในวันนี้เราก็ได้โอกาสมาต่อยอดการเรียนรู้ต่อไป การเรียนรู้ในวันนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากครูยึดตนเองว่าตนเป็นครู วันนี้ครูเรามีความยืดหยุ่น มายอมปรับเเละปรับเข้าสู่การเรียนรู้ในยุคใหม่ ถือว่าเป็นผู้ผู้ใหญ่ไฟเเรง เเรงจริงๆ ...
ขอชื่นชมครูเพื่อศิษย์ และบทเรียนรู้ที่เป็นแบบอย่างที่ดีค่ะ
ดีมากๆ นะคะ .... ครูและศิษย์ ...ต่างฝ่าย ต่างเรียนรู้กันนะคะ
ตามมาชื่นชมและให้กำลังใจครับ