ได้เรียนรู้อะไรบ้างกับการเดินทาง
ตลอดการเดินทางไม่ใช่ใจไม่มีกิเลส ยังมีและมากด้วย
แต่ถ้าหันสู้เอง หัดเผชิญ ไ่ม่ปล่อยใจให้ไหลไป แบบสู้ครูก็ให้โอกาส
ที่ผ่นมาเพราะไม่สู้ครูเลยออกแรง
เพราะรู้สึกกับตนเองว่า การเริ่มต้นของการเดินทาง อะไรๆเต็มไปด้วยความ ไม่พร้อม
กิเลสที่ติดความเพอร์เฟค ก็คอยบีบคั้น งานที่ครูมอบหมายใจรู้สึกถถึง "ภารกิจ คือ กำลังใจ" การตอบสนองไม่ใช้ภาระ เหมือนที่ผ่านมาที่ใจเห็นผิด
ระหว่างที่วิถีชีวิตหนูหลวม. ๆ เตรียมตัวรอเดินทาง แต่ครูรับภารงานหนักมาก ต้องคุยกับคนไข้จำนวนมาก
แล้วก็ยังต้องออกเดินทาง มาทำงานเพื่อผู้อื่น ชีวิตท่านเต็มไปด้วย การคิด พูด ทำ เพื่อการสร้างประโยชน์กับผู้อื่น"
ถึงสนามบินอุบลได้ทันเวลา แต่สิ่งที่เห็นใจมันทำงานคือ พอใกล้ๆจะถึง ทั้งๆที่มีเวลาพอ มันก็บีบคั้นใจตนเองให้เร่งรีบ
แต่ธรรมดาตอนไม่มีสติ ยิ่งรีบยิ่งช้า ครานี้พยายาม ไม่ให้ไฟข้างในที่ร้อนขึ้น สาดออกมาข้างนอกด้วยการหายใจแรงๆแล้วบริกรรม
แค่พอได้ พอถึงสนามบินดอนเมือง ประสานรถออกเดินทางต่ออีก 3 ชั่วโมงตั้งใจกับตนเอง ผ่อนแรง และไม่หลับในรถ ลองนั่งนิ่งๆแล้วท่อง พุทโธอยู่ในใจ อาการสาดความร้อน เงียบลง ไม่ถึงกับนิงเบาสบาย. แต่มีไหลไปคิดฟุ้งบ่อย ๆ และเบาบ้างป็นครั้งคราวสลับไปมา แต่ใจสัมผัสไปที่ครูคือ ความเบาว่าง ไม่มีอะไร
แต่พอรถจอดหนูลง ไปซื้อของ เซ็งตนเองที่ไม่ได้ยินเสียงครู แค่นี้ยังทำไม่ได้ เป็นคำตอบของตนเองว่า ไม่พอ
ขึ้นรถพยายามท่อง คราวนี้ดูจะยากขึ้น เพราะใจฟุ้งหนักขึ้น อาจเพราะเข้าเขตจันทบุรี รู้สึกถึงความคุ้นเคย
เรื่องราวที่เคยทำอะไร ที่นี่ ไหลฟุ้งขึ้นมา ทั้งราคะ โทสะ โมหะ ปนมาในเรื่องราวที่ฟุ้งขึ้นมา เรื่องที่ลืมไปแล้ว ค่อยๆจำได้ เรื่องที่จำไม่ได้ ไหลขึ้นมาให้คิดค้น
ใจมันเป็นแบบนี้เลยต้องมีครู
มันเอาแน่เอานอนไม่ได้
ท้องฟ้าสวยมาก
ตอนนี้อยู่ระยองครับ
การจะไปนิพพานนั้นลำบากนัก พระพุทธเจ้าบำเพ็ญทุกขกริยาถึง 6 ปี จึงจะเดินสายกลางได้ถูกต้อง ผิดกับชุดรัฐบาลเหมือนมาจากนรกเปรต กอบโกยให้ชาวนาเดือนร้อน