วันที่ 10 ก.พ.57 เวลา 15.08 น. หลานสาวฉันส่งข้อความสั้นมาหาฉัน “ดา..หนูไม่ได้เอาอุปกรณ์ผสมพันธุ์มาเพราะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ต้อนโดนครูอ้อมด่าแน่ๆ” (ขอโทษนะที่เอาความลับมาเปิดเผย.. ฮา..) แสดงว่าเธอกำลังเดินทางไปวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี เพื่อร่วมงาน อกท. ชาติ ครั้งที่ 35 ตามที่เคยแจ้งไว้แล้วใน บันทึก “เส้นทางสู่ฝัน... ที่ฉันไม่ได้เลือก ภาค 3 @วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน”
ฉันไม่รอช้ารีบโทรศัพท์กลับไปหาเพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทันที จากการสอบถามฉันสัมผัสได้ถึงอาการกังวนขอเธอและผองเพื่อน ฉันจึงแนะนำไปว่า “ยังมีเวลาเหลืออีกหลายวันกว่างานจะเริ่มให้รีบบอกครู เพื่อที่ครูจะได้คิดหาทางแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ” เธอนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา “หนูไม่กล้าคะ แต่หนูได้ให้เพื่อนที่จะเดินทางมาทีหลังนำมาให้แล้วคะ” ฉันกำชับให้เธอย้ำเพื่อนไม่ให้ลืม เพราะหากเกิดลืมจะเสียงานใหญ่พร้อมกับสำทับว่า “หนูน่าจะบอกครูเลยดีกว่า” แต่เธอก็ยังยืนกลางที่จะไม่บอก และขอหารือเพื่อนก่อน แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าไรเธอ.. เพราะเธอได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาแล้ว เพียงแต่สะกิดให้เธอจำเป็นบทเรียนไว้เพื่อไม่ให้เกิดข้องผิดพลาดในคราวต่อไป
คล้อยหลังจากนั้นไปประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงเธอโทร.กลับ มาหาฉันอีกครั้ง และบอกกับฉันว่า “ดา.. หนูบอกครูแล้ว ครูไม่ดุเลย” ทำให้ฉันเข้าใจถึงความเป็นเด็กของเธอ บางทีบางเวลาด้วยความที่เราเป็นเด็กเราจะคิดและนึกสรุปเหตุการณ์ไปเองก่อนเสมอ ว่าต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้ จนบางครั่งเราคิดจนหลอน กับเรื่องนี้ฉันสอนหลานฉันทุกคนเสมอว่าการอยู่ในสังคมคนหมู่มาก “ยิ่งเราคิดบวกได้มากเท่าไรก็จะดีมากเท่านั้น เพราะเพียงแวบหนึ่งของความคิดลบ มันอาจทำลายมิตรภาพเราได้” ฉันจึงหวังว่าสักวันหลานฉันจะเข้าใจโลกได้มากกว่านี้
งาน อกท. ชาติ ครั้งที่ 35 ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15 – 19 ก.พ.57 ฉันแอบติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของทีมงานเคพกูสเบอรี่..”หน่วยลำพูน” ผ่านการแอบส่องเฟสบุ๊คของอาจารย์อ้อมวันแล้ววันเล่า อาจารย์เองก็ใจดีขยันเอารูปกิจกรรมของหน่วยลำพูนมาลงให้ชมเป็นระยะๆ ถึงความคืบหน้าของการเตรียมงานตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างร้านนิทรรศการ การตบแต่ง การจัดเรียง จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์พร้อมรับแขกที่มาเยี่ยมชมร้าน “เคพกูส เบอรี่ ผลไม้เพื่อสุขภาพ” เห็นจากความร่วมมือร่วมใจ ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งใจเดียวของทีมงานแล้ว ในฐานะกองเชียร์อดปลื้มใจแทนคณะผู้บริหาร และครูที่ปรึกษาของเด็กๆ กลุ่มนี้ไม่ได้
และแล้ววันที่ 17 ก.พ.57 ก็คืบคลานมาถึงวันที่เป็นหัวใจของงานเพระเป็นวันที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี วันนั้นฉันเปิดโทรทัศน์ช่อ NBT ตอนเก้าโมงกว่าๆ ฉันเห็นภาพบรรยากาศในงาน ฉันเห็นสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรร้านนิทรรศการของแต่ละภาค แต่ละหน่วย เห็นเด็กๆ นำเสนอผลงานที่เตรียมมาด้วยความมั่นใจ เห็นพระองค์ทรงทอดพระเนตร ทรงถาม และทรงจดรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ถามไว้ในสมุดบันทึกเล่มเล็กไว้แทบทุกคำตอบ ฉันรู้สึกปราบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก
การถ่ายทอดดำเนินไปเรื่อยๆ จนมาถึงร้านนิทรรศการของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน ฉันเห็นพระองค์ทรงเดินเข้าไปรับฟังการบรรยายจาก นายตะชิ น้อง ปวช. ปี 2 ที่ได้รับโอกาสให้นำเสนอผลงานเกี่ยวกับภาพรวมภาพรวมของเคพกูสเบอรี่ ตลอดจนการนำมาแปรรูป จากนั้นพระองค์ก็เสด็จไปที่หลานสาวของฉัน... ซึ่งเธอได้รับโอกาสจากคณะครูให้นำเสนอเกี่ยวกับขั้นตอนการขยายพันธุ์เคพกูสเบอรี่ ฉันเหลือบเห็นครูเหยี่ยวยืนอยู่ข้างๆ เธอ ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอนำเสนออะไรให้พระองค์ฟัง และพระองค์ได้ทรงถามอะไรเธอหรือไม่ แต่ที่ฉันรู้คือฉันปราบปลื้มและอิจฉาเธอ
การจัดงาน อกท. ชาติ ครั้งที่ 35 จบลงพร้อมกับการมอบรางวัลชนะเลิศให้กับหน่วยที่นำเสนอผลงานนิทรรศการทางการเกษตรดีเด่น “หน่วยลำพูน” ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ “รางวัลชนะเลิศการประกวดนิทรรศการทางการเกษตร การประชุมวิชาการองค์การเกษตรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระดับชาติ ครั้งที่ 35”
ในวันนี้ฉันไม่อาจล่วงรู้ความรู้สึกของผู้บริหาร คณะครูที่ปรึกษาฯ บุคลากร และบรรดานักศึกษาในวิทยาลัยฯ ทุกคนได้ แต่ในฐานะกองเชียร์บวกกับภาพถ่ายที่ฉันเห็นจากเฟสอาจารย์อ้อม..เล่าให้ฉันฟังแล้วว่า ทุกคนดีใจ ทุกคนปราบปลื้มใจ และทุกคนไม่เสียดายกับความเหนื่อยยากลำบากมาเกือบทั้งปี มันคือบทสรุปที่ฉันเลือกให้หลานๆ ฉันมาเรียนเกษตร.. เพราะเกษตรมิเพียงสอนให้เรียนรู้ในหลักวิชาการ หากแต่เกษตรยังสอนให้เรา “รู้รักสามัคคี” ตามพระดำรัสของพ่อหลวงไทยโดยทางอ้อม จนบางครั้งคนปฏิบัติไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าได้ดำเนินตามพระดำรัสพ่อหลวงไทยแล้ว....
วันแห่งความสุข...
ความภาคภูมิใจของหลานสาว ได้ถ่ายรูปกับท่าน ผอ.
ให้ความรู้น้องๆ อย่างเป็นมิตร
** ดา.. เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลกว่า “น้า” ซึ่งคือ น้องของแม่/พ่อ ในภาษาไทย
*** ภาคหน้า จะเก็บตก... กว่าจะมาเป็น “รางวัลชนะเลิศ” มาฝากครับ “พาดีซอ” ขออนุญาตเก็บข้อมูลสักระยะ
ปล. ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการ คณาจารย์ บุคลากร น้องๆ นักศึกษาทุกท่านที่ให้โอกาสหลานๆ ผมได้ยืนอยู่ในรั้ววิทยาลัยแห่งนี้...
มาชื่นชมหลานสาวคนเก่ง ของ"ดา"
แล้วลุงนี้เรียกอะไร น่ะครับ
ลุงจะได้ชื่นชมด้วย
ตะ บลึ "พาตี่" วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
คำว่า "ลุง" หรือ "น้า" คือคำว่า "พาตี่" ครับ
คำว่า "ตะ บลึ" แปลว่าขอบคุณครับ
แต่ถ้าคำว่า "ต่า ปลื่อ" แปลว่า "ผีบ้า" ครับ
*** จุ๊ๆๆ.. สองคำนี้อย่าเผลอไปใช้สลับกันนะครับ... เดี๋ยวจะหาว่า "พาดีซอ" ไม่เตือน 555++
รู้สึกมีความสุขไปกับหลานๆ และคณาจารย์ บุคลากร น้องๆ พี่
ในสังกัดวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน ทุกคนครับ..
-สวัสดีครับ
-ตามมาร่วมแสดงความยินดีด้วยครับ
-เยี่ยมมาก ๆครับ..
ดา ... พระเทพ เสด็จ วันที่17 น่ะดา
ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ .. :D