ปัจฉิมนิเทศ นักเรียนแพทย์ปี ๖ ม.อ.

ผมต้องมาร่วมงานนี้ ตั้งใจไว้เกือบเดือน "ปัจฉิมนิเทศลูกศิษย์"

 

๕ ปีที่แล้ว เขาให้ผมไปเป็นครูประจำกลุ่มนักเรียนแพทย์กลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มเรียน PBL ที่เขาต้องเรียนด้วยกันตลอดทั้งปี และแน่นอนว่าเขาและเธอเหล่านั้นต้องอยู่กับผมไป ๑ ปีด้วยเช่นเดียวกัน

ในวาระของการเป็นครูช่วงนั้น ผมมีเวลาเหลือเฟือ ไม่ได้เป็นรองหัวหน้าภาควิชา ไม่ต้องทำงานบริหารโรงพยาบาล ดังนั้นจึงใช้เวลากับนักเรียนกลุ่มนี้ได้พอสมควร

ตั้ม เตย ตาล กอล์ฟ แดน ชิว ฟ้าใส จ๊ะเอ๋ มะห์ และซัน เป็นเด็กที่ผมกำลังเอ่ยถึง

นอกจากจะเข้ากลุ่มเรียนด้วยกัน พวกเด็กๆเหล่านี้ยังต้องทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกันอีกด้วย ซึ่งเขาเลือกที่จะไปทำกิจกรรมให้เด็กโรคเรื้อรังที่วอร์ดเด็ก ๒ ผมจำได้ว่า ในช่วงที่คุยกันตอนนั้น เราอยากสอนหนังสือเด็ก หรืออ่านหนังสือให้เด็กฟัง เพราะกลุ่มที่เป็นโรคเรื้อรังเหล่านี้จะขาดเรียนจนเขียนอ่านกันไม่ออก และพวกเขาก็ทำได้ดี จนผมนำมาบันทึกเรื่องราว "นักศึกษาแพทย์อยากทำความดี" ไว้ใน http://www.gotoknow.org/posts/312567 และเป็นที่มาของบันทึกเรื่องแบบนี้อีก ๔ ปีต่อมาสืบเนื่องกัน

ครั้นแยกย้ายเมื่อจบปี ๒ ไปแล้วก็ไม่ค่อยได้พบกัน จนกระทั่งขึ้นมาอยู่ปี ๕ และเมื่อนั้นผมก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างเสียแล้ว

 

หากไม่เอ่ยถึงลูกศิษย์กลุ่ม PBL ของผม ก็จะพูดถึงลูกศิษย์ทั้งชั้นในปีนี้ ปีนี้เป็นปีที่มีความกลมเกลียวสูง สนุก เร้าใจและไม่น่าเบื่อ

กลมเกลียว ร่วมกันทำงาน ร่วมกันอ่านหนังสือ จนวันนี้ท่านคณบดีบอกว่า ผลการสอบวัดผลหรือ NT ของรุ่นนี้ ได้ที่ ๑ ของประเทศ ซึ่งผมไม่ได้แปลกใจเลย

สนุก ดูเขาเรียนสนุก เกรียนบ้าง แต่ก็ยังดูสนุก เวลาสอนหนังสือครูเลยรู้สึกสนุก อันนี้พบได้ไม่บ่อยในกลุ่มเด็กเรียนเก่ง

 

วันนี้ผมจึงอยากมาร่วมงานปัจฉิมนิเทศของรุ่นนี้ และได้มาจริงๆ

เขาเริ่มงานด้วยการสนทนาของแพทย์รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ช่วงนี้ผมมาทันในช่วงท้าย นัยว่า เป็นการพูดเพื่อให้ว่าที่หมอใหม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไปพบชีวิตจริงข้างนอก เท่าท่ีจับความได้ก็มีเรื่อง การฟ้องร้อง การชันสูตรศพ การสร้างมิตรในที่ทำงาน และที่หมอพัฒน์ได้ฝากน้องไว้ก็คือ การวางแผนด้านการเงิน (น่าทึ่งมาก)

จากนั้นนักเรียนแพทย์รุ่นน้อง น่าจะเป็นชั้นปี ๑ ลงมาร้องเพลงให้พี่ๆฟัง เป็นเพลงที่นักศึกษาแพทย์แต่งเอง ไพเราะจับใจอย่างบอกไม่ถูก ฟังแล้วหัวใจมันระรื่นชื่นฉ่ำหัวใจ ในวรรคท้ายๆ เขาได้หยิบยกพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนกมาไว้ในเนื้อเพลง "ขอให้ถือประโยชน์สวนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง" และเขาบอกว่า อยากให้เป็นหมอทั้งตัวและหัวใจ อะไรทำนองนั้น มันเพราะมาก นักเรียนปี ๖ หลายคนถึงกับซับน้ำตา

จากนั้นก็เป็นการเล่นดนตรีและร้องเพลงจากนักศึกษาแพทย์นักดนตรีเอกท่านหนึ่ง ที่ร้องเพลงได้ไพเราะจนท่านชวนได้เอ่ยปากชมออกมา

ครับ วันนี้ท่านชวน หลีกภัย ได้ให้เกียรติมาร่วมงานปัจฉิมนิเทศรุ่นนี้ด้วย ท่านได้พูดคุย เล่าประสบการณ์บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต การให้พวกเรามีงานอดิเรก การทำคลินิก (ท่านบอกว่า ทำเถอะ คลินิกทำให้เรามีรายได้เลี้ยงชีพ ช่่วยทำให้คนที่เขาอยากหาหมอโดยเฉพาะได้มีโอกาสเข้าถึง ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล และที่สำคัญ คลินิกมิได้ขัดกับอุดมการณ์ของการเป็นหมอแต่อย่างใด) และสุดท้ายท่านได้ให้โอวาทพวกเรา เรื่องหนึ่งที่รู้ว่าดีและน่าจะเป็นประโยชน์ก็คือ "หลักธรรมาภิบาล" หรือ good governance จึงขอนำมาลงไว้ ณ ที่นี้

หลักธรรมาภิบาล

1 หลักนิติธรรม

2 หลักคุณธรรม

3 หลักความโปร่งใส

4 ความมีส่วนร่วม

5 ความรับผิดชอบ

6 หลักความคุ้มค่า

7 หลักความไม่เกรงใจ ต่อความไม่ถูกต้อง

เป็นเกียรติมากจริงๆที่ได้ฟังท่านครับ

ในช่วงท้ายได้มีโอกาสรับไหว้ลูกศิษย์ รับมาลัยมะลิ และเรามีของที่ระลึกเตรียมไว้ให้เขาด้วย ผมบอกลูกศิษย์บางคนไปว่า "ขอบคุณที่มาช่วยทำให้ฉันรู้สึกว่าได้เป็นครู" ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

ธนพันธ์ ๒๔ กพ ๕๗

   

 

[ผศ.ดร. ทิพยวรรณ นิลทยา]

ชื่นชมกิจกรรมแพทย์ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์นี้ค่ะ