อย่าหยุดที่จะฝัน


    ตั้งแต่เด็กจนโตความฝันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะว่าความฝันมีมากมายที่อย่างจะทำ ตอนเด็กฝันว่าอยากเป็นตำรวจ  พอโตขึ้นอีกนิดมาอยากเป็นพนักงานเทศบาล ที่อยากเป็นเพราะเห็นน้าทงานอยู่เทศบาลแล้วได้เดินทางไปดูงานที่ต่างๆบ่อย เลยคิดที่อย่างจะเป็นพนังงานเทศบาลเหมือนน้า พอโตขึ้นมาได้เรียนในชั้นมัธยมศึกษา มีความฝันไว้ว่าอยากจะเรียนเกี่ยว รัฐศาสตร์ เพื่อที่จะสานต่อความฝันต่อเด็กที่อย่างเป็นพนัังเทศบาล เพราะเรียนทางนี้จะได้ตรงสายงานพอดี และพอถึงตอนชั้น ม.6 จะได้ไปใช้ชีวิตใฃนรั่วมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ทำให้เรามีความมุ่งมั่นที่จะเรียน รัฐศาสตร์  พอมีโควต้าทางมหาลัยมาถึงโรงเรียน ก็เลือกลงรัฐศาสตร์เป็นอันดับแรกเลย และลงครูเป็นอันดับถัดไป เพราะว่าความฝันอยากเป็นครูก็มีอยู่บ้าง แต่เมื่อก็เคยคิดว่าเป็นครูต้องมีความกล้าแสดงออก มีความกล้าในการตัดสินใจ แต่ตอนนั่นเป็นคนขี้อายมา ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้ขี้อาย เรากลับถึงเรื่องโควต้าดันดีกว่า พอทางโรงเรียนได้ส่งแบบโควต้าที่เราได้เลือกมาทางมหาลัย ก็มีความหวังเล็กๆที่จะได้เรียน  พอมาถึงวันประผลโควต้า รู้สึกดีใจมากที่จะได้รู้ว่าจะมีที่ได้เรียนและได้เรียนตามที่เอาได้เลือกไว้หรือไม่  และเมื่อเพื่อนที่ส่งโควต้าด้วยกันเข้าไปดู ก็ฝากเพื่อให้ดูเผื่อด้วยเพราะไม่กล้าดู กลัวจะตื่นเต้นเข้าไปใหญ่  ก็เลยรอฟังคำตอบจากเพื่อน พอรอสักพักเพื่อนก็มาบอกว่า ติดโควต้า ก็เลยถามสวนไปเลยได้โควต้าของ เพื่อนมันบอกว่าได้เรียนครู ไม่ได้เรียนรัฐศาสาตร์ ก็มีแอบเสียใจเล็กๆ แต่ก็ไม่เป็นไรเรียนครูก็ได้ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า เราจะสามารถลบความขี้อายออกจากตัวไปบ้าง และจะได้มีความกล้าที่จะตัดสินใจ และพอได้เข้ามาเรียนในรั่วมหาวิทยาลัย ในสายวิชาชีพครู ตอนเรียนในปีแรกๆก็คิดว่าเรียนครูก็ไม่ยากอย่างที่คิด แต่พอเรียนมาจนถึง ปี3 ปี4 ก็เริ่มที่จะรู้ถึงความยากในการที่จะเรียนในสายวิชาชีพครูแล้ว เพราะว่าการที่เราจะออกไปเป็นครู มีขั้นตอนในการที่จะต้องเรียนรู้ และจะต้องศึกษาอีกมากมาย

    และมาถึงวันนี้ก็อยู่ ปี4 เทอมสุดท้าย ที่เราจะต้องใช้ชีวิตในรั่วมหาวิทยาลัย ในสายวิชาชีพครู และต้องเหลืออีกปีนึงที่จะต้องไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ในรั่วโรงเรียน กว่าที่เราจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ผ่านอะไรมามายมาสย ก็ควรที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ผ่านมาให้เต็มที่ เพื่อที่จะนำคววามรู้ที่ได้ไปสอนเด็กในโรงเรียนและการที่เราไปโรงเรียนนั่นเด็กก็จะเรียกเราว่า " ครู " ในเมื่อเด็กนักเรียนในโรงเรียนเรียกเราว่า " ครู " แล้วเราก็ควรที่จะทำหน้าที่ในการเป็นครูให้ดีที่สุด ให้สมกับที่เด็กเรียนว่า " ครู "

    ความฝันที่อย่างจะทำต่อไปในอนาคตก็คือการเป็นครู เหมือนกับที่ได้เรียนมา มีคนเคยถามว่าถ้าจบออกมาแล้วจะไปเป็นครูหรือไปทำงานอย่างอื่น ก็ตอบกลับไปว่าเอาจริงก็อยากเป็น แต่อยากไปเป็นครู ตชด. เพราะว่าเป็นครู ตชด. ในความคิดของเราก็คือไปสอนเด็กในแถบชายแดน แต่ก็คงไม่ชายแดนขนาดนั่น และอีกอย่างที่อยากไปชุดของครูผู้สอนสวยดี อยากจะใส่บ้าง เพราะในความคิดชุดเมื่อชุดทหารเลย ทำให้อยากไปมากๆ แต่ก็กลับมาคิดอีกอย่างนึงว่าถ้าเราไปอยู่ที่ไกลๆเราคนทางบ้านเราจะเป็นห่วงมากแค่ไหน ก็เลยกลับมาคิดว่าเราจะทำอย่างไรต่อไปกลัยอนาคตเรา แต่สิ่งที่อย่างจะทำที่สุดคือการหางานทำทำที่เ็นหลักเป็นแหล่งมีเงินเดือนที่จะสามารถเรลี้ยงดู พ่อ แม่ ให้สบายที่สุด เหมือนตอน พ่อ แม่ หาเงินมาเลี่ยงเราเพื่อที่จะให้ลูก สบาย จึงอยากที่จะตอบแทนบุญท่าน ในตอนที่เราได้ทำงาน และอย่างจะให้พ่อ แม่ ภูมใจในตัวเรา 

    อนาคตของไม่แน่นอน และสิ่งที่แน่นอนกับตัวเราในทุกวันคือปัจจุบันที่เป็นอยู่ อย่างคิดไปไกล เราควรที่จะอยู่กับปัจจับนให้ดีที่สุดและเดินทางไกับมัน พอถ้าที่เราล้ม จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก และก้าวเดินนต่อไปอย่างมีสติและความมุ่งมั่นที่จะเดิต่อไปให้ถึงฝัน

 

หมายเลขบันทึก: 562245เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2014 10:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2014 10:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ คุณ หฤทัย จินดาหลวง

เป็นกำลังใจให้นะ :))

ขอบคุณครับ

ขอให้สมหวังครับ ;)...

ป.ล. เช็คคำที่พิมพ์ผิดด้วยนะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท