เรื่องสั้น
เรื่องสั้นของไทยนั้นมีพัฒนาการมาจากงานเขียนประเภทนิทาน ขณะเดียวกันเรื่องสั้นของไทยได้รับแบบอย่างมาจากตะวันตก เรื่องสั้นจึงมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างไปจากนิทานเดิมของไทยมาก กล่าวคือ เรื่องสั้นนั้นมีโครงเรื่อง เนื้อหา ฉาก บรรยากาศ บทสนทนา และตัวละครสมจริง มีแก่นเรื่องสะท้อนปัญหาสังคม หรือแสดงความคิดเห็นของผู้แต่งที่กว้างขวางกว่าเดิม ทั้งยังเป็นการสื่อสารความคิดระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่านโดยตรง และผู้เขียนเองไม่ได้สรุปข้อคิดไว้ในตอนท้ายของเรื่องอย่างนิทาน
เรื่องสั้นเรื่องแรกของไทยคือ "พระเปียให้ทานธรรม" พ.ศ. 2430 และต่อมาเรื่องสั้น ชื่อ "สนุกนึก" พระนิพนธ์กรมหลวพิชิตปรีชากร จากนั้นมาเรื่องสั้นของไทยได้พัฒนาตนเองให้ก้าวพ้นจากเรื่องสั้นกึ่งนิทานและกึ่งเรื่องสั้นแบบฝรั่งมาเป็นแบบไทยแท้ การพัฒนาการที่เห็นได้ชัดเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 เป็นต้นมา
ปัจจุบันเรื่องสั้นของไทยมีทั้งเรื่องสั้นแปลจาก และเรื่องสั้นของคนไทยเอง ซึ่งเป็นทั้งเรื่องสั้นแนว ทดลอง หรือที่เรียกว่า เรื่องสั้นabstrat คือ เรื่องที่เป็นนามธรรม และ เรื่องสั้นแนว realism คือบรรยายภาพออกมาอย่างชัดเจน การตีความจะน้อยกว่างาน abstrat
ลักษณะของเรื่องสั้นไทย
1.ในด้านรูปแบบ รูปแบบการเขียนมี 2 ลักษณะคือ
1)ใช้เหตุการณ์เป็นหลัก
2)ใช้ความคิดหรืออารมณ์เป็นหลัก
2.ในด้านแนวคิด ซึ่งแนวคิดที่ปรากฏในเรื่องสั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม
3.ในด้านเนื้อหา เนื้อหาการเขียนเรื่องสั้นก็เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมเช่นกัน
4.ในด้านกลวิธีการเขียน
1)การสร้างตัวละคร
2)กลวิธีการดำเนินเรื่อง
3)กลวิธีการทำบทบรรยาย
4)กลวิธีการจบเรื่อง
องค์ประกอบของเรื่องสั้น
1.แก่นเรื่อง คือ แนวคิดหรือจุดสำคัญของเรืองที่ผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านทราบ
2.โครงเรื่อง คือ เค้าโครงเรื่องที่ผู้แต่งกำหนดไว้ก่อนว่าจะแต่งเรื่องไปทางใหน
3.ตัวละคร คือบทบาทสมมุติที่ผูแต่งกำหนด และเพราะเป็นเรื่องที่เน้นเเนวคิดผู้เขียนจึงสร้างตัวละครน้อย
4.บทสนทนา คือถ้อยคำที่ตัวละครใช้พูดจาโต้ตอบกัน
4.ฉาก คือสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ในเรื่อง หมายรวมถึงเวลาสภาพสิ่งแวดล้อมนั้นๆ
5.บรรยากาศ คืออารมณ์ต่างๆ ของตัวละครที่เกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 5และมีอิทธิพลทำให้คล้อยตามไปด้วย
|