Mission accomplished 13 ม.ค. 57


ขอต้อนรับทุกท่านนะครับ เข้าสู่บรรยากาศงานแห่งความสนุกสนานครับ วันนี้พวกเรามาทำอะไรกันนะครับ ถูกต้องครับ มาจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ ต้านภัยโรคเบาหวานกัน ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมครบทุกครั้งจะรับสิทธิ์พิเศษคือได้รับของรางวัลแจกฟรี โปรโมชั่นแบบนี้มีกันไม่นานนะครับ ต้องรีบกันนิดนึง แต่สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสนี้ไปแล้วก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ เพราะสิ่งที่ทุกคนจะได้กลับไปแน่ๆคือสุขภาพที่ดีครับ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีอย่างผู้ใหญ่แอ๋วและพี่เรณูที่ทำให้มีคนมาร่วมกิจกรรมได้มากกว่าที่เราคิด ก็กล่าวคำว่า “ขอบคุณครับ”

สิ่งที่เห็นไปนั้นเป็นสิ่งที่เราเอาไว้โฆษณาเรื่องกิจกรรมของพวกเราครับ อาจจะดูแปลกๆไปหน่อย อย่างกับงานมอเตอร์โชว์ยังไงก็บอกไม่ถูกนะครับ lol ความจริงก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นและสละสลวยเหมือนคำที่บอกข้างบนหรอกครับ ปกติเวลาคุยกับชาวบ้านพวกเราก็ใช้คำพูดธรรมดานี่แหล่ะไปเชิญชวนเค้าว่า “ถ้าพวกเราจะจัดกิจกรรมอย่างเช่นเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ จะพอมีเวลามาร่วมหรือเปล่าครับ/ค่ะ? เวลาประมาณ 17.00 น.” บางคนก็บอกมาร่วมได้เสมอ บางคนก็บอกขอดูเวลาก่อนว่าว่างหรือเปล่า ก็เลยไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ร่วมกับกิจกรรมเมื่อวานที่คนมาไม่เยอะเท่าที่ควร ทำให้พวกเราคิดในใจว่าคนจะมาร่วมกันหรือเปล่านะ

นอนเล่นครุ่นคิดในใจอยู่จนเวลาล่วงเลยมาจนถึง 16.30 น. เพื่อนๆก็เริ่มเตือนสติเพื่อนด้วยกันเองว่าใกล้จะ 17.00 น. แล้วนะ รีบไปเตรียมตัวกันเถอะ แต่ละคนก็เร่งรีบตาเหลือกกัน หารองเท้าออกกำลังกายและถุงเท้ามาสวมใส่ เตรียมตัวไปเดินวิ่งกัน บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความกังวลอยู่ ใจตุ้มๆต่อมๆ

พอเวลา 17.00 น. ก็มาถึงที่สนามหญ้ารร.วันครู เหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น คนมากันเยอะมาก ประมาณ 30-40 คนได้ เยอะกว่าที่พวกเราคิดไว้พอสมควร และยังมีมาอีกเรื่อยๆ ระหว่างทำกิจกรรม เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของพวกเราจริงๆ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ทำให้คิดว่าประชาชนในหมู่นี้ยังขาดความตระหนักกันอยู่ ความคิดนั้นถูกลบออกไปชั่วคราว กลายเป็นคนให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้มากกว่า อาจเกิดจากการที่เราไปจัดผิดเวลา คนส่วนใหญ่จะไปทำบุญ ไม่ใช่ไปฟังเราให้ความรู้ หรือไม่ก็เห็นป้ายคำว่ามีของแจกฟรีถึงมากันเยอะ กลุ่มคนที่มามีทั้งคนที่เป็นโรคเบาหวานและไม่เป็น รวมทั้งพี่ๆอสม.ด้วย เริ่มแรกก็ Warm up ประมาณ 5 นาทีก่อน แล้วก็ค่อยเริ่มวิ่ง คนที่วิ่งไม่ไหวก็ให้เดินตาม มีเพื่อนๆคอยดูแลคนที่เดินด้วย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไปทั้งนั้นครับ พอวิ่งเสร็จก็จบลงด้วยการ Cool down 5 นาที ว่าแล้วไม่รอช้า ไปชมภาพการทำกิจกรรมของพวกเรากันเถอะครับ

 

บรรยากาศดูน่าสนุกสนานมากเลยใช่ไหมครับ อยากให้มีแบบนี้ไปเรื่อยๆ นานๆ ประชาชนที่นี่จะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

นี่คือความคิดเห็นคร่าวๆของคนที่มาร่วมทำกิจกรรมนะครับ

1. Warm up และ Cool down เร็วไปหน่อย อยากให้ทำนานๆ

2. จัดกิจกรรมที่นี่เหมาะสมแล้ว สถานที่ใหญ่ เดินทางสะดวก คนรู้จักกัน

3. อยากให้วิ่งนานกว่านี้หน่อย

4. อยากให้มีคนมาวิ่งแบบนี้เยอะๆ ทำกิจกรรมด้วยกันมันน่าจะทำได้ต่อเนื่องกว่าทำอยู่คนเดียว

5. อยากให้มีคนมาอีกเยอะๆเลย

6. จัดตั้งเป็นชมรมแล้วมาเล่นแบบนี้กันทุกวันเลยดีกว่า

จะเห็นว่าแต่ละความคิดเห็นเป็นความคิดเห็นเชิงบวกทั้งสิ้น แสดงว่าประชาชนกลุ่มนี้อยากให้มีการพัฒนาไปมากกว่าที่พวกเราทำกิจกรรมกัน ขอมาก็เลยจัดให้ พรุ่งนี้ก็จะยังคงทำกิจกรรมแบบนี้อยู่ แต่รูปแบบต่างๆจะปรับขึ้นลงตามที่ได้รับความคิดเห็นเสนอแนะมาครับ พวกเรารู้สึกดีใจมากที่คนมาร่วมกิจกรรมกันเยอะขนาดนี้ อาจเป็นช่วงที่เลิกทำงานแล้วก็ได้ ผู้คนเลยมีเวลาว่างกัน

กิจกรรมเสร็จสิ้นตอน 18.00 น. พวกเราก็ยืนลาทุกคนก่อนแล้วพวกเราก็ค่อยๆเดินกลับบ้านไปด้วยความปิติยินดี ความเหนื่อยระหว่างทำกิจกรรมก็หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อพบกับเหตุการณ์แบบนี้ พวกเราก็ได้จดชื่อคนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมไว้ มารวบรวมดูว่าคนไหนมาร่วมกิจกรรมทุกวัน เพราะจะมีของรางวัลแจกให้ พบว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานนั้นมาร่วมกันประมาณ 50% ของคนที่มาร่วมทั้งหมด ก็คือประมาณ 18-20 คน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านการเชิญชวนคนมาทำกิจกรรม อาจจะยังไม่ถึงที่เราคาดหวังไว้ เพราะอยากให้ผู้ป่วยมากันเยอะกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรครับ กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ทุกอย่างต้องค่อยๆเริ่มจนยิ่งใหญ่ จนพัฒนาเป็นสิ่งที่ดีกว่าได้

เวลาก็เย็นมากแล้ว ตลาดก็ไม่เหลือของแล้ว จากที่ทราบมาจากคุณยายที่บ้าน ตลาดจะเปิดตอน 15.00 น. ของจะใกล้หมดตอน 17.00 - 18.00 น. ทำให้พวกเราไม่ได้ทำอาหารเย็นกินเองกันอีกแล้ว T^T ก็เลยไปกินอาหารเย็นนอกบ้านเหมือนเดิม

ร้านอาหารที่พวกเราจะไปวันนี้ก็ยังคงเป็นอาหารทะเลเช่นเคย (ก็มาอาศัยริมทะเลนี่นา) ร้านที่พวกเราจะไปคือ

 

แต่น แต๊น... ร้านแม่สมจิตต์นั่นเอง บางคนคงเคยมากินอาหารที่นี่บ้างแล้ว เหลือร้านนี้ร้านเดียวที่เปิด เพราะร้านอื่นถูกจองโต๊ะทั้งร้านเพื่อจัดงานกัน ไม่ว่าจะงานปีใหม่ หรืองานแต่งงาน โดนเรียบ

รายการอาหารก็มีอยู่หลากหลาย นอกจากอาหารทะเลก็มี แต่หลักๆที่พวกเราสั่งก็ยังเป็นอาหารทะเลอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นปลากระพงนึ่งมะนาว กุ้งชุบแป้งทอด แกงส้มทะเล ปูนิ่มทอดกระเทียม ปลาหมึกผัดซอส เป็นต้น เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ขอบอกว่าแซ่บอีหลี ไม่ว่าจะสั่งมาเยอะขนาดไหน พวกเราก็ยังคงกินกันหมดอยู่ดี =w=b เงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป ใช้คุ้มค่าแน่นอนครับ

หลังจากกินอาหารเย็นสุดแสนอร่อยกันเสร็จแล้ว แต่ละคนก็แยกย้ายกันทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ อาบน้ำแต่งตัว และทำงานสรุปผลกิจกรรมของวันนี้ ก็คือการแยกรายชื่อผู้มาร่วมกิจกรรมและบันทึกไว้ พอมาดูรายชื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกครั้งหนึ่ง ก็พบว่าส่วนใหญ่จะอยู่ใน Stage of change ที่เป็นขั้นเตรียมตัว ลงมือกระทำ และคงสภาพ ซึ่งเราก็ได้กลุ่มเป้าหมายของเรามาในกำมือเรียบร้อย ทำให้เค้าสามารถเปลี่ยนเป็นลงมือกระทำได้สำเร็จ เพียงแต่จำนวนที่ได้อาจจะไม่มากทำกลุ่มที่ลงมือกระทำ และคงสภาพ แต่ไม่เป็นไร กิจกรรมเรายังจัดกันอีก รอดูวันต่อๆไปครับว่าผลจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้พวกเราก็ยังไปหาท่า Warm up และ Cool down เพิ่ม เพราะคนที่มาร่วมกิจกรรมอยากให้ทำ 2 อย่างนี้นานๆหน่อย อย่างที่บอก ขอมาก็จัดให้ ฝ่ายกีฬาของเราก็เลยนั่งดูคลิปหาท่ากันอย่างขะมักเขม้น รับรองว่าพรุ่งนี้ทุกคนที่มาร่วมจะได้รับความสนุกสนานและความมีสุขภาพดีกันอย่างเต็มที่แน่นอน

สำหรับวันนี้ก็จบลงแบบ Happy ending นะครับ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของพวกเรา เป็นสิ่งที่สร้างความปิติยินดีให้กับพวกเรา และเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเรามีกำลังใจในการทำกิจกรรมแบบนี้ พร้อมที่จะพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นต่อไป วันนี้นอนยิ้มกัน หลับฝันดีกันหมดเลย ก็ขอจบการเล่าสู่กันฟังเพียงเท่านี้ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ

「กิจกรรมพรุ่งนี้ต้องดีขึ้นกว่านี้แน่นอนครับ =w=b」

by Kiba-kun

 

หมายเลขบันทึก: 559426เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2014 22:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มกราคม 2014 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อะไรเป็นปัจจัยให้ประสบผลสำเร็จบ้าง?

1. เป็นเวลาที่ทุกคนค่อนข้างว่างแล้ว อากาศไม่ร้อนเกินไป

2. บางคนอยากจะทำแต่ไม่มีเพื่อนก็ไม่ได้ทำ การมีกิจกรรมแบบนี้ คนมาเยอะ เค้าจึงมาร่วมกิจกรรมได้ไม่น่าเบื่อ

3. เป็นสถานที่ที่คนรู้จักและมาได้สะดวก

4. พี่อสม.และพวกเราไปเชิญชวนถึงบ้านอีกรอบก่อนทำกิจกรรม (เฉพาะวันแรก เหมือนเป็นการเตือน)

5. Stage of change ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นเตรียมการ พร้อมที่จะกระทำแล้ว แต่ขาดแรงเสริมจากภายนอกเท่านั้นเอง

6. คนในชุมชนบางส่วนเริ่มตระหนักถึงความรุนแรงของโรคเบาหวาน

7. มีของแจก

8. มาร่วมได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่เสียเงิน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท