อีก 3 วันต่อมาหลังจากปรึกษาหารือกันเรียบร้อยแล้วนะคะ เขาก็เลือกคนใหม่ไปพบกับผู้เฒ่าพร้อมกับประกาศให้
ชาวบ้านรู้ทั่วกัน "พระเจ้าปลูกต้นไม้ และสร้างแม่น้ำใหญ่ สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ร่ำรวย เพราะฉะนั้นความร่ำรวยก็
ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลก คุณอู๋ เป็นเศรษฐีของหมู่บ้านเรา เราจึงเลือกคุณอู๋เป็นตัวแทนไปรับฟังความลับจาก
ท่านผู้เฒ่า"
คุณอู๋ เดินย้ายพุงฮุ้ยอ้ายขึ้นเขาไป จนถึงกระท่อมของชายชรา เขาเคาะประตูแรง ๆ ครู่หนึ่งชายชราใจดีก็เปิด
ประตูออกมาเชิญ
"เข้ามาในบ้านก่อนซิท่าน มีธุระอะไรรึ จึงได้บากปั่นปืนเขามาตั้งไกล"
คุณอู๋ล้วงกระเป๋า หยิบเงินออกมา พร้อมกับยิ้ม "ตลอดชีพของฉัน หมั่นเก็บเงินตรา ไม่เคยนำพา จับจ่ายสิ่งใด
เพราะฉันนั้นรวยล้น กว่าคนอื่นไซร้ ท่านจงปลงใจ บอกความลับพลัน"
ท่านผู้เฒ่าทำหน้าเศร้า ๆ กล่าวตอบว่า
"เงินตรานั้นหรือ คือความร่ำรวย และจำเป็นด้วย ในทุกชีวา แต่เงินของท่าน นั้นไร้คุณค่า มิอาจนำมา แลกความสุขใด"
คุณอู๋โกรธจนหน้าแดง เดินกระทืบเท้ารีบลงจากยอดเขาทันที
เย็นวันหนึ่ง....ผู้เฒ่าทอดสายตามองออกไปทางหน้าต่าง เห็นเด็กชายเล็ก ๆ คนหนึ่ง กำลังร้องไห้ ผู้เฒ่าเดิน
ออกจากบ้าน เดินตัดทุ่งหย้าตรงไปหาเด็กน้อย และถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองและตอบด้วย
น้ำเสียงเศร้า ๆ
"ขอโทษครับคุณปู่ ที่หนูเขามา บุกรุกทุ่งหญ้า โดยไม่ตั้งใจ เพราะเห็นนกนี้ ปีกมีแผผลใหญ่ มันบินไม่ไหว คง
ต้องการมิตร"
ผู้เฒ่ายิ้มกับเด็กน้อย รู้ทันทีว่าได้พบคนที่เขาแสวงหามานานแล้ว ขณะที่เขามองเด็กน้อยประคองนกเจ็บเอา
ไว้ในอ้อมแขน เขาก้รู้ว่าไม่มีใครจะได้รับความสุขอย่างแท้จริง ถ้าเขาไม่รู้จักสนใจคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง ผู้เฒ่า
ได้กล่าวกับเด็กน้อยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส " ถ้าเจ้าคำนึง นึกถึงผู้อื่น ใช่มัวขมขื่น คิดถึงแต่ตน นั่น
แหละจึงพบ ประสบสุขล้น สุขซ่อนปะปน อยู่ในน้ำใจงาม"
นี่แหละความลับของความสุข ที่ผู้เฒ่าบอกให้เด็กน้อยทราบ และเด็กน้อยก็นำความลับนี้ไปบอกกับชาวบ้าน
ทั้งหมู่บ้าน ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ก็เป็นผู้ที่มีความสุขมากที่สุดนะคะ....
ป.ล...อยากเล่นนิทานเรื่องนี้ในวันเด็กปีนี้ให้มวลมหาชน นปช และรัฐบาลฟังกันนะคะ
มณีเทวา