เย็นต่อคำวานนี้ที่ จ.น่าน มีโอกาสพบคุณไสว เขยตุ้ย ( ผอ.รพ.สต.น้ำโค้ง)และภรรยาทั้งสองท่านมาส่งบุตรชายเรียนพิเศษ ( บุตรชายเรียน ม.๓.๑ ร.ร.สตรีศรีน่าน ) ได้สอบถามคุณไสวฯ เท่าที่จำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อน ราว ๔-๕ ปี ท่านเล่าว่าได้เสนอให้ผู้บริหารโรงเรียนสตรีศรีน่านและเขตพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดให้ใส่ใจดูแลเด็กสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ดี
สืบเนื่องจากช่วงนั้น บุตรสาวคุณไสวฯ ( ปัจจุบันเรียน พยาบาล ทบ.ปี ๔ ) ต้องสอบแต่ทางจังหวัดจัดงานแข่งเรือ มีการใช้เสียงในระแวกนั้นมากมาย ได้รับความเอาใจใส่ดีพอสมควรเกี่ยวกับการใช้ยวดยาน การใช้เสียงของงานที่จัดใกล้ ๆ โรงเรียน ในปีต่อ ๆ มาคุณไสวฯ เล่ามาการเอาใจใส่ดูแลต่อเนื่อง ถือว่าเป็นโชคดีของเด็กนักเรียนที่ดูหนังสือกันมาทั้งปีเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย
คุณไสวฯ เล่าว่า คิดง่าย ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ของพวกเราเขาอ่านหนังสือมาทั้งปีเพื่อสอบ ๒ วัน ควรร่วมมือการจัดการสิ่งแวดล้อมกันให้ดี ได้นำเสนอสะท้อนปัญหาเรื่องนี้เพราะเห็นว่าจำเป็น ยิ่งระยะหลังทั้งงานแข่งเรือ งานประจำปีไปจัดบริเวณสะพานพัฒนาภาคเหนือ จ.น่าน หรือในสถานศึกษาระหว่างจัดสอบ มีการเปิดห้องเรียนให้กับมหาวิทยาลัยอื่นที่เปิดสอนเสาร์ - อาทิตย์ มีความวุ่นวายจากคนรอนักศึกษา จอดรถไม่ดับเครื่อง ส่งเสียงรบกวนโดยไม่ตั้งใจ ร้านซ่อมรถเร่งเครื่องแบบไม่เกรงใจ ย่อมเป็นการรบกวนสมาธิเด็กสอบอย่างแน่นอน ปีนี้เห็นว่า รร.สตรีศรีน่าน ทำไ้ด้ดี แต่ทราบว่าปีนี้มีสนามสอบแยกไปสอบอีกที่ รร.ศรีสวัสดิ์วิทยาคาร ไม่ทราบว่ามีการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ หรือไม่อย่างไร
เห็นว่า หากเครือข่ายผู้ปกครอง สถานศึกษา จังหวัดช่วยกันดูแลเอาใจใส่กันแบบนี้แล้วจะเกิดผลดีต่อสมาธิเด็กที่เข้าสอบ คุณไสวฯ กล่าวตอนท้ายว่า สมัยที่พูดนั้นได้เห็นหนังสือพิมพ์ส่วนกลางมีข่าวต่างประเทศ ว่า เกาหลีงดเที่ยวบินร้อยกว่าเที่ยวเพื่อให้เด็กมีสมาธิในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยฯ เป็นข่าวมาราว ๔-๕ ปีที่ผ่านมาครับ : ๖ มกราคม ๒๕๕๗
http://www.thairath.co.th/content/edu/394136
ไม่มีความเห็น