บันทึกขั้นตอนการปฏิบัติงานของทีมงานกระจกเงาในการให้ความช่วยเหลือกรณี นายอาป่า มาเยอะ


บันทึกขั้นตอนการปฏิบัติงานของทีมงานกระจกเงาในการให้ความช่วยเหลือกรณี นายอาป่า  มาเยอะ 

โดย นางสาวรัชนีวรรณ สุขรัตน์

เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา  ซึ่งทำงานภายใต้โครงการคุ้มครองสิทธิเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ (Stateless Children Protection Project : SCPP)

เมื่อวันที่ ๑๕  ตุลาคม ๒๕๕๖ และแก้ไขเพิ่มเติม

--------------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าของปัญหาและครอบครัวซึ่งองค์กรให้ความช่วยเหลือ

(๑)  นายอาป่า  มาเยอะ                        เจ้าของปัญหา

(๒)  นางอาชู่ มาเยอะ                           มารดาเจ้าของปัญหา

(๓)  นายสมเพชร  มาเยอะ                      พี่ชายต่างบิดา เจ้าของปัญหา

(๔)  นายอาจ่า  มาเยอะ                         พี่ชาย

(๔)  เด็กชายอาโล่  มาเยอะ                     น้องชาย 

(๕)  เด็กชายหล่อโซะ  มาเยอะ                  น้องชาย 

(๖)  นายชัย เชอหมื่อ                            น้าชายน้องอาป่า

(๖)  นางสาวอาแผ่  เชมือ                        ญาติน้องอาป่า  

เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือ

(๑)  ร.ต.อ.พันธุ์ศักดิ์ ข่มอาวุธ                   ร้อยเวร สภ.แม่ยาว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

(๒)  นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์       แพทย์แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

(๓)  นางสาววรรณวิมล ไชยชมภู                 เจ้าพนักงานห้องคดี สถานพินิจ ฯ

(๔)  นายชัยรัตน์ อุนามูล                         ทนายความ-ที่ปรึกษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงราย

(๕)  คุณสุพิน  หมั่นคิด                           สำนักยุติธรรม จังหวัดเชียงราย

(๖)  นายแพทย์นัฐวุฒิ  วิวรรธนวรางค์             แพทย์เจ้าของไข้แผนกกระดูกและทางเดินปัสสาวะ

(๗)  นายแพทย์อุปพันธ์  จันทพิมพะ              แพทย์เจ้าของไข้แผนกศัลยกรรมประสาท

 ภาควิชาการซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือ

(๑)รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์  กาญจนะจิตรา  สายสุนทร     คณะทำงานโครงการศึกษาวิจัยและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับ     สิทธิเด็กและผู้ด้อยโอกาสในชุมชนจังหวัดตากและชุมชนกลุ่มจังหวัดชายแดนในประเทศไทย   คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(๒)นางสาวศิวนุช  สร้อยทอง                        โครงการบางกอกคลินิกคณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(๓)นางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์                     โครงการบางกอกคลินิกคณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(๔)  นางสาววิกานดา พัติบูรณ์                       โครงการบางกอกคลินิกคณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ภาคเอกชนซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือ

(๑)  นายภูริช ฦๅไชย                         มูลนิธิ ศ.คนึงฯ

(๒)  คุณพิทักษ์ ลาภปรารถนา                บิดาน้องนักศึกษาฝึกงาน มูลนิธิกระจกเงา

(๓)  คุณไพลิน  ลาภปรารถนา                มารดาน้องนักศึกษาฝึกงาน มูลนิธิกระจกเงา

เจ้าหน้าที่องค์กรซึ่งรับผิดชอบให้ความช่วยเหลือ

(๑)  นายวีระ  อยู่รัมย์                       ตำแหน่ง                ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา

(๒)  นางสาวรัชนีรรณ  สุขรัตน์              ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่ มูลนิธิกระจกเงา

(๓)  นางสาวสุรีย์  อุ่ยแม                    ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๔)  นายยุทธชัย  จะจู                      ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๕)  นายสมชาติ  พิพัฒธราดล              ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๖)  นายณัฐพล  สิงห์เถื่อน                  ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๗)  นางสาวประไพ  เกสรา                  ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๘)  นางสาววิมรรุ่ง  บุพศิริ                   ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๙)  นายกิตติกร มาฟู                        ตำแหน่ง                เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา

(๑๐)  นางสาวสุชาดา  ทองมน                ตำแหน่ง                นักศึกษาฝึกงาน มูลนิธิกระจกเงา

(๑๑)  นายนิติพล  วัตตุกุมาร                  ตำแหน่ง                นักศึกษาฝึกงาน มูลนิธิกระจกเงา

 -------------------------------------------------------------------------------------------------

๒๓ มกราคม ๒๕๕๖

นางสาวสุรี อุ่ยแม เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาซึ่งทำงานภายใต้โครงการคุ้มครองสิทธิเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ (Stateless Children Project:SCPP)  รับเรื่องขอความช่วยเหลือ และขอคำปรึกษาด้านคดีความ กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับ น้องอาป่า  มาเยอะ ชาวบ้านบ้านจะแล  หมู่ ๑๑  ตำบลแม่ยาว  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงราย  เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕ ที่ผ่านมา  จากนางหมี่แอ  เชอหมือ ญาติน้องอาป่า พร้อมด้วย ๑)นายสมเพชร  มาเยอะ  พี่ชายน้องอาป่า ๒)นางอาชู่  มาเยอะ  มารดาน้องอาป่า  และ ๓)นางสาวอาแผ่  เชหมื่อ  ญาติฝ่ายมารดาน้องอาป่า

นางสาวสุรี  ได้ขอคำปรึกษาและเชิญ ๑)นายสมชาติ  พิพัฒน์ธราดล  และ ๒) นายยุทธชัย  จะจู  เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาซึ่งทำงานภายใต้โครงการคุ้มครองสิทธิเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ (Stateless Children Project:SCPP)  เพื่อให้คำปรึกษา แก่ญาติน้องอาป่าที่เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ  ทางญาติแจ้งให้ทีมงานมูลนิธิกระจกเงาทราบถึง 

๑.  อาการความเจ็บป่วยของน้องอาป่า 

๒.  ญาติเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ ๒๑  มกราคม  ๒๕๕๖  โดยญาติเล่าว่า  นายอาป่า มาเยอะ อายุ ๑๗ ปี ชาวอาข่าไร้สัญชาติ หมู่บ้านจะแล หมู่ ๑๑ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ถูกรถยนต์เฉี่ยวชน เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ที่หมู่บ้านดงเจริญ หมู่ ๑๗ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยรถยนต์คู่กรณีมุ่งหน้ามาจากอำเภอเมืองเชียงราย ตอนนี้อาป่า นอนพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย อาป่ามีใบขับขี่รถจักรยานยนต์และบัตรประกันสุขภาพถ่วงหน้า ๓๐ บาท รักษาทุกโรค และมีพยานเห็นเหตุการณ์   การเจรจากับคู่กรณีญาติเล่าว่ายังไม่เคยคุยกับคู่กรณีในการขอความช่วยเหลือเงินเยียวยาสำหรับค่ารักษาพยาบาล  ประกอบกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแจ้งให้ทางญาติทราบว่า น้องอาป่าเป็นฝ่ายผิดเพราะขับรถประมาท  ล้ำเส้นทางจราจรไปกินเลนถนนของคู่กรณี 

นายยุทธชัย โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงจากพนักงานสืบสวนเจ้าของคดี  พนักงานสืบสวนเจ้าของคดีแจ้งให้นายยุทธชัย  ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทางกองพิสูจน์หลักฐานก็ยืนยันว่าน้องอาป่าขับรถไปกินเลนถนนของคู่กรณี ฉะนั้นอาป่าจึงเป็นฝ่ายผิด  นายยุทธชัยได้ทักท้วงกับพนักงานสอบสวนว่า ทางญาติน้องอาป่ายืนยันว่าน้องอาป่าไม่ผิด  และมีพยานบุคคลหลายคนที่เห็นเหตุการณ์  พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแจ้งให้นายยุทธชัย แจ้งให้ญาติพาพยานรู้เห็นวันเกิดเหตุมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจภูธรแม่ยาว  แต่นายยุทธชัยได้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า ตัวพยานยินดีให้การในชั้นศาลเท่านั้น จากนั้นทีมงานมูลนิธิกระจกเงา จึงได้แนะนำให้ญาติน้องอาป่าไปคุยกับพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ไว้ สำหรับกรณีที่อาจจะต้องขอเป็นพยานในชั้นศาล

ช่วงปลายเดือนมกราคม  ๒๕๕๖

นางสาวสุรีไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จาก www.rvp.co.th/index.php โทรไปที่เบอร์ ๑๗๙๑  Callcenterเพื่อสอบถามเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย ทาง Callcenterโอนไปที่สำนักงานเชียงราย และสอบถามเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาดังนี้ ๑๕,๐๐๐ บาทเป็นค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น  ต้องไปเขียนคำร้องขอ โดยมีเอกสารดังนี้

(๑) สำเนาใบขับขี่

(๒) สำเนาบันทึกประจำวัน

(๓)  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอาป่า

หลังรับทราบข้อมูลจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  นางสาวสุรีย์ ได้แนะนำให้นายสมเพชร รวบรวมเอกสารดังกล่าวไปยื่นที่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อขอความช่วยเหลือ  เป็นลำดับต่อไป

ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

นายสมชาติได้ประสานงานพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อให้พนักงานสอบสวนนัดคู่กรณี มาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย 

๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

เมื่อได้รับแจ้งว่าอาป่า ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ประกอบด้วย ๑) นายสมชาติ พิพัฒน์ธราดล ๒)นายณัฐพล สิงห์เถื่อน  ๓) นายยุทธชัย  จะจู เดินทางไปเยี่ยมเยียนและสอบถามข้อเท็จจริงจากอาป่า ที่บ้านถึงเรื่องราวในวันเกิดเหตุ  โดยสรุป อาป่าเล่าว่า วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ตนออกจากหมู่บ้านจะแล หมู่ ๑๑ ตำบลแม่ยาว  อำเภอเมืองเชียงราย  จังหวัดเชียงราย  ตั้งแต่เช้าตามปกติเพื่อไปทำงานที่โรงงานพลาสติกในเมือง พอถึงตลาดทรายมูล หมู่ ๘ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย  จังหวัดเชียงราย เพื่อซื้ออาหารมื้อกลางวัน เสร็จแล้วเดินทางต่อพอมาถึงหมู่บ้านดงเจริญ หมู่๑๗ ตำบลแม่ยาว ทันใดนั้นก็มีรถยนต์กระบะมุ่งหน้ามาจากอำเภอเมืองเชียงรายได้มาชนตน ทำให้หมดสติ พอฟื้นคืนสติก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว  นายสมชาติได้สอบถามน้องอาป่า ถึงการขับขี่รถจักรยานยนต์ในวันนั้น  อาป่ายืนยันว่าตนไม่ได้ขับรถผิดช่องทางจราจร  และขับขี่มาในช่องทางจราจรของตนเอง(โดยรายละเอียดข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในเอกสารลำดับเหตุการณ์ชีวิตของอาป่า)

จากการสังเกตอาการในวันนี้ อาการโดยรวมของอาป่าดีขึ้น สามารถอ่านหนังสือได้ แต่ยังมีอาการบาดเจ็บของขาทั้งสองข้างที่ต้องดามเหล็กไว้ สามารถยกขาขาวเองได้ ส่วนขาซ้ายยังไม่สามารถยกได้ ส่วนกะโหลกศรีษะด้านขวาบน ที่แพทย์ได้เปิดกะโหลกและนำไปปลูกถ่ายไว้ที่หน้าท้อง ก็อยู่ในอาการดี

นายสมชาติ  ได้อธิบายให้อาป่าฟังถึงขั้นตอนการเรียกร้องค่าเสียหาย มีขั้นตอนดังนี้  ๑) ขั้นตอนการเจรจา  ๒)การฟ้องร้องคดี  ขั้นตอนแรก นายสมชาติแนะนำให้เจรจากับคู่กรณีก่อน  ถ้าหากคู่กรณีไม่ยอมเจรจา และไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใด ๆ  เราต้องดำเนินคดีกับคู่กรณี  อาป่าพร้อมจะสู้ไหม  และอธิบายต่อไปว่า การต่อสู้คดีมีทั้งแพ้และชนะ แต่เรายังไม่รู้ว่าเราจะแพ้หรือชนะ  กรณีชนะเราจะได้รับการชดเชยค่าเสียหาย  ถ้าเราแพ้ผลที่ตามมา อาป่าอาจถูกคู่กรณีฟ้องกลับ หลังจากนายสมชาติอธิบายให้อาป่า และแม่เข้าใจขั้นตอนแล้ว อาป่ายืนยันจะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะ “ตนไม่ผิด”  และอาป่า รวมถึงญาติได้ร้องขอให้มูลนิธิกระจกเงาเป็นตัวแทนในการดำเนินการเจรจากับคู่กรณี

หลังจากได้รับคำยืนยันจากอาป่า ว่าเห็นด้วยกับแนวทางที่ทางมูลนิธิกระจกเงาเสนอ ทีมงานมูลนิธิกระจกเงาได้เดินทางไปที่ สถานีตำรวจภูธรแม่ยาว เพื่อเข้าพบ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและคู่กรณี  แต่ปรากฏว่าคู่กรณีไม่มาตรงตามที่นัดหมาย ในระหว่างนั้น ทีมกระจกเงาจึงได้พูดคุยกับ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี  ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี อ้างว่าอาป่าเป็นฝ่ายผิด เนื่องด้วยพนักงานสอบสวนได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและได้รับการยืนยันจากกองพิสูจน์หลักฐานว่าอาป่าเป็นฝ่ายผิด  แต่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็แนะนำให้เจรจากับคู่กรณี

ต่อมาคู่กรณี ได้เดินทางมาถึงและเริ่มเจราจา กับทางทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ที่สถานีภูธรแม่ยาว โดยนายสมชาติ ได้เสนอให้ ๑.) เสนอให้คู่กรณีซ่อมรถจักรยานยนต์  ๒.)เสนอให้คู่กรณีจ่ายเงินค่าเยียวยาความเสียหาย จำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท แต่ทางคู่กรณีปฏิเสธข้อเสนอ ทั้งสองข้อ โดยคู่กรณีอ้างว่าตนเองไม่ผิดและได้เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมกำแพงที่เกิดจากการเฉี่ยวชนที่ตนเป็นผู้กระทำไปแล้ว และตนเองก็จ่ายค่าซ่อมรถยนต์ไปแล้วแสนกว่าบาท ฉะนั้นจึงขอสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

เนื่องจากการเจรจาไม่เป็นผลพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี แจ้งทีมงานมูลนิธิกระจกเงาว่าเรื่องนี้ต้องคุยกันอีกหลายครั้ง และเป็นคดีจราจรสามารถใช้ระยะเวลานานได้ ไม่เหมือนคดียาเสพติดต้องรีบสรุปส่งสำนวนคดี

๑๑  มีนาคม ๒๕๕๖

นายชัย เชอหมื่อ น้าชายน้องอาป่า ได้มาติดต่อทีมงานมูลนิธิกระจกเงา เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการเรียกร้องความช่วยเหลือน้องอาป่า จากนายยุทธชัย โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแจ้งว่าตอนนี้กำลังรอหลักฐานเพิ่มเติมจากกองพิสูจน์หลักฐานและจะเข้าไปสอบปากคำน้องอาป่า ที่บ้านในวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖

๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  ได้ไปพูดคุยกับ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี  เพื่อสอบถามความคืบหน้า  พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแจ้งให้นายยุทธชัยทราบว่า ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ส่งเอกสารมาแล้ว ทางคู่กรณียืนยันสู้คดี ส่วนพนักงานสอบสวนเองจะเข้าไปพูดคุย กับครอบครัวน้องอาป่าในเย็นวันนี้

๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  ได้โทรศัพท์ไปหานายสมเพชร เพื่อสอบถามรายละเอียดการพูดคุย ระหว่างพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กับ ครอบครัวน้องอาป่า ในช่วงเย็นวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖

พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเดินทางมาถึงบ้านน้องอาป่าใช้เวลาพูดคุยกับน้องอาป่า แม่ และนายสมเพชร พี่ชาย ประมาณ ๕-๑๐ นาที  จากนั้นได้ให้น้องอาป่าลงชื่อท้ายเอกสาร ซึ่งนายสมเพชรไม่ได้แจ้งว่าเป็นเอกสารใด นายสมเพชรแจ้งว่าน้องอาป่าไม่ยินยอมลงชื่อเซ็นเอกสารที่ทาง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำมาให้เซ็นลงชื่อ 

๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖

หลังจากที่ นายยุทธชัยได้สอบถามเหตุการณ์จาก นายสมเพชร จึงทราบว่า ในวันที่พนักงานสอบสวนมาพบน้องอาป่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาน้องอาป่า ว่าขับขี่รถจักรยานยนต์โดยประมาท จนไปพุ่งชนทางฝ่ายรถยนต์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งเพิ่มเติมว่าหากน้องอาป่าไม่ยอมรับสารภาพ น้องอาป่าก็จะต้องเตรียมหาทนายความสู้คดีในชั้นศาล ทั้งนี้ เนื่องจากน้องอาป่าอายุเพียง ๑๗ ปี จึงต้องขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัว

ส่วนเรื่องค่าเสียหายก็ต้องไปเรียกร้องจากศาลแพ่ง และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งให้น้องอาป่าไปรับรถจักรยานยนต์ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ยาว  แต่ทางน้องอาป่าตัดสินใจว่าจะไม่รับคืนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  เดินทางไปเยี่ยมน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุจากน้องอาป่าอีกครั้ง  น้องอาป่ายืนยันว่าตนเองไม่ผิด

๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  ได้ทำแผนที่เกิดเหตุ เพื่อประเมินความน่าจะเป็นตามคำบอกเล่าของน้องอาป่าและพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์

๕ เมษายน ๒๕๕๖

นายสมเพชร  มาติดตามความคืบหน้าคดี จากนายยุทธชัย  นายยุทธชัยได้แจ้งให้นายสมเพชรทราบว่า พนักงานสอบสวน จะส่งสำนวนและความเห็นควรสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการประมาณต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๖

ส่วนเรื่องสถานะบุคคลของนางอาชู่  มารดาน้องอาป่า  นายยุทธชัย แนะนำให้ นางอาชู่ คอยติดตามข่าวสารที่อำเภอเมืองเชียงรายและแนะนำให้ไปยื่นคำร้องขอสถานะต่างด้าวถาวร ในส่วนของน้องอาป่า พี่ชายและน้องอีก ๒ คน ให้รอยื่นขอสถานะบุคคลตามมาตรา ๗ ทวิเป็นลำดับต่อไป

๒๕ เมษายน ๒๕๕๖

นายสมเพชร  นางอาชู่มาติดตามความคืบหน้าคดี  จากนายยุทธชัย  ที่มูลนิธิกระจกเงา  นายยุทธชัยได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี   พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแจ้งให้นายยุทธชัยทราบว่าตอนนี้ติดภารกิจที่กรุงเทพฯ  หลังเสร็จภารกิจ จะพาทนายที่ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจัดหามาไปพบน้องอาป่าประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖

นายสมชาติ ได้มอบหมายให้ นายยุทธชัย สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนยุติธรรม เพื่อหาช่องทางในการหาทุนช่วยเหลือด้านคดีอาญา ให้แก่น้องอาป่าในการต่อสู้คดี   จาก http://www.rlpd.moj.go.th  ได้ความว่า กองทุนดังกล่าวมีอยู่ทุกจังหวัดที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะสนับสนุนเงินหรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านกฎหมาย การฟ้องร้อง การดำเนินคดี การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญถึงผู้ที่กระทำการใด ๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองหรือรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม  การจะร้องขอให้บุคคลอื่นเป็นผู้จัดหาทนายความแทนพนักงานสอบสวนจะกระทำได้ต่อเมื่อผู้ต้องหามีเหตุอันสมควรที่จะปฏิเสธไม่รับทนายความที่พนักงานสอบสวนจัดหาให้ หรือไม่มีทนายความในบัญชีเพียงพอที่จะจัดให้ผู้ต้องหาหรือผู้ได้รับมอบหมายอาจร้องขอให้บุคคลอื่นเป็นผู้จัดหาทนายความให้แทนพนักงานสอบสวน โดยอาจทำได้ในวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้

๑)     ร้องขอต่อผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ในเขตจังหวัดอื่นได้แก่หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมในจังหวัดในเขตท้องที่

๒)    หรือร้องขอต่อผู้แทนสภาทนายความ โดยในเขตจังหวัดอื่น ได้แก่ประธานสภาทนายความจังหวัด รองประธานสภาทนายความจังหวัด หรือกรรมการสภาทนายความจังหวัดที่ได้รับมอบหมายจากสภาทนายความจังหวัด

๑ มิถุนายน  ๒๕๕๖

นางสาวประไพ   เกสรา  เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา  ติดต่อประสานงานไปที่คุณสุพินหมั่นคิดทนายความประจำสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงรายเพื่อขอคำปรึกษา  กรณีอุบัติเหตุของน้องอาป่า เนื่องจากทางนายยุทธชัยติดภารกิจภาคสนามที่บ้านป่าเมี่ยง  ตำบลป่าตึง  อำเภอแม่จัน  จังหวัดเชียงราย

๓  มิถุนายน  ๒๕๕๖

นายสมชาติ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนายสมเพชร  แจ้งว่าพนักงานสืบสวนเจ้าของคดี จะส่งสำนวนฟ้องน้องอาป่า  แต่ในวันนี้นายสมชาติ อยู่ระหว่างการอบรมกฎหมายสัญชาติให้ชาวบ้าน ที่หมู่บ้านป่าเมี่ยง ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พร้อมกับทีมทำงาน ไม่สามารถไปร่วมได้ 

นายสมชาติได้ประสานกลับมาที่มูลนิธิกระจกเงาเพื่อขอเจ้าหน้าที่ไปรับน้องอาป่าที่บ้านเพื่อเดินทางไป ที่ สถานีภูธรแม่ยาว

นายกิตติกร มาฟู เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา และนายนิติพล  วัตตุกุมาร นักศึกษาฝึกงาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง จังหวัดลำปางไปร่วมรับฟังในครั้งนี้

นางสาวประไพ  ได้โทรศัพท์ไปหาทนายสุพิน  ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงราย เพื่อขอนัดพบและขอความช่วยเหลือด้านคดีความและด้านสิทธิประโยชน์ที่น้องอาป่าควรจะได้รับ

๕  มิถุนายน  ๒๕๕๖

๐๙.๐๐ น.  ๑)นางสาวประไพ  ๒)นายยุทธชัย  ๓)น้องอาป่า ๔)นางสาวอาแผ่  และ ๕) ข้าพเจ้า  เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่สำนักยุติธรรม  เพื่อขอคำปรึกษา และแนวทางการช่วยเหลือด้านคดีความ จากกรณีอุบัติเหตุ ของน้องอาป่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๑  มกราคมที่ผ่านมา  ฐานความผิดต่อกฎหมายและบทมาตราพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๓.๑๕๗ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๓๕ มาตรา ๒๗ เราได้คุยกับทนายสุพินถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว และขอคำปรึกษาในแนวทางการต่อสู้คดีที่น้องอาป่าตกเป็นจำเลยในครั้งนี้ และทนายสุพินได้ให้น้องอาป่าเขียนแจ้งความประสงค์ที่อยากให้ทางสำนักงานยุติธรรมช่วยเหลือ 

หลังการพูดคุยขอคำปรึกษาที่สำนักยุติธรรมเสร็จสิ้น ๑)ข้าพเจ้า๒)น้องอาป่า และ ๓)นางสาวอาแผ่  ได้

เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรแม่ยาวเพื่อขอคัดสำเนาบันทึกประจำวัน แต่ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีไม่อยู่  จึงไม่สามารถคัดสำเนาได้ในวันนี้

๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ 

นายยุทธชัยเดินทางไปหาน้องอาป่าที่บ้าน  น้องอาป่าเล่าว่า เวลาประมา๐๙.๒๐ น. นางสาววรรณวิมล ไชยชมภู เจ้าพนักงานห้องคดี สถานพินิจ ฯ มาสอบปากคำน้องอาป่า ที่บ้าน พร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่งไม่ทราบชื่อมาร่วมสอบปากคำครั้งนี้ด้วย

การสอบปากคำเป็นการสอบถามเรื่องทั่วไป  เรื่องครอบครัว  เรื่องความเป็นอยู่และความสัมพันธ์กับคนในครอบครรัว  อุปนิสัยส่วนตัว การคบหาเพื่อน เหตุการณ์ ณ วันเกิดเหตุ รถที่ใช้ขับขี่ รวมไปถึงอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้

นางสาววรรณวิมล แจ้งว่า น้องอาป่า ถูกกล่าวหาว่าขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย  ส่วนคู่กรณีไม่ติดใจเอาความ เจ้าพนักงานห้องคดี สถานพินิจฯ แจ้งเพิ่มเติมให้น้องอาป่า ทราบว่า กรณีของน้องอาป่าเป็นกรณีแรกที่ต้องมาสอบปากคำที่บ้านและเป็นอำนาจของสถานพินิจ ฯ ที่ต้องสอบปากคำทั้งฝ่ายถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหา หลังจากการสอบปากคำ นางสาววรรณวิมล เจ้าพนักงานห้องคดี สถานพินิจ ฯ จะรวบรวมข้อมูลส่งให้ร้อยเวรเจ้าของคดีภายใน ๓๐ วัน จากนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในส่วนของการสั่งฟ้องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอัยการ

นางสาววรรณวิมล สอบถามนางอาชู่ถึงพฤติกรรมน้องอาป่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ด้วยข้อจำกัดของนางอาชู่ที่ไม่สามารถพูดภาษาไทยไม่ได้มากนัก ทำให้ยากในการสอบถามพฤติกรรมน้องอาป่าจากผู้เป็นมารดา  นางสาววรรณวิมลให้นางอาชู่พิมพ์นิ้วมือในแบบฟอร์มคำถามที่เตรียมมา  พร้อมทั้งพิมพ์นิ้วมือในสำเนาบัตรประจำตัวและสำเนาทะเบียนบ้าน (ท.ร.๑๓)

๗  มิถุนายน ๒๕๕๖

นายสมเพชร  มาพบนายยุทธชัยที่มูลนิธิกระจกเงา ตามคำร้องขอของน้องอาป่า เพื่อให้นายยุทธชัย  ช่วยร่างหนังสือขอความช่วยเหลือต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงราย ด้านการช่วยเหลือจัดหาทนายความเพื่อต่อสู้คดีอาญา และคดีแพ่ง ในชั้นศาล

๘  มิถุนายน ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  ทำความเข้าใจกับแม่และน้องอาป่า ในการร่างหนังสือขอความช่วยเหลือ (๑) ด้านทนายความ ในการจัดหาทนายความทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง (๒) สิทธิประโยชน์บางประการที่ควรได้รับ กรณีผู้ประสบความเสียหาย (๓)อาชีพในอนาคตจากสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงราย และมอบหมายให้ นายสมเพชร นำหนังสือไปยื่นที่สำนักยุติธรรมฯ (ตามเอกสารแนบ)

๑๕  มิถุนายน  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า ได้จัดซื้อผ้าก็อตปิดแผล  เทปปิดแผล  และ กระบอกปัสสาวะชาย (Urinal for men หรือ คอมฟอร์ท100 )ให้น้องอาป่า เพราะน้องแจ้งว่า อุปกรณ์ทำแผลตอนนี้ไม่มีแล้ว ต้องใช้เทปพันสายไฟมาปิดแผลแทนเทปปิดแผล ในส่วนของ Comfort ๑๐๐ ทางเราจัดซื้อให้โดยไม่มีการร้องขอ เพราะที่ผ่านมา น้องปัสสาวะ โดยใช้ขวดน้ำอัดลม ๑.๕ ลิตร เป็นพาชนะรองรับเมื่อมีการขับปัสสาวะในแต่ละครั้ง

ข้าพเจ้า  นายยุทธชัย และนางสาววิมรรุ่ง  บุพศิริ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ได้พาคุณพิทักษ์ และคุณไพลิน  ลาภปรารถนา  บิดามารดาน้องกร  นักศึกษาฝึกงานโครงการสำนักกฎหมายเพื่อการพิทักษ์สิทธิ์  มูลนิธิกระจกเงา ไปเยี่ยมครอบครัวน้องอาป่าที่บ้าน  คุณพิทักษ์ และคุณไพลิน ทราบข่าวอาการบาดเจ็บและความยากลำบากของครอบครัวน้องอาป่า และสนใจให้ความช่วยเหลือสนับสนุนสมทบทุนสำหรับการรักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย แต่การไปเยี่ยมเยียนครั้งนี้ไม่ได้พบน้องอาป่า  เพราะน้องอาป่ากำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เนื่องจากการผ่าตัดยืดกระดูกขาข้างขวา  คุณพิทักษ์ และคุณไพลินจึงได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท สำหรับช่วยเหลือน้องอาป่าเพื่อใช้ในการรักษาและการเดินทางไปโรงพยาบาล

เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. ข้าพเจ้า และนายยุทธชัย ไปเยี่ยมน้องอาป่าที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์   เพื่อไปเยี่ยมดูอาการหลังการผ่าตัดยืดกระดูกที่ขาข้างขวา

๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า  นายยุทธชัย  และนางอาชู่  เดินทางไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัว  จังหวัดเชียงราย ตามหมายนัดพนักงานสอบสวน

การไปศาลฯในวันนี้  พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นัดไปเพื่อขอผลัดฟ้องคดี  แต่ศาลไม่ยินยอมให้ผลัดฟ้องเพราะเป็นคดีเล็ก  มีโทษปรับตั้งแต่ ๔๐๐ บาทแต่ไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาทเท่านั้น

ศาลมีคำสั่งให้ยื่นฟ้องภายในวันนี้  พนักงานสอบสวนต้องเร่งในส่วนของสำนวนอัยการเพื่อทำเรื่องส่งฟ้อง 

๑๖.๒๕ น.  ศาลเรียกน้องอาป่ามาให้ปากคำ และถามว่า ยอมรับความผิดครั้งนี้หรือไม่ น้องอาป่าตอบว่า ไม่  ศาลจึงนัด ครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖

๕  กรกฎาคม  ๒๕๕๖

คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ตั้งคณะทำงานทีมช่วยเหลือ กรณี น้องอาป่า  ไม่ว่าจะเป็น ๑)การให้ความช่วยเหลือด้านคดีความ  ๒)การให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล  ๓)การให้ความช่วยเหลือด้านความเป้นอยู่ โดยมีนายวีระ  อยู่รัมย์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา เป็นหลักในการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ในครั้งนี้ ร่วมกับมูลนิธิ ศ.คนึง ฯ  และ โครงการบางกอกคลินิก ภายใต้โครงการวิจัยการปรากฏตัวของคนไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

๘  กรกฎาคม  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า และนางสาวสุรีย์  อุ่ยแม  เดินทางไปบ้านน้องอาป่า  เพื่อเก็บข้อมูลด้านสถานะบุคคล ของน้องอาป่า และครอบครัว การลงเก็บข้อมูลในวันนี้เราได้เพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เพราะนายสมเพชร  และน้องอาป่าเองไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มาก ต้องรอ นางอาชู่  มาให้ข้อมูลอีกครั้ง

ข้าพเจ้าทำบันทึกข้อความ กรณีความเจ็บป่วยจากเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนน เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม  ๒๕๕๖ ที่ส่งผลกระทบต่อ นายอาป่า  มาเยอะ  และครอบครัว

“ ตั้งแต่ นายอาป่า  มาเยอะ  ได้รับอุบัติเหตุบนท้องถนน เมื่อวันที่ ๒๑  มกราคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา  บัดนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ ๖ เดือนแล้ว (นับตั้งแต่วันประสพเหตุ) ปัจจุบัน นายอาป่า  มาเยอะยังต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องตามคำสั่งแพทย์  ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  ในวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖  นายแพทย์นัฐวุฒิ  วิวรรธนวรางค์  นัดนายอาป่า  มาเยอะ  ที่ห้องตรวจตึกเหลือง (กระดูกและทางเดินปัสสาวะ)  เวลา ๐๘.๓๐ น. –๑๐.๓๐ น. เพื่อทำการ X-Ray กระดูกหลังการผ่าตัดยืดกระดูกเมื่อวันที่ ๑๒  มิถุนายน ที่ผ่านมา  และในวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖  นายแพทย์อุปพันธ์  จันทพิมพะ  นัดนายอาป่า  มาเยอะ มาทำการตรวจศัลยกรรมประสาท  เวลา ๑๐.๐๐–๑๒.๐๐ น.

จากการสอบถามนายอาป่า  มาเยอะ (ผู้ประสพเหตุ) เกี่ยวกับ

๑)     ความช่วยเหลือหลังประสพอุบัติเหตุ ได้ความว่า

ตั้งแต่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  มีแม่ (นางอาชู่  มาเยอะ) เป็นคนเฝ้าไข้หลัก  มีผลัดเปลี่ยนบ้างก็จะเป็นพี่สะใภ้  ที่มาช่วยเฝ้าระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล  และมีนายจ้าง ที่นายอาป่า  มาเยอะ  ทำงานก่อนได้รับอุบัติเหตุ  มาเยี่ยมดูอาการครั้งหนึ่ง  แต่ตอนนั้น  นายอาป่า  ยังไม่รู้สึกตัว (ตามคำบอกเล่าของนางอาชู่  มาเยอะ  ผู้เป็นมารดา)  เมื่ออาการทุเลาขึ้น  ทางแพทย์เจ้าของไข้ได้อนุญาตให้ นายอาป่า กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน  และมาพบหมอตามที่หมอนัดทุกครั้ง  หลังกลับจากโรงพยาบาล  นายอาป่า  ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการตามที่แพทย์นัด  ทางครอบครัวต้องเหมารถไปโรงพยาบาลซึ่งเป็นรถคนในหมู่บ้านใกล้เคียง  ที่ช่วยขับพาไปส่ง  คิดค่าเหมารถครั้งละ ๒๕๐ – ๔๐๐  บาท  ตามแต่เวลาที่ต้องรอในระหว่างวัน  ประมาณ ๒ – ๓  ครั้ง  หลังจากนั้นจะมีพี่ ๆ ทางมูลนิธิกระจกเงา เข้าไปให้ความช่วยเหลือในส่วนการไปรับ – ส่ง นายอาป่า  ไปพบแพทย์ทุกครั้งจนถึงปัจจุบัน 

นอกจากนี้ นายอาป่า  มาเยอะยังได้รับการช่วยเหลือ ดังนี้

๑)    ได้รับเงินช่วยเหลือ  จากทางโครงการกองทุนเด็กดอย  มูลนิธิกระจกเงา จำนวน  ๕,๐๐๐  บาท  เมื่อวันที่ ๒๐  มิถุนายน  ที่ผ่านมา ได้รับเงินช่วยเหลือ จากคุณพิทักษ์ และคุณไพลิน ลาภปรารถนา  จำนวน ๑๐,๐๐๐  บาทผ่านมูลนิธิกระจกเงา  เพื่อเป็นทุนสนับสนุนต่อไปในการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ของนายอาป่า  มาเยอะ

๒)  ได้รับความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่  ในการสร้างที่พักชั่วคราว เพราะน้องอาป่าไม่สะดวกในการเข้าห้องน้ำที่สร้างห่างจากตัวบ้าน  และโดยสภาพบ้านก็เป็นบ้านแบบยกสูง  ตามแบบชนเผ่าอาข่าทั่วไป  โดยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการท่องเที่ยวเชิงอาสาสมัคร  มูลนิธิกระจกเงา

ข้าพเจ้าสอบถามเรื่องอาชีพและการทำงานก่อนเกิดอุบัติเหตุ  ของน้องอาป่า  น้องอาป่าเล่าว่า ตนเองทำงานที่  ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชิตแอนด์นา พลาสติกที่อยู่ ๑๖๓ หมู่ ๑ ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย ๕๗๐๐๐โทรศัพท์๐๘๗- ๑๕๑๑๙๐๙วันทำงาน วันจันทร์– วันศุกร์   เวลา  ๐๗.๓๐ -๑๙.๓๐ น. และวันเสาร์ เวลา  ๐๗.๐๐ -๑๙.๓๐ น.  ได้ค่าแรงวันละ ๒๐๐ บาท  ทางนายจ้างจ่ายค่าแรงเป็นรายวัน  โดยมีการหักค่าประกันความเสียหายเดือนละ ๒๐๐ บาท  ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุ  น้องอาป่าได้รับเงินส่วนนี้จากนายจ้างแล้ว 

น้องอาป่ายังเล่าอีกว่าตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน  นายจ้างเคยมาเยี่ยมเยียนเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้นในช่วงน้องอาป่า ยังไม่ได้สติและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  ที่รู้ว่านายจ้างมาเยี่ยมเพราะนางอาชู่เล่าให้ฟัง  ในส่วนของสวัสดิการด้านอื่น ๆ ทางนายจ้างไม่มีอะไรให้แก่ลูกจ้างเลย  แม้กระทั่งสิทธิทางประกันสังคมที่ลูกจ้างพึงจะได้รับ

ก่อนเกิดเหตุ  อาป่ามีส่วนช่วยเหลือครอบครัวโดยแบ่งปันให้แม่ไว้ใช้จ่ายซื้อกับข้าวและเลี้ยงดูน้อง เฉลี่ยเดือนละประมาณ ๑,๖๐๐ บาท  จากค่าแรงทั้งหมดที่ได้รับ  ต่อเดือนประมาณ ๕,๘๐๐ บาท  โดยแบ่งค่าใช้จ่ายดังนี้ 

๑)     ให้แม่เดือนละ  ๑,๖๐๐ บาท

๒)    ผ่อนชำระรายงวดรถจักรยานยนต์  เดือนละ ๑,๔๙๐  บาท

๓)    เติมน้ำมันรถจักรยานยนต์เพื่อขับขี่ไปทำงาน  ประมาณวันละ ๕๐ บาท

๔)    ใช้จ่ายค่าอาหารกลางวันประมาณวันละ ๓๐ บาท

ในส่วนของรถจักรยานยนต์  เช่าซื้อในชื่อของน้าชายของอาป่า  และอาป่ารับผิดชอบในส่วนของการวางเงินดาว  และผ่อนชำระรายงวด  จากการสอบถามอาป่า  หลังเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ได้มีการผ่อนชำระต่อในส่วนของค่างวดรายเดือนที่ทำสัญญาซื้อขายกับทางร้านเด่นห้ามอเตอร์   ในส่วนของทางร้านเองได้ส่งพนักงานเข้ามาทำตามเงื่อนไขของทางร้าน คือ ยึดรถจักรยานยนต์กลับคืน  แต่ในส่วนนี้เมื่อทางเจ้าหน้าที่ทางร้านมาเห็นสภาพรถ ก็มิได้ทำการยึดรถแต่อย่างใด  แต่ยังคงให้อาป่า  ชำระค่างวดจนกว่าจะหมดค่าเช่าซื้อตามสัญญา  ทำให้อาป่าเองมีหนี้สินในส่วนนี้ที่ยังค้างชำระ  ซึ่งยังไม่แน่ใจว่ามีเงินค่างวดค้างชำระ  และดอกเบี้ยที่ทางร้านมีเบี้ยปรับในฐานะที่เราจ่ายเงินค่างวดช้ากว่ากำหนดในแต่ละเดือน  เป็นจำนวนเท่าไร  ซึ่งต้องเช็คในเอกสารการชำระค่างวด  และเช็คเงินค่าปรับรายเดือนจากทางร้านอีกครั้งหนึ่ง

ข้าพเจ้า ประสานโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อขอทราบรายละเอียดค่ารักษาพยาบาล ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันของน้องอาป่า จากอุบัติเหตุในครั้งนี้  และประสานงานทางโรงพยาบาล ฯ เพื่อขอคำวินิจฉัยแพทย์ในส่วนของอาการและแนวทางการรักษาต่อ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ฯ แนะนำให้เราไปพบแพทย์ตามวันเวลาที่หมอนัดน้องอาป่า ซึ่งแยกการรักษาเป็นสองส่วน คือ ส่วนของแพทย์รักษากระดูก  และส่วนของแพทย์ที่รักษาด้านศัลยกรรมประสาท  ซึ่งต้องรอวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ สำหรับการพบแพทย์เกี่ยวกับการรักษากระดูก และวันที่ ๑๗  กรกฎาคม ๒๕๕๖ สำหรับการพบแพทย์ศัลยกรรมระบบประสาท ตามคิวนัด

๙  กรกฎาคม  ๒๕๕๖

คณะทำงานช่วยเหลือกรณีน้องอาป่า ได้ประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าของคดี ความช่วยเหลือ ฯ และมอบหมายงานระบุคนรับผิดชอบในแต่ละส่วนงาน โดยมี ๑)นายวีระ  ๒)นางสาวประไพ  ๓)นางสาวสุรีย์ ๔)นายยุทธชัย และข้าพเจ้า เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือในครั้งนี้

ข้าพเจ้า จัดทำบันทึกข้อมูลในส่วนของการเข้ารับการรักษาพยาบาล  และการให้ความช่วยเหลือน้องอาป่า จากทางมูลนิธิกระจกเงา ตามเอกสารแนบ

๑๐  กรกฎาคม  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า และ นางสาวสุรีย์  เดินทางไปรับ นางอาชู่ที่บ้านไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อขอคัดสำเนางบสรุปค่ารักษาพยาบาลและเอกสารประวัติการเข้ารับการรักษาพยาบาล จากแผนกเวชระเบียน ของน้องอาป่า ที่เกิดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้  ซึ่งต้องรอสำเนาเอกสารตามที่เราร้องขอประมาณสองสัปดาห์ ทางโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในส่วนของวันเวลาที่จะมารับสำเนาเอกสาร

๑๒  กรกฏาคม  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้าทำบันทึกเรื่องราว น้องอาป่า และส่งให้ นางสาวประไพ ช่วยตรวจสอบความเรียบร้อยของบทความที่เขียน

นายยุทธชัย สอบปากคำพยานปากที่ ๑ และทำแผนผังครอบครัว (Family Tree)ตามเอกสารแนบน้องอาป่าเพื่อนำไปวิเคราะห์และช่วยเหลือด้านสถานะบุคคล เป็นลำดับต่อไป

๑๓  กรกฎาคม  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า ปรึกษากับ นายยุทธชัย  เพื่อรวบรวมข้อมูลการให้ความช่วยเหลือน้องอาป่า มาจัดทำในรูปแบบบันทึกข้อมูล และเพิ่มเติมในส่วนของบันทึกความช่วยเหลือ กรณีน้องอาป่า

๑๕  กรกฎาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า ทำสำเนาเอกสารของน้องอาป่าเพื่อใช้ประกอบในส่วนของคดีความ และโทรศัพท์สอบถามฝ่ายการเงินโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เรื่องยอดรวมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของน้องอาป่าที่ค้างจ่ายกับทางโรงพยาบาล  ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ๒๑  มกราคม ๒๕๕๖ ถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งสอบถามเจ้าหน้าที่ ฯ ในส่วนของการใช้สิทธิบัตร ๓๐ บาทรักษาทุกโรค และ การใช้สิทธิตาม พรบ.รถ ฯ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  แจ้งว่าในส่วนของค่ารักษาพยาบาลต้องรอคดีความสิ้นสุดก่อน หลังจากนั้น ทางพรบ.จะมีการนัดสอบอีกครั้ง หลังเสร็จขั้นตอนนี้ทางโรงพยาบาล ฯ ถึงจะตอบได้ว่ามีค่าใช้จ่ายและค่าส่วนต่างที่ต้องชำระไหม ถ้ามี มีจำนวนเท่าไร  เพราะทางโรงพยาบาลไม่เห็นหนังสือสัญญาที่ แม่น้องอาป่าทำไว้กับพรบ.  ทางโรงพยาบาล ฯ จึงไม่สามารถให้คำตอบได้

ข้าพเจ้า ช่วย นายยุทธชัย  พิมพ์บันทึกข้อมูลพยานบุคคลที่รู้เห็นในวันที่เกิดเหตุ เอกสารตามไฟล์แนบ

๑๖  กรกฎาคม  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า พร้อมด้วย นายยุทธชัย จะจู เดินทางไปรับน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อไปพบแพทย์ตามนัด ในส่วนของการรักษากระดูก ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ การเข้ารับการรักษาพยาบาลและพบแพทย์ในครั้งนี้  แพทย์เจ้าของไข้ได้ถอดเหล็กที่ดามขาด้านซ้าย  และให้ดูผล X-RAY ขาทั้งสองข้าง  ซึ่งผลจากการ X-RAY ในครั้งนี้ทำให้เห็นว่ากระดูกที่มีการผ่าตัดยืดกระดูกก่อนหน้านี้มีการผิดรูป และมีการทับซ้อนของกระดูกที่ขาด้านขวา  เพราะก่อนหน้านั้นหลังการผ่าตัดยืดกระดูก น้องอาป่ามีการลงน้ำหนักที่ขาข้างขวามากเกินไปทำให้กระดูกเป็นดังผล X-RAY แพทย์จึงห้ามน้องอาป่า เดินโดยเด็ดขาดในช่วงเวลานี้

๑๗ กรกฎาคม  ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า เดินทางไปรับน้องอาป่า และนายอาจ่า  เชหมื่อพ่อเลี้ยงน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อไปพบแพทย์ตามใบนัดในส่วนของการรักษาศัลยกรรมประสาท

๐๘.๔๕ น      ถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ยื่นเอกสารคนไข้ พยาบาลแจ้งรอพบแพทย์

๑๑.๔๐ น.      น้องอาป่าเข้าพบแพทย์เจ้าของไข้  แพทย์แจ้งให้น้องทราบถึงอาการทางประสาท และทำความเข้าใจเรื่องการผ่าปิดกะโหลกศรีษะ  ที่น้องมีความกังวล  แพทย์แจ้งว่าอาการในส่วนนี้ไม่น่าห่วงแล้วที่น่าห่วงคือในส่วนของการรักษาพยาบาลที่ขา ที่กระดูกยังไม่เข้าที่ และจากผล X-RAY ที่แพทย์เห็นอาจจะมีการผ่าตัดอีกรอบเพื่อยืดกระดูกขาให้เท่ากันทั้งสองข้าง  แพทย์อยากให้รักษาในส่วนของกระดูกขาให้เรียบร้อยก่อน ไม่อยากเร่งรีบเรื่องการปิดกะโหลก เพราะกลัวผลข้างเคียงถ้าเกิดกรณีติดเชื้อ

๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖

นายวีระ แจ้งให้ ข้าพเจ้า จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวเนื่องกับน้องอาป่าและครอบครัว ให้คุณภูริชฦาไชย  ทนายความจากมูลนิธิ ศ.คะนึง ฯซึ่งจะมาช่วยเป็นที่ปรึกษาและช่วยดำเนินการด้านคดีความของน้องอาป่า  คุณภูริชจะเข้ามาพบเพื่อพูดคุยวางแนวทางการให้ความช่วยเหลือกับทีมทำงานของมูลนิธิกระจกเงา ด้านการให้ความช่วยเหลือน้องอาป่า  ในวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  ได้นำบันทึกข้อมูลพยานไปอ่านให้พยานแต่ละปากฟัง ก่อนให้พยานลงชื่อในบันทึกพยาน และส่งบันทึกปากคำพยานให้ข้าพเจ้า  เพื่อทำสำเนาแจกจ่ายให้ทีมทำงานได้อ่านและรับทราบความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานร่วมกัน 

๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖

ช่วงเช้า ข้าพเจ้า ทำสำเนาเอกสารเพิ่มเติมในส่วนของบันทึกข้อมูล และบันทึกสอบปากคำพยานเพื่อเตรียมให้คุณภูริช  และทีมทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือ มูลนิธิกระจกเงา

๑)นายวีระ ๒)นายยุทธชัย ๓)นางสาวสุรี ๔)นายสมชาติ  และ ๕) ข้าพเจ้า ร่วมพูดคุยกับคุณภูริช ถึงแนวทางการทำงานและรูปแบบการต่อสู้คดี   หลังจากนั้นคุณภูริชได้สอบปากคำพยานรวมไปถึงสอบปากคำน้องอาป่าด้วย

เวลาประมาณ ๑๖.๑๕ น. นายวีระ  พาคุณภูริช ไปดูที่เกิดเหตุ

เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. ข้าพเจ้าไปอัดภาพเพื่อมอบให้คุณภูริชใช้ในการพิจารณารูปคดี  คุณภูริชแจ้งความต้องการเพิ่มเติมในส่วนของ

๑)     ภาพพยานชี้จุดที่เกิดเหตุ

๒)    ตำแหน่งที่รถจักยานยนต์จอดอยู่ตำแหน่งไหน ในวันเกิดเหตุ

๓)    คนเจ็บอยู่ตำแหน่งไหน เป็นจุดสุดท้าย

๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖

๑๓.๓๐ น. คุณภูริชพูดคุยและวางแผนการดำเนินงานเพื่อหาทางออกร่วมกันกับ ๑)นายวีระ ๒)นางสาวสุรีย์๓)นายยุทธชัย  และ ๔)ข้าพเจ้า ที่มูลนิธิกระจกเงา

เวลาประมาณ ๑๕.๓๕ น. ข้าพเจ้าขอเอกสารเพิ่มเติมในส่วนของภาพการเข้าร่วมกิจกรรมและคุณงามความดีที่น้องอาป่าเคยร่วมกิจกรรมกับทางมูลนิธิกระจกเงา จากคุณประไพ 

๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า และนายยุทธชัย เดินทางไปศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นตัวแทนน้องอาป่าในการกรอกคำร้องเพื่อยื่นขอทนายขอแรง ที่ผ่านการอบรมจากศาลเยาวชน ฯ ทางเจ้าหน้าที่ศาลฯ นัดให้เราติดต่อกลับไปในวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เพื่อทางเราจะได้ทราบว่าใครจะมาเป็นทนายขอแรงในคดีนี้

๒๖  กรกฎาคม ๒๕๕๖

๑๓.๐๗ น.  ข้าพเจ้า  ติดต่อประสานงานศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเชียงราย เพื่อขอทราบชื่อทนายขอแรง แต่ไม่มีผู้รับสาย 

๑๓.๓๑ น. ข้าพเจ้าได้ติดต่อไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเชียงราย อีกครั้ง และได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ศาลฯ  เจ้าหน้าที่ศาลฯแจ้งให้เราทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบติดภารกิจในวันนี้ให้ติดต่อกลับมาใหม่

๒๙  กรกฎาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า ติดต่อประสานงาน ศาลเยาวชนฯเพื่อขอทราบชื่อทนายความขอแรง อีกครั้ง หลังจากการประสานไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ทราบชื่อในวันนั้น เจ้าหน้าศาล ฯคนแรกที่ได้พูดคุย แจ้งว่า ทางเราจะรู้ว่าใครเป็นทนายขอแรงในวันที่ขึ้นศาลเท่านั้น  ข้าพเจ้าเลยแจ้งให้เขาทราบเหตุผลที่เราต้องการทราบชื่อและเบอร์ติดต่อทนายขอแรง คุยสักพัก เจ้าหน้าที่ศาลฯ คนที่สองมาคุยสายกับเราต่อ ครานี้ไม่ต้องเท้าความเลย รู้แม้กระทั่งชื่อผู้ติดต่อทั้งที่ยังไม่ได้บอกเลยว่าใครโทรมา เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเราคุยกันและนัดหมายไว้เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๖ กรกฎาคมที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ศาลฯ แจ้งชื่อ สกุล พร้อมเบอร์ติดต่อให้เราได้รับทราบ

หลังจากทราบชื่อทนายขอแรง ข้าพเจ้า ได้โทรศัพท์แจ้ง คุณภูริชในส่วนของชื่อ-สกุลและเบอร์โทรศัพท์ทนายขอแรง  แต่ทางคุณภูริช ไม่สะดวกที่จะจดชื่อ สกุล และเบอร์โทรศัพท์ ทนายขอแรง ในเวลานี้ ให้ข้าพเจ้าใช้วิธีส่งผ่านช่องทางสื่อสาร sms แทน

๕  สิงหาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า และ นายยุทธชัย  ไปรับน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อไปพบแพทย์ก่อนวันนัด สาเหตุเนื่องมาจากขาข้างซ้ายเกิดอาการปวดบวม  น้องอาป่าเข้าพบแพทย์ แต่มิใช่แพทย์เจ้าของไข้  เป็นเพียงแพทย์เวรเท่านั้น  แพทย์ที่รับรักษาน้องอาป่าในวันนี้สั่งให้น้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อเข้าเฝือก และรอดูอาการบริเวณที่ปวดบวม

เราขอใบรับรองแพทย์เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันการเข้ารับการรักษาพยาบาลจริงของน้องอาป่า เนื่องจาก วันพรุ่งนี้ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ทางศาลฯนัดพร้อม  ซึ่งการขอใบรับรองแพทย์ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร เราต้องอธิบายให้แพทย์เวรเข้าใจถึงที่มาที่ไปของน้องและความสำคัญของใบรับรองแพทย์ที่เราต้องใช้ยืนยันในชั้นศาล กรณีที่น้องอาป่าไม่สามารถมาตามศาลฯนัดได้ในวันศาลฯนัด  ทางแพทย์ก็ยืนยันหนักแน่นเช่นกันว่า ใบรับรองแพทย์ออกให้ได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้วเท่านั้น  เราเลยขอให้พยาบาลมาช่วยอธิบาย สรุปคือได้รับ ใบรับรองการเข้ารับการรักษาพยาบาล ลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ มาแทนใบรับรองแพทย์ 

๖  สิงหาคม  ๒๕๕๖

นางสาวสุรีย์ ไปรับนางอาชู่ที่บ้านเพื่อเดินทางไปขึ้นศาลฯ ตามที่ศาลนัด พร้อมด้วย ๑)นายวีระ  ๒)นายณัฐพล  ๓)นางสาวประไพ ๔) ข้าพเจ้า และ๕) คุณภูริช

เวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น. นิติกรศาลฯ สอบถามถึงสาเหตุที่น้องอาป่าไม่สามารถมาขึ้นศาลฯตามวันเวลาที่ศาลนัด เพื่อลงบันทึกและแจ้งศาล  เราชี้แจงเหตุผลให้ศาลทราบถึงอาการป่วย อาการบาดเจ็บของน้องอาป่า  ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนนัดพร้อมเป็นวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ และตรวจสอบตารางเวรทนายขอแรง สรุปคือเราได้ทนายขอแรงคนเดิมที่ทางเจ้าหน้าที่ศาลแจ้ง เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ที่ผ่านมา

๗ สิงหาคม  ๒๕๕๖

๑)ข้าพเจ้า ๒)นางสาวสุรี ๓)นางสาวประไพ ๔)คุณภูริช นัดหมายพูดคุยกับทนายขอแรง เพื่อทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของการทำงานของมูลนิธิกระจกเงา และเหตุผลของการให้ความช่วยเหลือน้องอาป่า ทางคดีความในครั้งนี้ ให้มีความเข้าใจที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน

๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า  เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อบันทึกภาพถ่ายเพิ่มเติมในการเปรียบเทียบความสูงของระดับรถยนต์กับรอยถลอกของต้นไม้ที่คู่กรณีเฉี่ยวชน  และจัดส่งให้คุณภูริชเก็บรวบรวมเป็นหลักฐาน  และทำบันทึกข้อความในส่วนของการรักษาพยาบาลและ แนวทางของคดีความ เพิ่มเติม

๓๐  สิงหาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้าโทรศัพท์ไปสอบถามคุณภูริชในส่วนของเอกสาร และความต้องการเพิ่มเติม คุณภูริช แจ้งว่า ตอนนี้ได้ดำเนินการประสานเตรียมความพร้อมกับทนายขอแรง และเตรียมการในวันนัดพร้อมในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เรียบร้อยแล้ว  และยังไม่มีความต้องการใด ๆ เพิ่มเติมในเวลานี้

๒ กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า ทำบันทึกข้อมูลอัพเดทกรณีความช่วยเหลือทางคดีและเรื่องสถานะบุคคลของน้องอาป่า และครอบครัว

๕  กันยายน ๒๕๕๖

อาจารย์พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร คณะทำงานโครงการศึกษาวิจัยและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิเด็กและผู้ด้อยโอกาสในชุมชนจังหวัดตากและชุมชนกลุ่มจังหวัดชายแดนในประเทศไทย   คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากข้าพเจ้า ในส่วนของประวัติการรักษาพยาบาล และภาพถ่ายบาดแผล  บริเวณขาทั้งสองข้าง  บริเวณหน้าท้องที่หมอผ่าตัดฝากกะโหลกศรีษะไว้  และบริเวณศรีษะที่หมอผ่าตัดเปิดกะโหลก  เพื่อเอาเข้าที่ประชุมในวันพรุ่งนี้  ๖ กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้าจัดเตรียมเอกสารตามที่อาจารย์พันธุ์ทิพย์ฯ ขอ  แสกนเป็นไฟล์ภาพส่งให้ทาง Facebook Group 

ช่วงเย็น (เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ -๑๙.๔๕ น.) ข้าพเจ้าและ นางสาวนริศรา  ซื่อมื่อ น้องเยาวชนโครงการกองทุนเด็กดอย ที่มาช่วยเป็นล่ามภาษาอาข่า   เดินทางไปบ้านน้องอาป่าเพื่อเก็บข้อมูลสถานะบุคคลของน้องอาป่าเพิ่มเติม  โดยมี ตา  ยาย  ลุง ฯ  และพยานรู้เห็นการเกิด มาคุยกัน พร้อมเก็บข้อมูลลงแบบฟอร์ม

๖ กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้ากรอกรายละเอียดลงแบบฟอร์มสำรวจสถานะบุคคลของน้องอาป่า (ต่อจากเมื่อวาน) และแสกนเป็นไฟล์ภาพ ส่งอาจารย์พันธุ์ทิพย์ฯ

๙ กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า รับโทรศัพท์จากสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงราย ที่โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าของคดี และการจัดหาทนายเพื่อต่อสู้คดี  เหตุเพราะน้องอาป่าเคยทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปที่สำนักยุติธรรมฯ ให้ช่วยจัดหาทนายความ ทางเจ้าหน้าที่สำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงราย แจ้งว่าทางสำนักยุติธรรมเองก็ไม่มีทนายที่ผ่านการอบรมจากศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเชียงราย และงบประมาณในการจัดจ้างทนายตอนนี้ยังไม่มีงบประมาณลงมา ทางเราต้องรอถ้าต้องการงบประมาณในส่วนนี้  และทางสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงรายเองก็ไม่แน่ใจว่างบประมาณจะลงมาเมื่อไร   และถ้าเราไม่ต้องความช่วยเหลือแล้วให้เราไปเขียนคำร้องยกเลิกการร้องขอทนายจากสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงราย

๑๐ กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า เดินทางไปสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงราย เพื่อเขียนคำร้องขอยกเลิกการร้องขอทนายจากสำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงรายแทนน้องอาป่า

๑๖ กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า สแกนไฟล์ภาพเอกสารของครอบครัวน้องอาป่า ส่งให้อาจารย์พันธุ์ทิพย์เพิ่มเติม

๑๗  กันยายน ๒๕๕๖

นางสาววิมรรุ่ง  ไปรับน้องอาป่าที่บ้านเพื่อไปพบแพทย์ตามใบนัด วันนี้แพทย์เอาเฝือกที่ขาทั้งสองข้างของน้องอาป่าออก เนื่องจากเฝือกมีสภาพที่แย่มาก และเฝือกบริเวณข้อเท้าซ้ายแตก สาเหตุเพราะน้องอาป่าทำการตัดออก เนื่องจากทนกับความคันไม่ไหว หลังจากนั้นได้ทำการเอ็กซเรย์ขาทั้งสองข้าง ผลคือ  ขาข้างซ้าย กระดูกเชื่อมติดกันแล้ว  ขาข้างขาว กระดูกเชื่อมติดกันแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่สมบูรณ์เท่าขาข้างซ้าย

คำแนะนำสำหรับการทำกายภาพบำบัดจากคุณหมอ :

๑. ให้เริ่มหัดเดิน และทำการเหยียดขา และงอเข่าอยู่บ่อยๆ   พยายามเหยียดให้ได้ประมาณ ๙๐ องศา

๒. ให้พยายามลงน้ำหนักที่เท้าซ้ายให้เต็มที่ อย่าลงน้ำหนักที่ขาข้างขวามากนัก ในช่วงนี้

การทานยา : คุณหมอให้ทานยาบำรุงกระดูกต่อไป ควบคู่กับยาแก้ปวด แต่ให้ทานเมื่อปวดเท่านั้น

แพทย์นัดอีกครั้ง : วันอังคารที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖   สภาพโดยทั่วไปของน้องอาป่า: หลังจากเอาเฝือกออก และลองใช้ไม้เท้าหัดเดินเอง  น้องอาป่าดูมีความสุขและมีกำลังใจมากขึ้น จากสีหน้าและแววตาที่แสดงออกมา  และไม่มีอาการปวดหรือเจ็บที่เท้าขณะเดินหรือทิ้งน้ำหนักลงที่เท้า 

ข้าพเจ้าฝากนางสาววิมรรุ่ง ยื่นจดหมายถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อขอคัดสำเนาผลการตรวจพิสูจน์การรักษาพยาบาลและร่องรอยของบาดแผลจากทางแผนกนิติเวช

๒๘  กันยายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า ไปพบน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อแจ้งให้น้องทราบว่า  พี่ ๆ คณะทำงานโครงการศึกษาวิจัยและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิเด็กและผู้ด้อยโอกาสในชุมชนจังหวัดตากและชุมชนกลุ่มจังหวัดชายแดนในประเทศไทย   คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  นำทีมโดยอาจารย์พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร จะเดินทางมาเยี่ยมเยียนและพูดคุยกับน้องอาป่าและครอบครัว ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖

๓๐  กันยายน ๒๕๕๖

นายวีระ นางสาวสุรี  และข้าพเจ้า พาคณะทำงานโครงการศึกษาวิจัยและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิเด็กและผู้ด้อยโอกาสในชุมชนจังหวัดตากและชุมชนกลุ่มจังหวัดชายแดนในประเทศไทย   คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  นำทีมโดยอาจารย์พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร ลงพื้นที่บ้านจะแล เพื่อไปเยี่ยมเยียนและพูดคุยกับน้องอาป่าและครอบครัว  ในการหาแนวทางเพื่อการดำเนินการต่อยอดเรื่องสัญชาติและแนวทางรักษาพยาบาล  พร้อมทั้งสอบพยานรู้เห็นการเกิดของน้องอาป่า และนางอาชู่ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิเคราะห์การยื่นขอสถานะบุคคลของครอบครัวน้องอาป่าจัดหมวดรวบรวมเอกสารคนในครอบครัว พร้อมทั้งพยานรู้เห็นการเกิด เก็บเป็นหมวดหมู่เฉพาะรายบุคคล เพื่อง่ายในการค้นหา

๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้าโทรศัพท์ติดต่อประสานงานไปที่ฝ่ายนิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อขอทราบผลการอนุมัติการขอคัดสำเนาผลการตรวจพิสูจน์การรักษาพยาบาลและร่องรอยของบาดแผลจากทางฝ่ายนิติเวช อีกครั้ง หลังจากการโทรศัพท์ประสานงานมาแล้วหลายรอบครั้งนี้ก็เช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติเวชแจ้งว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯยังไม่เซ็นอนุมัติในเรื่องที่เรายื่นคำขอ  เมื่อถามถึงระยะเวลาก็ไม่สามารถตอบได้  และให้ทางเราไปขอคัดสำเนาจากทาง ตำรวจร้อยเวรเจ้าของคดี  ทางโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เองก็ไม่มีการทำภาพถ่ายหรือ วิเคราะห์บาดแผลผู้ป่วย  เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งอีกด้วยว่า ฝ่ายนิติเวชจำทำการตรวจพิสูจน์เฉพาะคนที่เสียชีวิตแล้วเท่านั้น

ข้าพเจ้าโทรศัพท์แจ้งคุณภูริช ให้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในครั้งนี้ ข้าพเจ้าประสานงานไปที่สำนักอัยการ จังหวัดเชียงรายเพื่อสอบถามแนวทางปฏิบัติในการขอคัดสำเนาเอกสาร  สำเนาภาพถ่ายที่เกิดเหตุ  ทางเจ้าหน้าที่สำนักอัยการแนะนำให้เราทำหนังสือเข้าไป  และแจ้งความประสงค์ว่าต้องการขออะไรบ้าง  แต่ในการพิจารณาอนุมัติขอคัดสำเนาเอกสารขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ของอัยการจังหวัดว่าจะอนุมัติหรือไม่  ซึ่งต้องรอคำตอบประมาณ ๑-๒  สัปดาห์ หลังจากที่เรายื่นหนังสือแล้ว 

ข้าพเจ้าร่างหนังสือขอคัดสำเนาภาพถ่ายขณะเกิดอุบัติเหตุ  และสำนวนคดีความ ส่งให้คุณภูริชช่วยตรวจสอบก่อนนำไปอ่านให้น้องอาป่าฟัง และลงลายมือชื่อ รับรองหนังสือ ก่อนนำส่งให้อัยการจังหวัดเชียงราย

ในส่วนของสถานะบุคคลของครอบครัวน้องอาป่าข้าพเจ้าสแกนเอกสารแยกตามรายชื่อเป็นไฟล์ภาพ  เพื่อใช้ประกอบหลักฐานในการยื่นขอสถานะบุคคลของครอบครัวน้องอาป่า  และขอภาพถ่ายข้อมูลบ้านจะแล จากนายกำพล สุแก้ว เจ้าหน้าที่โครงการท่องเที่ยวชนเผ่า มูลนิธิกระจกเงา และนายณัฐพล  สิงห์เถื่อน หัวหน้าโครงการสื่อไอซีทีเพื่อการพัฒนา มูลนิธิกระจกเงา   เพื่อนำมาจัดทำแผนที่ชุมชนและที่ตั้งครอบครัวที่รายล้อมบริเวณบ้านน้องอาป่า  ทั้งสองขอเวลาในการค้นหาภาพถ่าย และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

๒ ตุลาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า และนางสาวสุรีย์  เดินทางไปอำเภอเมืองเชียงราย  จังหวัดเชียงรายเพื่อเข้าไปปรึกษากับปลัดศศินันท์  ในการขอคิวยื่นขอสถานะบุคคลเป็นกรณีพิเศษให้ครอบครัวน้องอาป่า  และบอกเล่าถึงปัญหาที่น้องอาป่าและครอบครัวกำลังประสบ  ปลัดฯให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่แผนกทะเบียนราษฎรและกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคิวการยื่นขอสถานะบุคคล  สรุปได้คิวยื่นคำร้องขอสถานะบุคคลอย่างรวดเร็วที่สุด วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยนัดมาทำหนังสือรับรองการเกิดเป็นลำดับแรกก่อนเข้าสู้ขั้นตอนอื่น ๆ ในการยื่นขอสถานะบุคคล

๓  ตุลาคม ๒๕๕๖

๐๘.๓๖ น. นายยุทธชัย ไปยื่นหนังสือขอคัดสำเนาเอกสาร  สำเนาภาพถ่ายที่เกิดเหตุ  จากทางสำนักอัยการจังหวัดเชียงราย

๙ ตุลาคม ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า พร้อมด้วยน้องสุชาดา  ทองมน  นักศึกษาฝึกงาน มูลนิธิกระจกเงา จังหวัดเชียงรายไปรับน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตามใบนัดของแพทย์ในส่วนของการรักษาศัลยกรรมประสาท ผลการตรวจรักษาสภาพร่างกายโดยรวมตามคำวินิจฉัยของหมอ ตอนนี้สภาพร่างกายและจิตใจดูดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด  และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วในส่วนของร่างกาย แต่ต้องใช้เวลาในการเยียวยารักษาให้หายเป็นปกติ

ข้าพเจ้าขอคำปรึกษาจากแพทย์เจ้าของไข้ กรณีที่น้องอาป่าต้องขึ้นศาลในวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ นี้  ถ้าแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าจะต้องผ่าตัดปิดกะโหลกศรีษะในเร็ววันนี้ เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปให้ปากคำในชั้นศาลของน้องอาป่า  แพทย์เจ้าของไข้เลยนัดนัดอีกครั้งในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖  เพื่อผ่าปิดกะโหลกศรีษะ พร้อมกำชับให้ทานยาบำรุงให้หมด

๑๑  ตุลาคม  ๒๕๕๖

นายยุทธชัย  โทรศัพท์เพื่อติดตามหนังสือขอความอนุเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายต่าง ๆ จากทางอัยการจังหวัดเชียงราย ที่ยื่นหนังสือเพื่อขอคัดสำเนาฯไว้เมื่อ วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ปรากฎว่าทางอัยการฯให้ทำหนังสือถึงอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวอีกหนึ่งฉบับ และไปยื่นที่นั้นในกรณีที่เป็นเด็กหรือเยาวชน

๑๔  ตุลาคม ๒๕๕๖

นายยุทธชัย ได้ร่างจดหมายขอความอนุเคราะห์คัดสำเนาภาพถ่ายจุดเกิดเหตุและคำวินิจฉัยแพทย์ให้น้องอาป่า และนำเนื้อความในจดหมายร่างไปอ่านให้น้องอาป่าฟัง ก่อนให้น้องอาป่าลงชื่อรับรองจดหมาย จากนั้นนำไปยื่นที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ชั้น ๑

๒๗  ตุลาคม ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๑๐.๕๐ น.  นายวีระ และนางสาวศิวนุช  สร้อยทอง  โครงการบางกอกคลีนิกเดินทางไปรับคุณภูริช  เพื่อมาพบคุณชัยรัตน์ อุนามูล ทนายความ-ที่ปรึกษา ณ ศาลเด็กและเยาชนจังหวัดเชียงราย  และข้าพเจ้าเพื่อมาพุดคุยติดตามเคสอาป่า ต่อเนื่องด้วยการดูพยานหลักฐาน และหารือเพื่อการเตรียมขึ้นศาลนัดแรก

๒๘  ตุลาคม ๒๕๕๖

 ติดตามเคสอาป่า - ความคืบหน้าการขึ้นศาลครั้งแรกของอาป่า (นัดพร้อม)

๑) ศาลตั้งทนายความ -ที่ปรึกษาให้น้องอาป่า เพื่อดำเนินคดีในศาล

๒) ทนายความ -ที่ปรึกษา ยื่นคำให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในคำฟ้อง

๓) ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย ในวันที่ ๑๙-๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖

- โดยโจทก์-อัยการ ขอนำพยานเข้าสืบ ๖ ปาก

- โดยจำเลย-น้องอาป่า ขอนำพยานเข้าสืบ ๘ ปาก

๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. นางสาวสุชาดา ไปพบน้องอาป่าที่บ้านรับไปโรงพยาบาล เพื่อไปขอทำการตรวจสภาวะความพร้อมทางอารมณ์ จิตใจ และสภาวะความพร้อมทางร่างกาย เพื่อต้องการประเมินความพร้อมหลังจากเกิดอุบัติเหตุ  จากแผนกจิตเวชพยาบาลประจำแผนกชี้แจงว่า ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจรักษาด้านจิตเวชต้องเป็นผู้ที่ป่วยจริง ๆ พร้อมทั้งแนะนำให้ไปตรวจที่ศัลยกรรมทั่วไปก่อนโดยได้แนะนำให้ไปที่ฝ่ายทำบัตรเพื่อรอคิวตรวจ เมื่อทำบัตรและได้บัตรคิวเรียบร้อยแล้ว จึงไปยื่นเพื่อทำการตรวจ

เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. ถึงคิวน้องอาป่าเข้ารับการตรวจพยาบาลประจำแผนกสอบถามข้อมูลและซักประวัติคนไข้และสอบถามน้องอาป่าว่ามาทำอะไรในวันนี้  นางสาวสุชาดา แจ้งพยาบาลประจำแผนกว่าต้องการมาตรวจประเมินความพร้อมทางจิตใจและร่างกายหลังเกิดอุบัติเหตุ และขอใบรับรองการตรวจรักษาในครั้งนี้ด้วยพยาบาลแจ้งให้ไปที่แผนกจิตเวชนางสาวสุชาดาเพิ่งมาจากแผนกนั้น และพยาบาลที่แผนกจิตเวชก็แนะนำให้มาพบแพทย์ที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปจากนั้นพยาบาลแผนกศัลยกรรมทั่วไปซักถามชื่อแพทย์เจ้าของไข้ และแจ้งให้เราทราบว่า ต้องให้หมอที่ดูแลคนไข้เป็นคนตรวจ และออกใบรับรองให้แต่วันนี้นายแพทย์อุปพันธ์ ไม่เข้าเวรจึงได้แนะนำให้มาใหม่ในวันพรุ่งนี้จากนั้นพยาบาลที่ศัลยกรรมทั่วไปก็ส่งน้องอาป่าไปที่แผนกศัลยกรรมกระดูกเพื่อไปพบแพทย์เจ้าของไข้ แต่ก็ไม่ได้พบแพทย์เช่นกันเพราะแพทย์ไม่มีเวรการให้การรักษาพยาบาลในวันนั้น

๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น. นางสาวสุชาดา ไปรับน้องอาป่าที่บ้านและรับน้องอาป่าไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  เพื่อรอตรวจที่แผนกศัลยกรรมประสาท

เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น.  น้องอาป่าเข้าพบแพทย์ แพทย์สอบถามอาการ และสอบถามน้องอาป่าที่มาขอพบแพทย์เจ้าของไข้ในวันนี้  น.ส.สุชาดา แจ้งแพทย์ว่า มาตรวจประเมินสภาวะทางจิตใจและร่างกายของน้องอาป่า ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้แจ้งว่า เรื่องนี้ต้องไปพบหมอนิติเวช

น.ส.สุชาดา ได้ถามสอบถามต่อถึงที่มาของอาการบาดเจ็บที่กะโหลกศรีษะว่าเกิดจากอะไร แพทย์เจ้าของไข้ยืนยันให้ไปที่พบแพทย์แผนกนิติเวชเพราะฝ่ายนิติเวชเป็นผู้ชันสูตรบาดแผล และให้แผนกนิติเวชออกใบรับรอง

เวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น. น้องอาป่าถูกส่งตัวไปแผนกนิติเวช น.ส.สุชาดา ได้แจ้งความประสงค์แก่พยาบาลในแผนก ว่ามาประเมินความพร้อมทางร่างกายและจิตใจหลังการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งต้องการหนังสือรับรองการตรวจ ว่าน้องอาป่ามีสภาพร่างกายและจิตใจได้ตามปกติหรือไม่พยาบาลที่แผนกนิติเวชสอบถาม น.ส.สุชาดา ว่าทำไมไม่ให้แพทย์เจ้าของไข้ทำการตรวจน.ส.สุชาดา ตอบไปว่าเพิ่งออกมาจากแผนกนั้น

จากนั้นพยาบาลแผนกนิติเวชเข้าไปพบหมออุปพันธ์  และได้ส่งตัวน้องอาป่าไปที่แผนกจิตเวช น้องอาป่ารอคิวตรวจประมาณเวลา ๑๔.๐๐ น. จึงได้เข้าพบแพทย์จิตเวช ชื่อนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ได้แจ้งให้หมอให้ทราบว่า ต้องการมาตรวจความพร้อมทางร่างกายและจิตใจหลังการเกิดอุบัติเหตุของอาป่า อาทิ ตรวจสภาพจิตใจ การตอบโต้ และขอหนังสือรับรองว่าอาป่ามีสภาพร่างกายปกติและสภาพจิตใจสมบูรณ์ สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติ ซึ่งหมอแจ้งว่า การจะตรวจทางจิตใจต้องใช้เวลา ตอนนี้คิวยาว 1-2 เดือน จึงได้ขอความกรุณาจากหมอ แล้วหมอได้เขียนให้พยาบาลแนะคิวและเรื่องต่างๆจากนั้นได้มาคุยกับพยาบาลเรื่องคิวด้านนอก พยาบาลได้แจ้งว่าคิวยาวมากและการตรวจต้องใช้เครื่องมือตรวจทางสภาพจิตใจ จะใช้การสอบถาม คิด เขียน และอ่าน และได้วันนัดตรวจในวันศุกร์ที่ ๘  พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ช่วงเวลา ๑๓.๐๐ น.ซึ่งการตรวจอาจจะไม่เสร็จในวันเดียว และต้องนัดมาอีก สำหรับค่ารักษานั้น พยาบาลบอกว่าครั้งแรกประมาณ ๗๐๐ บาท และครั้งต่อไปครั้งละ ๒๐๐ บาท”

จากนั้นได้นำไปยังพยาบาลอีกคนเพื่อสอบถามเรื่องประวัติส่วนตัวของอาป่า ได้แก่ ประสบอุบัติเหตุอะไร มีพี่น้องกี่คน พ่อและแม่ชื่ออะไร จนเวลาผ่านไปเกือบ ๑๕.๐๐ น. พยาบาลบอกว่าการประเมินหมอจะตรวจตามความเป็นจริงทุกอย่างถ้าสภาวะสติปัญญาอาป่าเป็นอย่างไร ก็จะประเมินไปตามที่เห็น

๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้า และ นางสาวสุรีย์  ได้นัดหมาย ๑)น้องอาป่า  ๒)นางอาชู่  ๓)เด็กชายอาโล่  ๔)เด็กชายหล่อโซะ  ๕)นายอาจ่า  ๖) นางบูเดอ  มาเยอะ พยานรู้เห็นการเกิดของน้องอาป่า พี่ชายและน้องชาย   และ ๗)นายอยู่ดู  มาเยอะ  พยานรู้เห็นการเกิดของน้องอาป่า พี่ชายและน้องชาย   เพื่อยื่นคำร้องขอทำหนังสือรับรองการเกิดที่อำเภอเมืองเชียงรายให้ ๑)น้องอาป่า ๒)นายอาจ่า  และ๓)เด็กชายอาโล่  เพราะหลังคลอดแม่ไม่ได้แจ้งเกิดทำให้ทั้งสามคนไม่มีสูติบัตร

ข้าพเจ้าและนางสาวสุรีย์ได้ช่วยจัดเตรียมเอกสารแต่ละคนตามที่อำเภอเมืองเชียงรายต้องการ และพาทั้งหมดไปสอบพยานรับรองสถานที่เกิดหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนสอบพยาน  ทางเจ้าหน้าที่อำเภอแจ้งให้นางอาชู่ไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านมาเซ็นรับรองการอยู่อาศัยของคนในครอบครัวนี้ที่อำเภอเมืองเชียงราย

๖  พฤศจิกายน  ๒๕๕๖

นางอาชู่เดินทางมาที่มูลนิธิกระจกเงามาพบนางสาวสุรีย์  และแจ้งให้ทราบว่าได้ไปติดต่อผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑๑  ตำบลแม่ยาว  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงราย  เป็นที่เรียบร้อยแล้วในการให้ผู้ใหญ่บ้านไปเซ็นรับรองเอกสารยื่นคำร้องรับรองสถานที่เกิดของน้องอาป่า  พี่ชาย  และน้องชายนางอาชู่ยังบอกอีกว่าวันนี้ผู้ใหญ่บ้านไม่ว่างและไม่สะดวกที่จะเดินทางไปอำเภอเมืองเชียงรายในวันนี้  ผู้ใหญ่บ้านจะไปเซ็นรับรองให้วันหลัง

๗  พฤศจิกายน ๒๕๕๖

ข้าพเจ้าและนางสาวสุรีย์  เดินทางไปพบผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑๑ ตำบลแม่ยาว  ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑๑  ตำบลแม่ยาว เพื่อไปซักถามถึงการเซ็นรับรองเอกสารรับรองสถานที่เกิดของครอบครัวน้องอาป่าที่อำเภอเมืองเชียงราย  ปรากฏว่าผู้ใหญ่บ้านได้เข้าไปเซ็นเอกสารให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงบ่ายวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖  ข้าพเจ้า และนางสาวสุรีย์ เดินทางไปหาน้องอาป่าที่บ้านเพื่อแจ้งให้ทราบว่า ผู้ใหญ่บ้านได้ไปเซ็นชื่อรับรองการอยู่อาศัยที่อำเภอเมืองเชียงรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๑๒.๓๐ น.  ข้าพเจ้าและนางสาวสุชาดา เดินทางไปรับน้องอาป่าที่บ้าน เพื่อไปพบแพทย์ตามนัด ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น.  น้องอาป่าเข้ารับการตรวจ  ในช่วงขั้นตอนการเข้ารับการตรวจประเมินความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ  ข้าพเจ้าและนางสาวสุชาดา ไม่สามารถเข้าไปในห้องตรวจได้  เพราะเป็นความลับทางการแพทย์ในการทำประเมินความพร้อม

เวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. น้องอาป่าออกมาจากห้องตรวจประเมินความพร้อม  เราได้ซักถามเกี่ยวกับการตรวจรักษา น้องอาป่าเล่าว่า   พยาบาลมีคำถามมาให้และให้น้องอาป่าตอบ  เช่น กลองกับเปียโนมีอะไรเหมือนกัน, เก้าอี้กับโต๊ะมีอะไรเหมือนกัน และให้น้องอาป่าวาดภาพวงกลม,สี่เหลี่ยม และรูปอื่นๆ แต่น้องอาป่าจำได้ไม่หมด จากนั้นพยาบาลให้ต่อรูปภาพ เช่นรูปคน รูปช้าง และรูปอื่นๆ อีกหลายรูป สุดท้ายพยาบาลซักประวัติครอบครัว  และเรื่องราวของน้องอาป่าตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน รวมไปถึงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่นเคยเรียนไหม ? เรียนชั้นอะไร? กินเหล้าสูบบุหรี่ไหม? ปัจจุบันอยู่กับใคร?

๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. ข้าพเจ้าและนางสาวสุชาดา ไปรับน้องอาป่าที่บ้านเพื่อไปพบแพทย์ศัลยกรรมกระดูก ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  ตามแพทย์นัด

เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น.พยาบาลพาน้องอาป่าเข้ารับการตรวจวัดความดันโลหิต  และX-RAYร่างกายก่อนเข้าพบแพทย์  วันนี้น้องอาป่าไม่ได้เอาไม้เท้าไปช่วยพยุงในการเดินเพราะเจ้าตัวบอกว่าสามารถเดินได้ด้วยตนเองแล้ว 

แพทย์ :เดินโดยไม่ใช้ไม้เท้ามานานแค่ไหนแล้ว?

อาป่าตอบ : วันนี้เลยครับ

แพทย์ : เดินไม่ใช้ไม้เท้าพยุงรู้สึกเจ็บไหม ?

อาป่า:ไม่เจ็บครับ

หลังจากแพทย์ดูผล X-RAY แพทย์แจ้งว่าตอนนี้จากผล X-RAYกระดูกมีการประสานเชื่อมติดกันดีแล้ว  แต่ความยาวของขาจะไม่เท่ากัน ผลจากการผ่าตัดรอบที่ผ่านมา  แต่ผลรวม ๆ ออกมาดี ขาทั้งสองข้างใช้งานได้ค่อนข้างปกติ  แต่ไม่เต็ม ๑๐๐ %  เฉกเช่นก่อน ถ้าเดินในทางเรียบจะไม่ค่อยมีผลข้างเคียง แต่ถ้าเดินในทางลาดชันหรือมิใช่ทางเรียบ  จะรู้สึกปวดบ้าง แต่ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ  ต่อไปแพทย์จะไม่นัดแล้วในส่วนของกระดูกที่ขา แพทย์ให้น้องอาป่าฝึกลุกนั่ง เพื่อให้กล้ามเนื้อยืดตัว

เวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น.  น้องอาป่าเข้ารับการตรวจที่แผนกจิตเวช เพื่อเข้ารับการตรวจประเมินด้านความพร้อมทางสภาวะอารมณ์  ต่อจากวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ข้าพเจ้าและนางสาวสุชาดา ไม่สามารถเข้าไปในห้องตรวจได้เนื่องจากการทดสอบเป็นความลับ

๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ๐๘.๐๐ น.ข้าพเจ้าไปรับน้องอาป่า ที่บ้านเพื่อเดินทางไปพบแพทย์ตามนัด  วันนี้แพทย์นัดมาฟังผลการประเมินความพร้อมด้านสภาวะจิตใจ  อารมณ์และ ผลการประเมินความพร้อมด้านร่างกาย   จากการเข้ารับการประเมินความพร้อม แพทย์แจ้งให้ทราบว่าสภาวะความพร้อมทางด้านร่างกายและ จิตใจของน้องอาป่าอยู่ในระดับเกณฑ์ดี   สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ  และแพทย์ให้ใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานยืนยันการเข้ารับการตรวจ

๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๐๗.๓๐ น.  ข้าพเจ้าไปรับน้องอาป่าที่บ้าน ตามแพทย์ศัลยกรรมประสาทนัด  เพื่อทำการผ่าตัดปิดกะโหลกศรีษะวันนี้แพทย์เจ้าของไข้ให้น้องอาป่านอนพักที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เป็นเวลา ๒วัน คือวันที่ ๒๐ และ ๒๑  พฤศจิกายน เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกาย งดอาหาร งดน้ำดื่ม ทุกชนิด ก่อนการทำการผ่าตัดปิดกะโหลกศรีษะในวันศุกร์ที่ ๒๒  พฤศจิกายน  หลังจากนั้นเวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. ได้มีการส่งต่อผู้ป่วย (น้องอาป่า)ไป X – RAY  กะโหลกศรีษะที่ฝากไว้บริเวณหน้าท้อง  และส่งตัวน้องอาป่าไปพักที่ห้องพักผู้ป่วยใน

๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๑๘.๐๐  น.  นางสาวสุชาดา และอาสาสมัครต่างชาติ  จำนวน ๕ คน เดินทางไปเยี่ยมดูอาการน้องอาป่า   วันนี้น้องอาป่ายังไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดปิดกะโหลกศรีษะน้องยังยิ้มแย้มแจ่มใสไม่มีความกังวลใด ๆ เลย ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดในครั้งนี้

๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๑๘.๒๐ น.  ข้าพเจ้า และ น้องสุชาดา  เดินทางไปเยี่ยมน้องอาป่าหลังการผ่าตัดปิดกะโหลกศรีษะจากการสังเกตอาการเบื้องต้นทางร่างกายภายนอก  น้องอาป่ามีการฟื้นตัวจากการผ่าตัดปิดกะโหลกศรีษะรวดเร็ว  ร่างกายภายนอกดูสดชื่น  มีเพียงอาการปวดบาดแผลบริเวณศรีษะที่ทำการผ่าตัด  และปวดแผลบริเวณหน้าท้องที่หมอเปิดเอากะโหลกศรีษะที่ฝากไว้ ต้องรอหมอตรวจดูอาการอีกครั้ง

๒๗  พฤศจิกายน  ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๐๘.๑๕ น.  ข้าพเจ้าเดินทางไปเยี่ยมน้องอาป่า  เพื่อสอบถามอาการ อาการรวม ๆ วันนี้ของน้องดีขึ้นแต่ยังมีอาการปวดบริเวณที่ทำการผ่าตัด  และสอบถามวันเวลา เรื่องการออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปพักรักษาตัวที่บ้าน  น้องอาป่ายังไม่ทราบวันเวลาที่แน่นอน ต้องรอแพทย์เจ้าของไข้อนุญาต 

เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น.  น้องอาป่าโทรศัพท์เข้ามาที่มูลนิธิกระจกเงา  แจ้งให้น้องสุชาดาทราบว่าวันนี้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว  แต่น้องอาป่าขอนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งคืน  เพราะยังรู้สึกปวดที่บาดแผลผ่าตัด  และแจ้งให้ทางมูลนิธิกระจกเงาไปรับกลับบ้านในเช้าวันพรุ่งนี้

๒๘  พฤศจิกายน ๒๕๕๖

เวลาประมาณ ๑๐.๒๕ น. ข้าพเจ้า และ นางสาวสุชาดา  เดินทางไปรับน้องอาป่าที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่ไม่ได้พบแพทย์เจ้าของไข้  พบเพียงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยใน  พยาบาลบอกข้าพเจ้าว่า อาการโดยรวมของน้องอาป่าหลังจากการผ่าตัดเป็นไปด้วยดี ไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ  แพทย์ได้ให้ยาบำรุงและนัดตัดไหม บริเวณศรีษะ และนัดเอาแม็กเย็บออกจากบริเวณหน้าท้อง ใน

๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๖

ขณะที่เดินทางกลับข้าพเจ้าได้พูดคุยกับน้องอาป่า  จากการสังเกตพบว่าน้องอาป่าสามารถพูดคุยได้ตามปกติ สีหน้าดูร่าเริงมีความสุข  แต่ยังมีอาการเจ็บที่บาดแผลที่ศรีษะและหน้าท้อง

๑๓  ธันวาคม  ๒๕๕๖

น้องอาป่า  พี่ชาย และน้องชาย ทั้งสองคน ไปยื่นคำร้องขอสัญชาติไทยตามมาตรา ๗ทวิ ที่อำเภอเมืองเชียงราย  ตามคิวนัดที่ทางเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองเชียงรายแจ้งมา

๑๔  ธันวาคม  ๒๕๕๖

น้องอาป่า  พี่ชาย และน้องชาย ทั้งสองคน เดินทางไปสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง  จังหวัดเชียงราย  เพื่อไปพิมพ์ลายนิ้วมือประกอบการยื่นขอสัญชาติไทยตามาตรา ๗ ทวิ

น้องอาป่า  เข้าร่วมเวที “ เสวนาเพื่อปฏิรูปกฎหมายและนโยบายว่าด้วยการจัดการปัญหาความด้อยโอกาสของเด็กและเยาวชนข้ามชาติจากเมียนม่าร์ ”  ซึ่งจัดขึ้น ณ มูลนิธิศึกษาพัฒนาประชาชนบนที่สูง 

หมายเลขบันทึก: 557996เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2014 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2014 15:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เป็นกระบวนการและ story ที่ดีมากครับ ขอบคุณมากครับ

แอนควรระบุว่า แก้ไขล่าสุดในวันที่เท่าไหร่นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท