เราเกลียด...กลัว อะไรกันแน่?


ภาพสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังดุเดือดเลือดพล่าน ไม่จบไม่สิ้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชัยชนะคืออะไร ไม่รู้ซ้ำว่า ใครกันบ้างจะได้ประโยชน์จากชัยชนะ ซ้ำร้ายยังไม่รู้ว่า ต้องสละเลือดเนื้อชีวิตของผู้ใด สังเวยชัยชนะของผู้ชนะอีกบ้างหรือไม่ ผู้สังเวยชีวิตเหล่านั้น รับรู้และเต็มใจจะสละชีวิตของตนอย่างเท่าทันและสมัครใจ หรือไม่ คงไม่มีใครตอบ คนตายก็ลุกมาตอบให้ไม่ได้ คนที่อ้างตนขึ้นมาตอบแทน ก็ไม่อาจเชื่อถือได้ ด้วยเขามิได้สูญเสียด้วยตัวเองและไม่แน่ว่าคนที่ตอบนั้นก็ถือหางทางการเมืองอยู่ด้วย คนตายก็ตายไปแล้วคนเป็นก็รบทัพจับศึกกันต่อไป สงครามน้ำลายยังไม่มีวี่แววจะจบสิ้นลงในเร็ววัน

มาถึงคำถามที่ตั้งไว้แต่ต้น หลายครั้งที่สื่อโทรทัศน์นำเสนอเสียงสดจากสมรภูมิรบ ให้ชาวบ้านได้รับฟังโดยไม่ได้เล่าข่าวให้ฟัง ประมาณว่าฟังกันเอาเอง พิจารณากันเอาเองนะท่านผู้ชม เดี๋ยวเขาจะกล่าวหาว่าพวกเรานำเสนอข้อมูลไม่เป็นกลาง ก็นำเสนอข้อเท็จจริง ที่เป็นข้อเท็จจริงๆมันซะเลย

สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับฟังด้วยหูของตนเอง ผ่านสื่อล้วนเป็นคำกล่าวหาที่จริงบ้าง กล่าวหาโดยปราศจากการให้อีกฝ่ายได้ชี้แจงบ้าง ความจริงด้านเดียวบ้าง ความจริงแต่จริงไม่ทั้งหมดบ้าง คำดูถูกดูแคลนสารพัดที่จะสรรค์จากมันสมอง และสามารถกำหนดออกมาเป็นภาษาที่มนุษย์เข้าใจความหมายได้ แต่โดยรวมแล้วข้าพเจ้าจับใจความได้เพียงความรู้สึก ”เกลียด” ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง และคนทุกคนที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเพื่อนมนุษย์คนนั้น ไม่ว่าโดยทางสายเลือด ซึ่งแน่นอนไม่มีใครเลือกเกิดได้และไม่แน่ว่าคนที่กำลังกล่าวดูถูกสายเลือดเขาอยู่นั้น ถ้าได้เกิดในสายเลือดนั้นด้วยแล้วจะปฏิเสธไม่อยากร่วมสายเลือด หรือโดยการดองกันจากการสมรส

เราเกลียดระบบทักษิณใช่หรือไม่ ถ้าใช่ระบบทักษิณคืออะไร ถ้ามันคือ ระบบการทุจริต คอรัปชั่น เอื้อผลประโยชน์แก่พรรคพวก ระบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการจัดตั้งของเขาไม่ใช่หรือ เขาไม่ใช่คนแรกที่หาประโยชน์จากอำนาจทางการเมืองและอำนาจเงินเพื่อเอาประโยชน์ของประเทศและประชาชนเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่ใช่หรือ เขาไม่ใช่คนแรกที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกและตัวเขาไม่ใช่หรือ เราอยู่กับระบบการคอรัปชั่นอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน เคยตั้งคำถามและหาคำตอบกันหรือเปล่า เท่าที่ข้าพเจ้าซึ่งมิใช่นักประวัติศาสตร์ มิใช่นักรัฐศาสตร์ พยายามหาคำตอบ และทำความเข้าใจ ข้าพเจ้าว่ามันมีมานานมาก ก่อนข้าพเจ้าเกิด เพียงแต่ก่อนหน้านี้เราอาจไม่ได้เรียกมันว่าการคอรัปชั่น แต่อาจเรียกมันในชื่ออื่นๆอีกหลายชื่อ ที่ข้าพเจ้าพอจะนึกออกก็ประมาณว่าเราเรียกมันว่า “สินน้ำใจ” หรือ “ของฝากนาย” “ชองขาว” “เงินใต้โต๊ะ” “เงินกินเปล่า” “ค่าบำรุง” และอีกจิปาถะ นับไม่ถ้วน แล้วแต่ยุค และสุดแต่จะสรรค์คำมากล่าวถึงให้มันดูดีขึ้น ดีไม่ดี เราเองก็อาจเคยรับใช้ ระบบนี้ อะอะ ไม่ได้ด่าว่าใครนะ อดใจอ่านให้จบก่อน ลองทบทวนดูตอนที่อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนชั้นนำมีชื่อเสียง มีหน้ามีตา แล้วลูกเราไม่ได้สอบแข่งขันเข้าไปได้ ใครเคยใช้ระบบช่วยค่าบำรุงโรงเรียนกันบ้างหรือเปล่า ? เคยหรือเปล่าที่พอเราได้อะไรมาฟรี หรือได้รับแจกมา เพื่อให้แจกจ่ายกันต่อๆไป เราคิดและกระทำการแจกให้ญาติ คนใกล้ชิดสนิทกับเราก่อน เหลือถึงจะได้ไปถึงคนอื่นๆ ที่ห่างตัวเราออกไปเรื่อยๆ? เคยเอากระดาษเคยเอาหรืออุปกรณ์ จากที่ทำงานกลับมาใช้ที่บ้านกันหรือเปล่า ?

ถ้าเคย เราก็เป็นส่วนหนึ่งหรือคนหนึ่งที่ทำเช่นนั้นแหละ คือเคยคอรัปชั่น จริงอยู่ว่ามันอาจกระทบต่อคนอื่นๆหรือประเทศชาติไม่มากนัก เพราะเรามีโอกาสทำแต่เพียงน้อย แต่ถ้าเราชินกับการกระทำเช่นนี้จนไม่เห็นเป็นสิ่งผิด จนชินและโดยทั่วๆไปเขาก็ทำกัน แล้ววันหนึ่งเรามีโอกาศที่ใหญ่ขึ้น ทำสิ่งเหล่านั้นได้มากขึ้น มากขึ้น และมหาสารขึ้น อย่างนี้เราเริ่มรู้สึกว่ามันผิดใช่หรือไม่ ? ตกลงปริมาณหรือการกระทำเป็นตัวชี้วัดความถูกผิด ดีเลวกันแน่?

มาถึงตรงนี้ เราพอจะมีคำตอบกันบ้างหรือเปล่าว่าระบบ “คอรัปชั่น” มันอยู่กับเรามานานมาก จนเราไม่รู้ตัว และจริงๆแล้วถ้าเราจะขับไล่ระบบนี้ เราต้องขับไล่ความคุ้นชิน ความเห็นแก่ตัวและพวกพ้อง เห็นตนเองสำคัญกว่าบ้านเมืองและส่วนรวมออกไปจากตัวเราหรือเปล่า

ถ้าเราไล่คนที่มีนามสกุลนั้นทุกคนออกไป แม้จะไม่สามารถทำได้ในทางกฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ห้ามเนรเทศผู้มีสัญชาติไทย แต่ถ้าใครบอกว่าทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย กรุณาถามเขาด้วยว่าเขาใช้รัฐธรรมนูญประเทศไหนพูดอยู่? สมมติว่าเราหลับหูหลับตา “บ้าเลือด” ขับไล่ไม่เลิกรา จนเขาเอือมละอาออกไปเองเข้าจริงๆ เราก็ไชโยโห่ร้องยินดีกันครื้นเครง กันชั่วเวลาหนึ่งแล้วเมื่อถึงเวลา เราต้องมาขับไล่ระบบอะไรกันอีก คนนามสกุลอะไรจะเป็นรายต่อไปที่ต้องถูกอุปโลกน์ขึ้นมาถูกขับไล่กันอีกแล้วมันจะจบจะสิ้นกันหรือเปล่า?

ประเทศนี้จะได้รับการพัฒนาไปสู่การกินดีอยู่ดีของคนยากคนจนซักทีหรือเปล่า ถ้าเราไม่แก้ไขปัญหาและขับไล่ต้นตอของปัญหา อีกทั้งเราจะยอมแก้ไขปัญหาเหล่านั้นหรือเปล่าถ้าเราต้องแก้ไขตนเองด้วย ไม่ใช่ไล่ใครบางคนไปแล้วทุกอย่างจะจบ

แล้วถ้าปัญหาที่เรากำลังเผชิญและเกลียดกลัวกันนี้ มันไม่ใช่การคอรัปชั่นละ ถ้าจริงแท้แล้วเรากำลังขัดใจ กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แบบเสรีนิยม ที่มันนำมาสู่ระบบ”ทุนนิยม” ที่ทุกคนต่าง”มือใครยาวสาวได้สาวเอา” ละ ? เราจะไล่ใครดี?

หมายเลขบันทึก: 557990เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2014 15:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2014 15:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

คำถาม..ที่ไม่มีคำตอบ..คือ..คำว่า..ไล่ล่าตัวเอง..จาก..คำว่า..คอรับประทาน...(สังเกตุว่า..ผู้ไล่ล่า..พุงยื่น..ผิดปรกติ..อ้ะะ).....

คงไม่ง่ายนักที่จะมาแลกเปลี่ยนด้วยตัวหนังสือสั้นๆ มีคำถามมากมาย ต่อทุกคนทุกฝ่าย และก็เชื่อว่าคำตอบมีมากมายตามมุมมองของท่านเหล่านั้น ประสบการณ์ของท่านเหล่านั้น การตัดสินใครถูกผิดก็ขึ้นกับฐานของแต่ละบุคคล แม้ว่า NORM ของสังคมมีอยู่ แต่คนเราห่างเหินสิ่งนั้นมานาน แต่เริ่มอะไรบ้างก็ดีกว่าปล่อยให้อะไรมันเป็นไป ตามอำนาจและแรงขับแห่งการแสวงหาผลประโยชน์ที่ผนวกกันเข้ามาเก็บเกี่ยวเอาไปจากสังคมโดยรวม ครับ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความคิดเห็นคะ เฮ่อ! นีกว่าจะโดนซะแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท