ตักบาตรส่งท้ายปี


   วันนี้ ๓๑ ธัุนวาคม ๒๕๕๖ ทางชุมชนควนลังได้จัดตักบาตรส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปีก่อนๆ นั้นได้จัดบนถนน (หน้าบ้าน) ยาวไปถึงเขตวัดท่าเคียน แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่จัดในซอยจันทคาร ๔ เมื่อวานทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ตั้งเต้นท์ จัดที่นั่งสำหรับพระ หลายคนคิดว่า ชาวบ้านน่าจะมาไม่มากนัก แต่ปรากฎว่า มากกว่าที่คาดไว้ การตักบาตรในวันนี้ เริ่มเวลา ๐๗.๐๐ น. โต๊ะที่จัดไว้ไม่พอ ต้้องมีการเสริมเข้ามาใหม่ ส่วนพระที่นิมนต์มานั้นมากกว่า ๔๐ รูป

   สาวน้อยร้อยชั่ง ไปเตรียมของเพื่อใส่บาตรในวันรุ่งขึ้นตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น คงไม่ใช่เฉพาะการใส่บาตรเท่านั้น เพราะเธอได้ซื้อของนำไปมอบให้ญาติผู้สูงอายุทุกๆคนที่เคยอุปถัมภ์ค้ำชูตัวเองมา คือ ย่า ปู่ แม่เฒ่า ฯลฯ ผมเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดี จึงไม่ได้มีทัศนะที่ขัดใดๆ พร้อมกับให้ความเห็นว่า เราควรให้เงินกับผู้สูงอายุเหล่านี้ด้วย เพราะว่า ท่านอายุมากแล้ว ไม่ได้ทำงานเหมือนพวกเรา เงินที่เราให้ไปนั้น จะได้นำไปซื้อของที่ต้องการ หรือไม่ก็นำไปทำบุญแล้วแต่ว่าท่านจะทำประการใด ผมคิดว่า ระบบนี้เป็นระบบแบบไทยๆ เป็นการประกันสังคมแบบไทยๆ หรือเป็นการที่ชีวิตส่งชีวิต สิ่งที่เราได้มาคือพรอันประเสริฐจากท่านเหล่านั้น เมื่อวานย่าบอกว่า ย่าคงไม่มีอะไรให้ นอกจากพรที่ให้ไปนั้น ผมบอกว่า นี้คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ในใจของผมคิดตรงกับข้อความนี้จริง ไม่ใช่เป็นการพูดเพื่อเอาใจ เพราะพรคือสิ่งที่ออกมาจากจิตใจที่งามของท่าน สิ่งที่ออกมาจากจิตใจที่สวยงาม ผมมองว่าเป็นสิ่งมีค่า

   ๐๗.๐๐ น. ชาวบ้านและพระที่มาพร้อมกันแล้วยืนรอประธานในพิธีซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายก รองนายกฯลฯ ทางพิธีกรประกาศให้ทราบถึงเรื่องนี้ ท้องถิ่นทั่วไปก็คงจะมีบรรยากาศแบบนี้เหมือนกัน สิ่งที่ผมคิดคือ หากเราเป็นนายก นั่นหมายถึงผู้นำ ผู้นำต้องมาก่อนชาวบ้าน เพราะเป็นผู้นำชาวบ้าน ไม่ใช่ผู้ตามชาวบ้าน น้องชายเิ่อ่ยขึ้นว่า อะไรกันยังไม่มากันอีก ปล่อยให้พระรออยู่ได้ ซึ่งเป็นคำอุทานสำหรับชาวบ้านๆ ที่เห็นความสำคัญกับพระมากกว่าผู้นำท้องถิ่น จริงๆ เรื่องนี้ในทางสังคมนั้น อาจเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบันเราจะให้ความสำคัญกับผู้นำท้องถิ่นมากกว่า 

   กว่าประธานจะมาถึง ก็เลยเวลา ทางพิธีกรจึงประกาศงดให้พระกล่าวอนุโมทนากถา เพราะอาจทำให้เลยเวลาไปมาก โดยขอให้นายกกล่าวให้ศีลให้พรแทน จากนั้นให้พระสวดมนต์ให้พรเป็นภาษาบาลี ชาวบ้านกรวดน้ำ พระเดินรับอาหารที่ชาวบ้านจัดเตรียมไว้ให้ ไม่ถึงชั่วโมง ทุกอย่างก็จบลง พระกลับวัด ชาวบ้านกลับบ้าน คณะกรรมการเหนื่อยกันอีกรอบคือการเก็บเก้าอี้ โต๊ะ ฯลฯ 

  ทางพิธีกรประกาศว่า คืนนี้เวลา เที่ยงคืนอย่าลืมพร้อมกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรๆ ผมเข้าใจว่า เป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีกรอบหนึ่งนั่นเอง เมื่อเช้าฟังข่าวทราบว่า จะมีการปิดถนนในกรุงเทพ เพื่อต้อนรับปีใหม่นี้เอง

  สำหรับผม ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามา ปีเป็นเพียงสิ่งสมมติเท่านั้น ไม่มีเก่าไม่มีใหม่ มีแต่การเปลี่ยนผ่านจากสิ่งหนึ่งไปสู่สิ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เราก็คงต้องอาศัยสิ่งสมมติที่ว่านี้ ก่อนกลับมาถึงสงขลา ทางสถาบันการศึกษาได้จัดส่งท้ายปีไปเช่นกัน ฝ่ายเจ้าหน้าที่และอาจารย์ต่างก็มีของขวัญให้กัน ผมทราบมาว่า ห้างสรรพสินค้ามีกำไรมากกว่าปกติเท่าตัว เนื่องจากคนไปซื้อของขวัญส่งให้กันปีใหม่ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือ เราให้ของขวัญกันมากมาย ห้างสรรพสินค้ามีกำไรมากกว่าเท่าตัว แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักละเลยคือ การให้อภัย สิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องไปวัด มัสยิส หรือโบสถ์แต่ประการใด เราสามารถให้กันได้ทุกที การให้แบบนี้น่าจะดีสำหรับการมีชีวิตอยู่บนโลกที่สวยงามใบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะทันทีที่เราให้อภัยกัน ก็หมายถึง พื้นที่แห่งเมตตาแผ่กว้ิางขึ้นมากกว่าเท่าตัว ห้างสรรพเมตตาก็จะขยายตัวไปด้วย

   ขอความสุขสสวัสดีจงมีแด่ทุกชีวิต

 

หมายเลขบันทึก: 557814เขียนเมื่อ 31 ธันวาคม 2013 07:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีปีใหม่จ้ะ ขอให้มีความสุข สมหวัง ตลอดปี ตลอดไปนะจ๊ะ

......ในช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ .....ขอส่งความปรารถนาดีและความห่วงใยที่แสนอบอุ่นไปถึงท่าน ... ขอให้ทุกวันล้วนเป็นวันที่สดใส ...ขอให้คุณมีแต่ความสุขเนื่องในวันปีใหม่ 2557 นี้ไป....จวบจนตลอดทั้งปี นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท