ปลากั้ง


เรื่องเล่าจากบ้านแม่ตาด  :

 

ปลากั้ง

 

 

          "ปลากั้ง" เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่พบเห็นตามลำห้วยในผืนป่าของบ้านแม่ตาด โดยปลาชนิดนี้เป็นปลากินเนื้อในตระกูลเดียวกันกับปลาช่อนและปลาชะโด เพียงแต่ว่าปลากั้งจะตัวเล็กกว่ามาก

          ลักษณะพิเศษของปลากั้งก็คือ หัวโต ครีบและหางจะออกสีส้มๆ ชอบกินแมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นอาหาร

          ทั้งนี้ ปลากั้งพบได้ทั่วไปตามลำห้วยต่างๆ ทั่วประเทศไทยนะครับ

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 557395เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2013 10:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม 2013 10:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เจอตอนเด็กๆแถวๆน้ำตก

ปัจจุบันหายากมากแล้ว

ต้องพื้นที่ไม่มีสารจากนาข้าว

ขอบคุณมากครับ

ผมเข้าใจว่าเป็นปลาช่อนตัวเล็กๆ ตอนเด็กๆไปจับในบวก(สระน้ำที่ขังในนา) ได้บรรยากาศลูกทุ่งครับ

เมื่อก่อนแถว ๆ ห้วย หนอง คลอง บึง บ้านคุณมะเดื่อ มีชุกชุมมาก หน้าตาเหมือนปลาช่อน

แต่ไม่มีใครจับมันมาทำเป็นอาหาร....ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่สมัยเด็ก ๆ คนใหญ่ ๆ บอกว่า " ใครกิน

ปลากั้งแล้วจะหัวสั่น หัวคลอน " ไม่ทราบข้อเท็จจริงจะเป็นประการใดนะจ๊ะ

...เคยได้ยินอย่างที่คุณมะเดื่อ สงสัยเหมือนกันค่ะ " ใครกินปลากั้งแล้วจะหัวสั่น หัวคลอน "....

-สวัสดีครับ..

-ตามมาดูปลากั้ง

-ไม่ได้เห็นนานมาก ๆ..

-สมัยเป็นละอ่อนไปจับปลากั้งบ่อย ๆ

-ยังเคยบอกแม่ว่า"มันคือปลาหลิมตัวน้อย"ครับ 555

-ขอบคุณบันทึกที่ทำให้รำลึกถึงความหลัง(อีกแล้ว)55

สวัสดีครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

สมัยเด็กๆ แถวทุ่งนาบ้านผมที่ศรีสะเกษมีเยอะมาครับ รวมทั้งตามลำห้วยด้วย แต่คนไม่ค่อยชอบกินกันนัก เพราะว่าก้างเยอะกว่าเนื้อ แต่ปัจจุบันนี้เริ่มหาดูยากขึ้น เพราะชาวนาใช้สารเคมีทางการเกษตรเยอะเกินไป ทำให้ปลากั้งหรือปลาก้างลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ อย่างน่าเป็นห่วง

สวัสดีครับ คุณชำนาญ เขื่อนแก้ว

ปลากั้งกับปลาช่อนหน้าตาคล้ายกันมาก หากไม่สังเกตให้ดีก็นึกว่าเป็นปลาช่อนขนาดเล็กนะครับ

ปลาช่อนจะหัวเรียวๆ ลำตัวยาว และหางดำ ส่วนปลากั้งหัวจะสั้น/ใหญ่ ลำตัวสั้น หางและครีบจะออกสีส้มหรือสีแดงนะครับ

สวัสดีครับ คุณมะเดื่อ

ผมเคยได้ยินประโยคที่ว่า " ใครกินปลากั้งแล้วจะหัวสั่น หัวคลอน " นี้มาเหมือนกันนะครับ แต่ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า บางทีอาจจะเป็นอุบายไม่ให้เด็กกินก็ได้นะครับ เพราะว่าปลากั้งมี "ก้าง" เยอะมากๆ เลย

อย่างไรก็ตาม ทางภาคเหนือมีความเชื่อว่าปลากั้งมีสรรพคุณทางยาด้วยนะครับ คือช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและสมรรถภาพทางเพศยอดเยี่ยม ใครกินปลากั้งแล้วรับรองว่าปึ๋งปั๋งตลอดเวลาครับ

ปัจจุบันแถวๆ บ้านผมเขาชอบจับปลากั้งตัวเป็นๆ ไปขายให้กับคนเลี้ยง "ไก่ชน" ในราคาตัวละ 50 บาท โดยเขาจะเอาไปให้ไก่ชนกิน เพื่อจะทำให้ไก่ชนมีแรงชนมากยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ปลากั้งแถวๆ นี้ลดปริมาณลงอย่างน่าเป็นห่วงเลยละครับ

สวัสดีครับ อาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา

ความเห็นของอาจารย์เหมือนกับคุณมะเดื่อเลยนะครับ

สวัสดีครับ คุณเพชรน้ำหนึ่ง

หากคุณเพชรทราบสรรพคุณทางยาของปลากั้งแล้ว รับรองว่าจะต้องตามค้นหาปลากั้งทันใดเลยนะครับ 555

(ผมเขียนข้อความไว้ในช่วงตอบความเห็นของ "คุณมะเดื่อ" แล้วนะครับ)

นี้แหล่ะอาหารมื้อนี้ อิอิอิ

สวัสดีครับ พี่ยง

แถวๆ อุบลฯ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ สมัยก่อนมีปลากั้งเยอะมากๆ

แต่ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่ายังมีเยอะเหมือนสมัยก่อนหรือเปล่า

พี่ยงลองหามาทำอาหารกินดูนะครับ รับรองว่าจะรู้สึกปึ๋งปั๋งๆ ทุกวันเลยละครับ 555

คล้ายปลาช่อนมาก ๆ ค่ะคุณอักขณิช แต่ตัวเล็ก ตอนเด็กเคยเห็น "ปลาค่อกั้ง" ไม่รู้ว่าชนิดเดียวกันไหม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท