หินปูนเกาะล้างหินปูนด้วยสมุนไพร เดือย เตยหอม รางจืด


ล้างหินปูนด้วยน้ำต้มลูกเดือย น้ำต้มใบรางจืด ใบเตยหอม

หินก็แข็ง ปูนก็แข็ง หินปูน ก็คงยิ่งแข็งนะคะ ที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช้หินปูนที่นำมาก่อสร้างนะคะ  ปกติแล้วคำว่าหินปูนในร่างกายของเรานั้นจะคิดถึง ฟันก้นก่อน ที่เรามักได้ยินหรือพบด้วยตนเองในปากว่า คราบหินปูนที่ผิวฟันหรือที่โคนฟันหรือหร่องเหงือกที่ทำให้ฟันผุ เหงือกอักเสบได้ถ้าีมีมากสะสมจนแข็งเป็นหินปูน ซึ่งเกิดจากคราบแบคทีเรียสะสมจนแข็ง หรือบางที่ก็ได้ทราบว่าผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจมีปัญหาจาก มีหินปูนเกาะ ซึ่งหินปูนที่เกิดการสะสมในร่างกายนั้นเกาะตาม ข้อ กระดูก ฯ ได้เช่นกันและก็มีผู้ป่วยที่ ปวดข้อ ปวดกระดูก เกาต์ รูมาตอยด์ สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการมีหินปูนรวมอยู่ด้วย ซึ่งบางอวัยวะเมื่อมีหินปูนเกาะก็ทำให้ไม่ปกติแล้วเราจะทราบได้อย่างไร ทราบล่วงหน้าได้ไหม หรือทราบต่อเมื่อเราเป็นโรคแล้ว บางอย่างที่เกิดที่อวัยวะภายในเราไม่ทราบเลยเพราะมองไม่เห็นนอกเสียจากไปให้หมอตรวจหรือเอ็กซเรย์ จะมีที่ฟันที่พอจะมองเห็นได้ว่ามีหินปูนเกาะ ซึ่งก็รักษาได้เร็วเมื่อไปให้หมอรักษาฟันขัดหินปูนออกจากฟันให้ได้ในเวลาไม่นาน

นำเรื่องราวการบอกกล่าวโดยอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา เกี่ยวกับหินปูน ข้าวกล้องมีพิวรีน  กรดยูริก ทำไมการต้มกระเจี๊ยบแดงจะต้องใส่พุทราจีน และการล้างหินปูนออกจากร่างกายมาฝาก ดังนี้

 

 

 " หินปูน ถ้าท่านเคยมีประวัติกินสัตว์ปีก กินเครื่องในสัตว์ กินผักที่มีกลิ่นฉุนผมว่าโดนทุกคนนะ กินผักมีกลิ่นฉุน มีใครไม่กินบ้างล่ะ ผักขะแยง ผักแพ้ว ชะอม กระถิน กินกันทั้งนั้น แต่ท่านอาจจะเคยได้ยินว่า ผักพวกนี้จะทำให้เป็นเกาต์ เป็นรูมาตอยด์ แต่ที่ท่านนึกไม่ถึงเด็ดขาดว่า มันมีพิวรีนสูง และเป็นสาเหตุให้เกิดกรอดยูริกสูงก็คือ ข้าวกล้อง และน้ำข้าวกล้องงอก อันนี้อันดับหนึ่งเลยนะครับ คนมักจะกินข้าวกล้องโดยหวังว่าจะได้วิตามิน แต่สิ่งที่เป็นภัย ของเสียที่มากับข้าวกล้องไม่มีใครเขาบอก เขาจะบอกแต่ด้านดีว่า บำรุงสมอง มีสารกาบาอะไรอย่างนี้นะ

  แต่ข้อเสียของข้าวกล้องก็คือ มีพิวรีนสูง กินแล้วจะเกิดกรดยูริก ท่านก็จะปวดเข่า ปวดข้อ กินข้าวกล้องนานๆ สมองแจ่มใสก็จริง แต่ทำไมเดินไม่ได้ ไปไหนก็กระย่องกระแย่ง ปวดเข่าปวดข้อใช่ไหม อากาศหนาวก็ปวด โอย โอยแล้ว ผมอาจจะขัดใจกับพวกที่เผยแพร่เรื่องต่างๆ ว่ามักจะบอกแต่ด้านดี ไม่บอกข้อเสียของมันไปด้วย แล้วจะแก้ยังไง

 อย่างแต่ก่อนสอนให้คนกินกระเจี๊ยบแดงลดคอเลสเตอรอล ต้องกินอย่างนี้ กินหนักๆเข้าเป็นไง เดี๋ยวนี้ไม่มีใครกินแล้ว เบื่อ เพราะว่ามันทำให้ไตพัง และเลือดจางด้วย ไอ้กระเจี๊ยบนี่ วิธีแก้ล่ะ ถ้าเราใส่พุทราแห้งเท่านั้นแหละแก้ได้แล้ว มันจะไปช่วยลดคอเลสเตอรอล แล้วทำให้เป็นไง เส้นเลือดไม่เปราะ แตกง่าย แล้วก็ช่วยให้ไตแข็งแรงด้วย เพียงเติมพุทราแห้งลงไปในกระเจี๊ยบแดง นี่จะต้องมีทางออกไง อย่าไปยอมจำนนนะ

ตัวนี้ก็เหมือนกัน สมมุติว่าเรากินข้าวกล้องเป็นประจำ ตกลงจะเลิกดีไหม ไม่จำเป็นต้องเลิกนะครับ แต่ก็หาตัวแก้ไป ตัวที่จะไปลดกรดยูริก ลดพิวรีน แก้อาการเกาต์ รูมาตอยด์ แล้วก็หินปูนเกาะในที่ต่างๆ ในทางการแพทย์จะสนใจหินปูนที่เกาะตามข้อ เราเรียกว่า เกาต์ รูมาตอยด์ใช่ไหม

แต่ถ้าลงมาอีก หินปูนไปเกาะที่ไหนบ้าง

หินปูนเกาะที่จอประสาทตา วันหนึ่งอยู่ดีๆเลือดไม่ไปเลี้ยงที่จอประสาทตา หมอก็จะบอกว่า จอประสาทตาเสื่อมโดยไม่ทราบสาเหตุ มันมีสาเหตุแต่หมอไม่ทราบเท่านั้น คือหินปูนไปเกาะไง ถ้าเราล้างหินปูนทางตา เราก็ไม่มีปัญหาเรื่องเป็นต้อเป็นอะไร สายตาสั้น- ยาว นี้ยังพอให้อภัย แต่ตาเป็นต้อนี้ไม่น่าให้อภัย อย่าเป็นกันนะ ท่านต้องล้างหินปูนนะครับ

หินปูนเกาะที่ขั้วปอด คราวนี้ก็เป็นหอบหืด ไอไม่เลิกอย่างนี้นะครับ แค่ล้างมันออกหอบหืดก็หาย

หินปูไปเกาะที่ไหนอีก

หินปูนเกาะที่เส้นเลือดฝอยในหัวใจ อยู่ๆทำให้หัวใจวายได้ เคยได้ยินไหม หินปูนไปเกาะขั้วหัวใจ

นี่ก็มีนะครับ

หินปูนเกาะที่กระดูกสันหลัง ก็กลายเป็นกระดูกทับเส้นประสาท จริงๆก็อย่าให้มันเกาะซะก็หมดเรื่องนะครับ

 

แล้วจะทำอย่างไรดี มี 2 สูตรนะครับ การล้างหินปูน

 

สูตรที่ 1 คือ น้ำต้มลูกเดือย ในสมัยก่อนท่านอาจจะอ่านนาฬิกาชีวิต เขาจะให้กินลูกเดือย เราพบว่าลูกเดือย ถ้าเราต้มกินแต่น้ำจะได้ประโยชน์เร็วกว่ากินเนื้อไปด้วย เพราะกากลูกเดือยจะไปดึงยาคืนมาเหมือนกากกระชาย ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ ควรต้มเป็นน้ำ แล้วกินแบบน้ำข้าว แล้วเราก็เติมน้ำลงไปใหม่ แล้วอุ่นไปเรื่อยๆจนหมดสีขาวพอมันใสแล้วเราก็ทิ้งกากไป เสร็จแล้วก็ไปต้มใหม่

 

สูตรที่ 2 คือ ต้มรางจืดกับใบเตย ใช้ใบรางจืดกับใบเตยมันจะไมไปล้างอะไรนอกจากล้างหินปูน กินรางจืดเดี๋ยวจะไปล้างอะไรไม่ต้องกังวล ถ้าต้มกับใบเตยมันจะไม่ล้างอย่างอื่นเลย นอกจาก ล้างหินปูนในตัวเราเท่านั้นนะครับ "

 

 

 

(ขอบคุณ บทความหินปูนและการล้างฯโดย อ.สุทธิวัสส์ คำภา จากหนังสือนาฬิกาชีวิตเล่ม 3 ตอนจบ รวบรวมโดย อ.นวลฉวี  ทรรพนันทน์  และภาพอาจารย์ทั้ง 2 จากอินเทอร์เน็ต )

 

 

เมล็ดเดือย เราคงต้องซื้อปลูกเองไม่ได้ ซึ่งก็หาซื้อได้ไม่ยาก มีทั้งเดือยกล้องและเดือยที่ขัดผิวออกแล้ว

นำเมล็ดเดือยประมาณ 1 กำมือ แช่น้ำก่อนหรือซาวน้ำล้างให้สะอาด แล้วต้มเลยก็ได้จนเมล็ดเดือยนิ่ม

ดื่มแต่น้ำ น้ำหมดก็ใส่น้ำต้มต่อได้อีก

 

 

น้ำดื่มง่าย ไม่ควรเพิ่มความหวาน

 

 

 เตยหอมปลูกได้ง่ายเป็นพืชแตกกอ รางจืดก็ปลูกง่ายใช้กิ่งชำก็ได้

ต้มต่อครั้งต่อวัน อย่างละ 5 ใบ หั่นซอยเล็กๆแล้วต้ม 30 นาที

 

 

ดื่มง่ายรางจืดจะรสจืดตามชื่อ จะมีกลิ่นหอมใบเตย

 

ไม่ว่าจะเมล็ดเดือยหรือ ใบเตย ใบรางจืด เมื่อต้มในน้ำเดือด ดื่มอุ่นๆก็เป็นชาเพื่อสุขภาพ ดื่มต่อวันต่อครั้งไม่มากพอดีๆ แต่ดื่มทุกๆวันติดต่อกัน ก็จะเห็นผล เรื่องที่นำมาฝากอาจจะมีบางท่านไม่เชื่อว่าดื่มแล้วล้างหินปูนได้ผลจริง ก็ไม่ว่ากันนะคะ ทราบมาจึงลองทำดื่มและนำมาฝาก ซึ่งเห็นว่าสมุนไพรที่ทำดื่มต่อครั้งไม่มีผลเสียต่อร่างกาย สรรพคุณสมุนไพรเดียวทั้ง 3 ชนิดดีต่อร่างกายเพียงแต่ใช้ต่อครั้งแต่พอดีร่างกายก็ได้ประโยชน์อยู่แล้ว

 

ด้วยความปรารถนาดี   กานดา แสนมณี

วันเสาร์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ ๒๕๕๖

 

หมายเลขบันทึก: 557000เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2013 15:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 ธันวาคม 2013 10:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

น่าต้มดื่มทุกวันเพราะอากาศเย็นเนาะพี่ดา ช่วงนี้ภาระกิจมีมากมายจริงๆ มาแว็ปๆ

ขอบคุณมาก ๆ จ้ะพี่ดา มีสาระประโยชน์มากมายจ้ะ

สูตร ใบเตย/รางจืด/ต้มดื่มกี่วันจึงจะหยุดดื่มค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท