โรงเรียนข้างถนน : พลังเร่(ร่อน)


ลองหันกลับมามองบนท้องถนนรอบตัวของเราสิ ว่ามีเด็กอีกเท่าไรที่ต้องกลายเป็นคนชายขอบ วันนี้พวกเค้าใช้ชีวิตอย่างไร พวกเค้าทำอะไรบ้าง มีความฝันอะไรบ้างหรือเปล่า แล้วพวกเค้าจะใช้ชีวิตผ่านวันพรุ่งนี้ไปอย่างไร แล้วเราตัวเรายังมีความฝันอะไรอีกบ้างที่เรายังรอคอยที่จะทำมันให้เป็นรูปเป็นร่าง จะหยุดที่เพียงวันนี้เท่านั้นหรือ จะพอใจทั้งๆที่ยังมีอีกหลายความฝันต้องจมหายไปในชีวิตทั้งๆที่เรายังมีโอกาสสร้างมันได้อย่างนั้นหรือ ลองหันกลับมาสร้างความฝันให้กับตัวเองไปพร้อมๆกับคณะสิงโตเด็กเร่ร่อนที่เค้ากำลังพัฒนาตัวเองอยู่ไม่ย่อท้อ ลองยื่นมือออกมาเพื่อสร้างโอกาสให้กับคนชายขอบ ให้เค้าได้สร้างความฝันของตัวเองไปพร้อมพวกเรา

พลังเร่(ร่อน)                

 หากใครเคยเดินทางผ่านสะพานอรุณอมรินทร์ในช่วงเย็น แล้วอยู่ๆมีหัวเด็กโผล่ขึ้นมาตรงกลางสะพานพอดีคงเกิดความสงสัยไม่น้อย แต่จะมีใครสักกี่คนสนใจค้นหาตัวเด็ก(ผี)คนนั้น หรือหาสาเหตุในการเล่นพิเรนทร์อย่างนั้นบ้าง ว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้นจริงๆแล้วการเล่นที่ใครหลายคนมองว่าพิเรนทร์นั้นคือการก่อร่างสร้างรากฐานชีวิต ด้วยการใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเอง ของเด็กเร่ร่อนในพื้นที่ใต้สะพานอรุณอมรินทร์ คือการซักซ้อม วิชาชีพสิงโต ซึ่งเป็นทั้งกิจกรรมกลุ่มที่สร้างความสามัคคี สร้างรูปแบบการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในรูปแบบของตัวเอง และที่สำคัญยังเป็นการสร้างรายได้อีกด้วย                  

ทุกวันนี้เสียงกลองเสียงฉาบ ที่เคยตีเคยกระทุ้งเพื่อเร่งเร้าอารมณ์ของเหล่าสิงโตคณะ ศิษย์หลวงพ่อโบสถ์น้อยให้มีความคึกคะนองในการแสดงพลังที่จะปลุกจะปั้นตัวสิงโต ที่ตนสวมใส่ให้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาจากการนอนหลับในรูปร่างของกองผ้าธรรมดาๆ กลับกำลังตีเพื่อเร่งเร้าอุณหภูมิความสนใจของสังคม ให้เห็นถึงพละกำลัง ความสามารถ และศักยภาพในตนเองของเหล่าเด็กเร่ร่อน ในฐานะของพลเมืองที่มีความสามารถไม่แพ้กลุ่มคนกลุ่มอื่น จากเด็กเร่ร่อนที่เคยตระเวนไปทั่ว โดยสนใจเพียงทำอย่างไรให้มีชีวิตรอดผ่านวันนี้ไปได้  กลับกลายเป็นการใช้ชีวิตบน      ความฝัน ความหวังและกำลังใจในการพัฒนาตนเอง ความรักและความเอื้ออาทรในกลุ่มคนซึ่งต่างไร้ครอบครัวค่อยๆก่อตัวขึ้นจากการทำกิจกรรมร่วมกัน การใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกลุ่มเด็กเร่ร่อนใต้สะพานอรุณอมรินทร์ และพวกเราชาวอิสรชนหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประกายแรกที่จะสร้างรูปแบบการพัฒนาตนเอง ให้กับเด็กเร่ร่อนกลุ่มอื่นอีกมากมาย เพราะตอนนี้สังคมมีตัวอย่าง แต่ตัวอย่างนั้นย่อมไม่ใช่รูปแบบ สิงโตเด็กเร่ร่อนนั้นเพียงสร้างบทเรียนให้สังคมรู้ว่าหากมีโอกาสหากพร้อมที่จะใช้พลังให้เกดประโยชน์การพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ในสังคมแม้ในกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่าเป็นกลุ่มคนชายขอบก็ตาม                

ลองหันกลับมามองบนท้องถนนรอบตัวของเราสิ ว่ามีเด็กอีกเท่าไรที่ต้องกลายเป็นคนชายขอบ วันนี้พวกเค้าใช้ชีวิตอย่างไร พวกเค้าทำอะไรบ้าง มีความฝันอะไรบ้างหรือเปล่า แล้วพวกเค้าจะใช้ชีวิตผ่านวันพรุ่งนี้ไปอย่างไร แล้วเราตัวเรายังมีความฝันอะไรอีกบ้างที่เรายังรอคอยที่จะทำมันให้เป็นรูปเป็นร่าง จะหยุดที่เพียงวันนี้เท่านั้นหรือ จะพอใจทั้งๆที่ยังมีอีกหลายความฝันต้องจมหายไปในชีวิตทั้งๆที่เรายังมีโอกาสสร้างมันได้อย่างนั้นหรือ ลองหันกลับมาสร้างความฝันให้กับตัวเองไปพร้อมๆกับคณะสิงโตเด็กเร่ร่อนที่เค้ากำลังพัฒนาตัวเองอยู่ไม่ย่อท้อ ลองยื่นมือออกมาเพื่อสร้างโอกาสให้กับคนชายขอบ ให้เค้าได้สร้างความฝันของตัวเองไปพร้อมพวกเรา                 

ลืมตาขึ้นมาสิเพื่อนพ้อง มองออกมาจากความกลัว มองออกมาจากความไม่รู้ มองให้ผ่านความไม่มั่นใจของตัวเองและสังคม หากเรากลับมาเชื่อมั่นในความเป็นคน เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเราเอง และเด็กอีกกลุ่มที่ต้องกลายเป็นคนชายขอบของสังคม ในฐานะของความเป็นคน ในฐานะของอีกหนึ่งพลังที่จะขับเคลื่อนเข้ามาพัฒนาสังคม ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เมื่อคนทุกคนมีพลังและศักยภาพในตัวเอง แล้วเราจะสร้างรูปแบบการพัฒนาอย่างไรให้เกิดขึ้นในสังคมของเรา ในทุกกลุ่มคนโดยไม่แบ่งชนชั้น                  

เขียนโดย : กสิณ กสิกรรม        

  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท