เมื่อยังเยาว์วัย ครูอ้อยอายุได้ 4 ขวบ พ่อกับแม่ก็มีน้องใหม่ไล่เลี่ยกัน 2 คน จากที่พ่อแม่เคยอุ้มชู ก็เลยกลายมาอยู่กับยายและน้าๆบ้าง หรืออยู่กับย่าและอาๆบ้าง
ครูอ้อยมีอาผู้ชายหลายคนที่เลี้ยงดูครูอ้อยแบบป้อนข้าวป้อนน้ำ พาอาบน้ำปะแป้งตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แม่เล่าให้ฟังว่า ไฟฟ้าสมัยนั้นมันตกบ่อย คงจะกระแสไฟฟ้าตก ไฟฟ้าก็ดับ อาก็ป้อนข้าวใส่ปากหลาน มองไม่เห็นก็ใช้วิธีมือจับปากหลานและป้อนข้าวเข้าปาก
อาท่านนั้นขณะนี้อายุมากแล้ว แต่ตอนนั้นอาโสภณเป็นหนุ่มยังไม่มีแฟน เข้ากรุงเทพฯมาเรียนที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งจะต้องมาหาพ่อของครูอ้อยเป็นประจำ พ่อเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดูน้องนั่นเอง
ช่วงเวลานั้น พ่อกับแม่ไม่มีเวลาดูแลครูอ้อย อาก็จะมาหาที่บ้าน มาทีไรก็จะซื้อขนมนมเนยมาฝากหลานมากมาย สอนการบ้านให้หลาน ครูอ้อยรักอาภณมาก
เมื่อตะวันจะตกดิน อาภณต้องกลับไปที่พักซึ่งครูอ้อยก็ไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าทำไมอาภณไม่นอนที่นี่ ทำไมอาภณต้องจากไป
เวลาอาภณกลับบ้าน ต้องใช้ยานพาหนะคือรถบริการของทหารอากาศสมัยนั้น วิ่งมารับผู้โดยสารและนำไปส่งที่ตลาดสะพานใหม่ยิ่งเจริญในสมัยปัจจุบัน แล้วอาภณก็จะต่อรถประจำทางเดินทางกลับ
ครูอ้อยร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจทุกครั้งทีอาภณจะกลับ อาภณอุ้มครูอ้อย ครูอ้อยก็จะเอามือโอบคออาภณไว้ อาภณแกะมือออกจากคอได้แล้ว ครูอ้อยก็เอาขาโอบเอวอาภณไว้แบบนี้ตลอด ด้วยไม่อยากให้อาภณจากไป
สรุปแล้ววันนั้น ก็มีคนอื่นมาดึงครูอ้อยไป และไล่ให้อาภณรีบไปเสีย ครูอ้อยวิ่งตามอาภณ วิ่งตามหาเท่าไรก็ไม่เจอ ครูอ้อยมองเห็นหลังรถบริการคันนั้นคล้อยตาไป
ความรู้สึกตอนนี้เอง เป็นที่มาของบันทึกนี้ ที่มีความรู้สึกว่า...จะสูญเสียสิ่งที่รักไป
สิ่งที่รัก...ครูอ้อยเปรียบอาภณเป็นสิ่งที่รัก เพราะไม่อยากใช้คำว่า "คนที่รัก" เพราะ การสูญเสียคนที่รัก มันเหมือนกับแช่งให้ตายไป ครูอ้อยไม่กล้าใช้คำนี้ กับอาภณคนที่ครูอ้อยรัก
ความรู้สึกของครูอ้อยตอนนั้น คือ ไม่มีใครเอาใจใส่
พอมีอาภณมาหา ครูอ้อยก็รู้สึกหวงแหน ไม่อยากให้จากไป
เมื่อมาถึงปัจจุบัน อาภณแก่มากแล้ว มาตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้ๆบ้านคุณพ่อ เผื่อว่ามีอะไรจะได้พึ่งพาอาศัยกัน ครูอ้อยเป็นหลานคนโต มีหน้าที่ที่จะต้องแวะเวียนไปมาหาสู่อาและน้าทุกคนเป็นประจำ
มารู้ข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่ครูอ้อยจะเก็บกระเป๋าเดินทาง คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า " อาภณแย่แล้ว "
ครูอ้อยไป ไปนอนคนเดียว นอนหงายก่ายหน้าผาก ร้องไห้เสียใจกับ การที่ต้องจาก..คนที่รักไป
" ชีวิตของคนเราก็มีเพียงเท่านี้ล่ะ " คุณพ่อบอก
" ทำไม ทำไม " ต้องมีการจากกันด้วย
ครูอ้อยรู้คำตอบแล้ว และรู้ว่าไม่ควรจะใช้คำถามนี้ด้วย
แต่ไม่มีคำพูดใดใดที่จะเอ่ยได้ชัดเจนที่สุดในเวลานี้ ในชีวิตของครูอ้อยจะต้องสูญเสียคนที่รัก ซ้ำแล้วซ้ำอีก มันทรมานใจกันแค่ไหน
ครูอ้อยกะว่าจะไปนอนบ้านในป่าสัก 3 คืน แต่นอนไม่ได้ ต้องรีบกลับ
กลับมาเก็บความรู้สึกช้ำใจ
คุณบอน
ไม่มีรสชาติเลย มีด้วยหรือ อะไรนะ ไม่มีรสชาติ นี่เป็นคำถามสุดท้าย??????
อืมมม์....
รสชาดของชีวิตจริง ๆ ครับ...
1.ไม่่มีรสชาติ เพราะลิ้นรับรสไม่ได้
2.ไม่มีรสชาติ เพราะดื่มน้ำบริสุทธิ์ ที่ไม่มีการเติมรส
3. ไม่มีรสชาติ คำพูดที่กล่าว เพื่อเป็นการทำลายน้ำใจ สำหรับคนที่ทำอาหารแล้ว รสชาติของอาหารไม่น่ารับประทาน
4. การเขียนเรื่องราวที่ผู้อ่านเกิดความรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ บางคนบอกว่า อ่านได้ึถึงใจ ถึงรสถึงชาติ (คำเปรียบเทียบ)คุณบอน
ขอบคุณค่ะ คุณ Bright Lily
เข้ามาอ่านคะครูอ้อย
เดี๋ยวไม่ทันกระแส
ครูอ้อยจะเอาเวอร์ชั่นไหนคะ
เวอร์ชั่นสมัยเก่า
เวอร์ชั่นร่วมสมัย
เวอร์ชั่นลูกทุ่ง
หรือว่า Hip Hop อิอิ
ตราบใดคนที่เรารักอยู่ในใจ อยู่ในความทรงจำ คนเหล่านั้นก็อยู่กับเราเสมอค่ะ
หลายครั้งที่ต้องสูญเสีย แต่เมื่อไรที่คิดถึงความทรงจำเก่า ๆ ก็อบอุ่นเหมือนพวกเค้ายังอยู่กับเราเสมอค่ะ
หลับตาเถอะนะแล้วเราจะพบกัน
ลูกสาวครูอ้อย
เราแอบนินทาลูกครูอ้อยผ่าน blog ครูอ้อยนี่แหละ ดูว่าจะทนได้ไหม อิอิ
เฉลยก่อน เพราะเป็นคนไม่ชอบเก็บ
สาวการบินไทยชอบเพลงขอให้เหมือนเดิม เพราะไม่ต้องรักเท่าฟ้า ไงคะ
หาเนื่อเพลงให้ครูอ้อยก่อน
ก่อนจากกันคืนนั้นสองเรา
แนบซบเนาเคล้าคลอพ้อพลอดภิรมย์
หวานล้ำบำเรอเธอให้ชิดชม
ฉันกอดเล้าโลมชื่นใจ
บ้านคนรักสุนทราภรณ์ websuntaraporn.com
จูบแก้มนวลช่างยวนเย้าตรึง
จิตคะนึงถึงวันรักซ่านฤทัย
หอมหอมนวลปรางมิสร่างหายไป
ถึงห่างแสนไกลยังติดหัวใจมิเลือน
บ้านคนรักสุนทราภรณ์ websuntaraporn.com
ยามรักร้างแรมกัน
เพ้อทุกคืนวันติดตรึงใจฝันเตือน
มาเจอกันแล้วไยเฉยเชือน
ฉันมาเยี่ยมเยือนอย่าง เคย
บ้านคนรักสุนทราภรณ์ websuntaraporn.com
สุดที่รักลืมแล้วหรือไร
โปรดเห็นใจขอให้สมจิตชิดเชย
หวานซึ้งอันใดจงอย่าร้างเลย
ขออย่าเฉยเมยรักเอยขอให้เหมือนเดิม
ครูอ้อยจะร้องคลอไปด้วยก็ได้เปิดเวบนี้นะคะ
http://www.thaiinfonet.com/user/999999999/kauhaimeundeum.html
ว้าว สุดสุดค่ะ คืนนี้จะเปิดฟังและทำการบ้านไปด้วย ครูอ้อยยึดครองเครื่องคอมแล้ว เย้
ขอบคุณค่ะ คุณ sompornp แล้วนั่งทางในให้ครูอ้อยหรือยังคะ คุณ ดีเจน้อยของครูอ้อย
Oh! It's a very clearly answer.
มีคนโกรธครูอ้อยคะ อิอิ และไม่คุยกับครูอ้อยอีกเลย คิดว่าจะทำโทษครูอ้อยลามั้ง ครูอ้อยก็เจ็บ
ครูอ้อยคะ
JOOP JOOP (ฮิตตามเด็ก อิอิ...จะลากันทีไรต้องบอก คำนี้ค่ะ)
ด้วยความยินดีค่ะ
จะรอรับนะคะ
คุณ sompornp คะ
จะไม่เปิดบันทึกใหม่ในวันนี้ เลยขอเขียนต่อบันทึกนี้ เนื้อเรื่องคล้ายๆกัน ที่ว่าคล้ายกันคือความสูญเสีย เปล่าค่ะ ยังไม่มีใครเสียชีวิต มีแต่ครูอ้อยสูญเสียเพื่อนที่ดีไปในคราวเดียวกันถึง 2 คนใน 1 เดือนที่ผ่านมา
เป็นเพื่อนหญิง 1 คน และเพื่อนชายอีก 1 คน กะเทยยังไม่เสีย
เพื่อนหญิงเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ร่วมใจกันเรียนตั้งแต่วันแรกที่ซื้อใบสมัคร สมัคร สอบสัมภาษณ์ ตลอดเวลาโทรศัพท์คุยกันแบบนอนคุยกันเลย
ที่สำคัญ เรียนอยู่สาขาเดียวกันด้วย คิดดูเจ็บปวดแค่ไหน สาขาเดียวกัน เรียนด้วยกัน แต่ไม่พูดกัน.... เฮ้อ
สาเหตุ อย่าเพิ่มเข้าข้างครูอ้อยหรือเข้าข้างใคร ให้ครูอ้อยเล่าและสาบานว่าทุกคำพูดที่กดลงบนแป้นพิมพ์นี้เป็นเรื่องจริง.. สาบาน....
วันหนึ่ง ขณะพักผ่อนตอนเบรค กินกาแฟกัน ครุอ้อยได้ยินเพื่อพูดและชี้มาที่หน้าครูอ้อยว่า " คนนี้ ไม่ใช่เล่นนะ มีชื่ออยู่ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย เป็นครูดีเด่น วิทยานิพนธ์ดีเด่นประจำปี ได้รับรางวัลมากมาย แบบนี้ติ๋งกลัว ติ๋งไม่กล้าคบแล้ว "
จากนั้นมาจวบจนบัดนี้ เราก็ไม่พูดอะไรกันเลย...
ถามว่า "ครูอ้อยผิดอะไร ครูอ้อยผิดที่ไหน "
จบเรื่องเพื่อนผู้หญิง
คราวนี้เพื่อนผู้ชาย
เขาเป็นเพื่อนในเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงและครูอ้อยเข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประจำ เขาเป็นนักศึกษาไปทำแล็บที่ต่างประเทศ เขาดีกับครูอ้อยมาก สอนให้ครูอ้อยเรียนแบบนั้นแบบนี้ตามประสาคนเก่งสอนคนไม่เก่ง จนครูอ้อยเกือบจะเก่งตามเขาแล้ว เขาแนะนำเรื่องเรียน ตรวจการบ้าน และให้ข้อเสนอแนะ จนครูอ้อยเกือบจะพูดได้ว่า ไม่ไปเว็บไซต์ไหนเลย
จู่จู่ เขาก็พูดว่า "
จากนั้นมาจวบจนบัดนี้ ครูอ้อยก็ไม่ได้พบตัวอักษรที่เกิดจากการกดแป้นพิมพ์คุยกับครูอ้อยอีกเลย
ครูอ้อย เสียใจที่เสียเพื่อนไปแบบไม่รู้ตัวว่าทำผิดอะไร
เพื่อนผู้หญิง ไม่ชอบครูอ้อยเพราะครูอ้อยเก่ง
เพื่อนผู้ชาย จนป่านนี้ ไม่รู้เลยว่าอะไร เขาจึงเปลี่ยนไป
ควรจะเปิดบันทึกใหม่หรือไม่
ควรจะ.....
ครูอ้อยคะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ ครูอ้อยทำแล้วค่ะ