การดูคราบกรุเพื่อพิจารณาพระแท้นั้น ก็เช่นเดียวกับการดูเนื้อพระ
เพราะแต่ละกรุ ก็จะมีองค์ประกอบที่เป็น "อัตลักษณ์" ของกรุ
ที่จะต้องทำความเข้าใจว่าแต่ละกรุ นั้นมีอะไรที่เป็น "สาระสำคัญ"
เช่นกรุบางขุนพรหมนั้น จะมีทรายและอิฐแดงๆ ปนมาเสมอ
ทรายและอิฐที่ว่าจะเกาะเกี่ยวอยู่กับปูนดิบ ปูนสุก ที่มีการแช่น้ำตกเป็น "ตะกรันแข็ง"
ที่เป็นอัตลักษณ์ของพระสมเด็จบางขุนพรหม
สำหรับวัดเกศไชโยนั้นเป็นกรุแห้ง อยู่ในองค์พระ (หลวงพ่อโต) องค์เก่าที่ชำรุดไป จึงได้สร้างใหม่
พระที่อยู่ในกรุนี้จึงเป็นเศษฝุ่นวัสดุก่อสร้างที่ใช้สร้างหลวงพ่อโต
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทราบประวัติ และอัตลักษณ์ของคราบกรุ จึงจะทราบว่า
"คราบกรุ" ถูกต้อง