บริเวณถนนราชดำเนินติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ประดับประดา
ด้วยดอกไม้สีเหลืองสดใส
เครดิตรูปจากคุณอ้วน...^ ^
ดิฉันประทับใจภาพนี้เป็นพิเศษ ไม่แน่ใจว่าอ่านเจอหรือใครเล่าให้ฟังว่า คุณยายในรูปรอรับเสด็จในหลวง เตรียมดอกบัวมาทูลถวายท่าน ท่านทรงรับดอกบัวจากมือคุณยาย...ถึงแม้จะเป็นดอกไม้เฉาๆ กำนึงก็ตาม....... นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้
ตามสถานที่ต่างๆ จัดสถานที่ถวายพระพรในหลวง
สำหรับวันพรุ่งนี้ ดิฉันและพี่ๆตั้งใจว่าจะไปตักบาตรตอนเช้า ....ในวันที่5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่พิเศษเสมอ ปีนี้นอกจากดิฉันจะได้โทรกลับบ้านเพื่อคุยกับพ่อแล้วนั้น ปีนี้คุณพ่อของฉันได้รับรางวัลพ่อดีเด่นอีกด้วย ฟังจากน้ำเสียงพ่อแล้วดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย....ที่สำคัญอีกวันหนึ่งคือวันเกิดของดิฉันเอง....ทุกๆวันเกิดสิ่งที่ฉันจะคิดถึงคือแม่ ผู้ที่ให้กำเนิด และดูแลทนุถนอมลูก มาจนถึงวัย 31 ปี ..... ทุกวันที่5 ธันวาคม จึงเป็นวันซุปเปอร์พิเศษของดิฉันมากจริงๆ
ปีนี้ถึงแม้จะไม่ได้อยู่กับครอบครัว....แต่ดิฉันมีความเชื่ออยู่เสมอว่า..พ่อแม่รับรู้ว่าเราทำ
อะไรอยู่....และมันมีความหมายมากมายเพียงใด
^ ^
**พิมพ์จากโทรศัพท์ ^ ^
-ขอพระองค์ทรงพระเจริญ...
"ดอกบัวจากหัวใจ"
ที่นครพนม บนเส้นทางรับเสด็จตรงสามแยกชยางกูร-เรณูนคร บายวันที่ 13 พ.ย. 2498 อาณัติ บุนนาค หัวหน้าส่วนช่างภาพประจำพระองค์ ได้บันทึกภาพในวินาทีสำคัญที่กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งของประเทศภาพที่พูดได้มากกว่าคำพูดหนึ่งล้านคำวันนั้นหลังจากทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเสร็จสิ้นในช่วงเช้าแล้ว ทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งกลับไปประทับแรม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ราษฎรที่รู้ข่าวก็พากันอุ้มลูก จูงหลานหอบกันมารับเสด็จที่ริมถนนอย่างเนืองแน่น ดังเช่นครอบครัวจันท์นิตย์ ที่ลูกหลายช่วยกันนำ แม่ตุ้ม จันทนิตย์ วัย 102 ปี ไปรอรับเสด็จ ณ จุดรับเสด็จห่างจากบ้าน 700 เมตร โดยลูกหลานได้จัดหาดอกบัวสายสีชมพูให้แม่เฒ่าจำนวน 3 ดอก และพาออกไปรอที่แถวหน้าสุดเพื่อให้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่สุดเปลวแดดร้อนแรงตั้งแต่เช้าจนสาย เที่ยงจนบ่าย แผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจรักภักดีของหญิงชรายังเบิกบาน เมื่อเสด็จฯ มาถึงตรงหน้า แม่เฒ่าได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกนั้นขึ้นจบเหนือศีรษะแสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง พระเจ้าแผ่นดินทรงโน้มพระองค์อย่างต่ำที่สุด จนพระพักตร์แนบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า ทรงแย้มพระสรวลอย่างเอ็นดู พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของเกษตรกรชราชาวอีสานอยางอ่อนโยนเป็นคำบรรยายเหมือนไม่จำเป็น สำหรับภาพที่ไม่จำเป็นต้องบรรยาย ไม่มีใครรู้ว่าทรงกระซิบคำใดกับแม่เฒ่า แต่แน่นอนว่าแม่เฒ่าไม่มีวันลืมเช่นเดียวกับที่ในหลวงไม่ทรงลืมราษฎรคนสำคัญที่ทรงพบริมถนนวันนั้น หลานและเหลนของแม่เฒ่าเล่าว่า "หลังจากเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว ทางสำนักพระราชวังได้ส่งภาพรับเสด็จของแม่เฒ่าตุ้ม พร้อมทั้งพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ่านมาทางอำเภอพระธาตุพนมให้แม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ อาจมีส่วนชุบชูชีวิตให้แม่เฒ่ายืนยาวขึ้นอีกด้วยความสุขต่อมาอีกถึงสามปีเต็ม ๆแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ราษฎรผู้โชคดีที่สุดคนหนึ่งในรัชกาลที่ 9 สิ้นอายุขัยอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่ออายุได้ 105 ปีข้อมูลจาก "แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์" ภาคพิเศษโดย คุณหญิงศรีนาถ สุริยะ วารสารไทย
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
...อ่านแล้วซาบซึ้งใจ ในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มากๆนะคะ
"ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"
ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ทุกครั้งที่มองภาพนี้น้ำตาคลอเบ้าตลอดเลยค่ะ
ยินดีและดีใจมากๆที่น้องเข้ารอบ 1 ใน 5 คลิกอ่าน http://www.gotoknow.org/posts/555357 เหลือเพียงกลางเดือน ต้องรีบบอกอจ.และนศ.ให้คลิกดอกไม้โดยด่วนครับผม
ฮาอาจารย์ป้อบ....ขอบคุณนะคะ...^ ^ แค่เข้ารอบก็ดีใจมากเลยค่ะ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
มายิ้มๆโดนอาจารย์น้องดร.Pop แซวครับ
ขอบคุณค่ะพี่ขจิต ^ ^