ภูฝ้ายฟลอร่า ที่พักผ่อน ซึ่งในอนาคตจะเป็น “อาศรมนักปราชญ์”


การได้พักผ่อนและเรียนรู้ ไม่จำกัดว่าจะอยู่ในวัยไหน

สว.หกคน ล้วนแล้วแต่เกษียณมาคนละ 5 ถึง 8 ปี ได้สร้างข้อตกลงกันว่า ต่อไปนี้ เราจะไปท่องเที่ยวแบบค้างคืนด้วยกันสักสองเดือนครั้ง เพื่อรำลึกความหลังที่เราเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2511 ตอนที่ได้รับบรรจุมาเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ด้วยกันใหม่ๆ

เราเลือกวันที่ว่างตรงกันหมดทุกคน เพราะ สว.ชุดนี้ว่าไปแล้ว ยังมีงานทำกันทุกคน เพราะคุณภาพยังคับแก้ว บางท่านเป็นผู้อำนวยการศูนย์ภาษา บางท่านเป็นที่ปรึกษานักศึกษาปริญญา โท ปริญญาเอก บางท่านได้รับเชิญไปประชุมไปบรรยาย ไม่ได้ว่างเว้น ในเนื้อหาที่ท่านทรงความรู้ และบางท่านได้รับเชิญไปสอนเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย

วันที่ 2-3 พ.ย.ที่เพิ่งผ่านไป ถือเป็นนัดแรกที่เราพากันไปพักผ่อนกันที่ไร่ ภูฝ้าย ฟลอร่า ซึ่งเป็นไร่ของอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเกษียณแล้วเช่นกัน คือ ดร.มนตรี บุญเสนอ     เจ้าของไร่ จบทางธรณีวิทยาจากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังพวกเราสักสี่ห้าปี เมื่อเกษียณอายุราชการ ก็มาบุกเบิก ไร่ ที่คอนสาร ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของภรรยา โดยตั้งใจจะพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน    

ที่ดินที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ร้อยกว่าไร่ สุดลูกหูลุกตา กำลังจะถูกพลิกฟื้น ให้เป็นอะไรหลายๆอย่างตามความฝันของอาจารย์ ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป

ท่านมาต้อนรับเราด้วยตัวเอง  พาไปกราบพระพุทธรูปปากแดงที่มีความเก่าแก่ ถึง 700 ปี ที่วัดเจดีย์ 

และพาไป ดูหัวน้ำผุดทัพลาว ที่มีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา เป็นน้ำใสไหลเย็น เห็นตัวปลา ไหลเป็นลำธาร น้ำตกเล็กๆที่มีคนมาท่องเที่ยวกันมาก อาจารย์บอกว่า อำเภอคอนสารเป็นภูมิประเทศที่เป็นแอ่ง   มีภูเขาหินปูนล้อมรอบ ที่ชุ่มชื่นมาก เพราะน้ำใต้ดินอยู่ลึกลงไปแค่ สี่เมตรเท่านั้น ไม่ต้องเจาะน้ำบาดาล แค่ขุดบ่อก็เจอน้ำ    เหมาะแก่การเพาะปลูกมาก นอกจากนี้น้ำที่ผุดขึ้นมายังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายชนิด สามารถนำมาทำเป็นน้ำแร่ที่มีคุณภาพทีเดียว

 

รานึกว่าที่นี่เป็นรีสอร์ตธรรมดาๆ แต่เมื่อมาพบปะพูดคุยกับเจ้าของทั้งสองสามีภรรยาแล้ว ก็พบว่าท่านไม่ได้ตั้งใจทำรีสอร์ต สำหรับเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไป จะรับเฉพาะคนที่รู้จักกัน    และรับเฉพาะเสาร์อาทิตย์เท่านั้น อาจารย์มารับรองผู้มา เยือนด้วยตนเองตลอดรายการ  เพื่อขยายแนวคิดที่ท่านจะทำต่อไป ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งก็ตั้งไว้หลายเรื่องที่น่าสนใจ

เรือนพักหลังเล็กๆพักได้หลังละ สี่คน จำนวนสิบสามหลัง ตั้งอยู่ใน พื้นที่ ซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขา   มีอาคารกังหันลม สูงตระหว่านอยู่ตรงกลาง กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะใช้เป็นห้องประชุม ร้องเพลง จัดอบรม ทานอาหารฯลฯ ถือว่าเป็นศูนย์รวมอเนกประสงค์   อยู่ที่ว่า ผู้ที่มาพักที่นี่จะมาด้วยจุดประสงค์ใด  ได้ลงมือก่อสร้างดำเนินการไปบ้างแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2551

มื้อเย็นท่านเจ้าของบ้านพาขึ้นไปทานอาหารเย็น จิบไวน์ พร้อมชมวิวแบบสามร้อยหกสิบองศา บนชั้นสองของอาคารกังหันลม  เห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้า ไปกับแสงสุดท้ายสีส้มอ่อนๆ สวยงามมาก   เมื่อความมืดเข้าปกคลุม อากาศเริ่มเย็นดาวประจำเมืองก็เรืองแสงที่ขอบฟ้า และในเวลาอีกไม่นาน ท้องฟ้ากว้างก็เต็มไปด้วยดาวก็ระยิบระยับนับดวงไม่ถ้วน

เจ้าของบ้านเป็นอดีตมือกลองของวง สจม. (สโมสรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).     สามารถร้องเพลงยุคsixty        และของสุนทราภรณ์ ร่วมสมัยของพวกเราได้อย่างไพเราะ อาจารย์ร้องเพลงกล่อมเราในช่วงทานอาหารและเชิญชวนให้พวกเราขึ้นไปร่วมร้องด้วยอย่างสนุกสนานจน ลืมวัย แถมยังเปิดเพลงให้เราลีลาศเรียงจังหวะจากรุมบ้าไปจนถึงออฟบีท ทำให้บรรยากาศคืน วันรับปริญญาเมื่อสี่ห้าสิบปีก่อนโน้น กลับมาในห้วงคิด

หลังจากสนุกสนานกันจนสี่ทุ่ม บรรดา สว. ก็ต้องอำลามาพักผ่อน เพราะทั้งร้องทั้งเต้นในวัยนี้ คงทำไม่ได้ดึกมากเหมือนเมื่อสมัยสาวๆ

ตอนเช้า เจ้าของไร่มาชวนพวกเรา ไปออกกำลังกายยามเช้า แต่ปรากฏว่า สว.ทั้งหลาย ไม่สามารถลุกขึ้นไปชมพระอาทิตย์ยามเช้าได้ ทั้งๆที่ปกติแล้วตื่นตั้งแต่ตีห้ากันแทบทุกคน คงเป็นเพราะเมื่อคืน “หนัก” เกินกว่าว่ากิจวัตรประจำวันไปสักหน่อย

อาหารเช้า ที่เรือนใหญ่หน้าสระน้ำ เป็นสลัดผัดสดๆไร้สารเคมีจากไร่    ข้าวต้มหมูสับ (ข้าวไร่ปลูกเอง สีเอง ไร้สารเคมีเช่นกัน) สะละเปา ขนมจีบ ชากาแฟ อย่างพรั่งพร้อม เราทานกันไป คุยกับเจ้าของไร่ อย่างเพลิดเพลิน ตั้งแต่ แปดโมงเช้ายันสิบโมง แทบจะไม่อยากบอกลา แล้วในช่วงนี้เอง เราจึงทราบว่า ท่านเจ้าของไร่   มีโปรเจคต่างๆอัดอยู่ในความคิดมากมาย ที่จะทำให้สถานที่นี้ เป็นที่ที่สร้างประโยชน์ ให้แก่ชุมชน ต่อไปในอนาคต มิใช่เป็นแค่รีสอร์ตสำหรับมาพักผ่อนเท่านั้นท่านเป็นพหูสูตรจริงๆ ไม่ใช่เป็นแค่นักธรณีวิทยาเท่านั้น เพราะสามารถพูดให้เราฟังได้ตั้งแต่เรื่องวิทยาศาสตร์ไปจนถึงเรื่องนั่งสมาธิ ระดับ มโนมยิทธิ (เฉพาะเรื่องนี้ ต้องกลับมาเปิดกูเกิ้ลหาข้อมูลเพิ่มเลยทีเดียว) โปรเจคต่างๆที่ได้ทำแล้วและจำทำต่อไป สรุปสั้นๆได้ว่า

  • ปัจจุบันที่ทำอยู่คือ เป็นไร่ปลูกผักแบบไฮโดรโพนิค   ปลูกข้าวไร่ ทั้งหมดไม่ใช้สารเคมี ให้ภรรยาเป็นผู้ดูแล
  • จะเป็นสถานที่ที่จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ทั้งโดยตัวท่านเอง และเชิญวิทยากรมาจากที่อื่น
  • จะสร้างสวนสมุนไพร
  • จะเป็นศูนย์สุขภาพทางเลือก ที่ใช้สมุนไพร ครบวงจร ท่านบอกว่าโคลนในเมืองไทยเรามีคุณภาพมาทำเป็นส่วนเครื่องสำอางไม่แพ้โคลนจากเดดซี
  • จะจัดตั้ง “อาศรมนักปราชญ์” ณ ที่แห่งนี้ โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่เกษียณอายุแล้ว มาพักผ่อนร่วมระดมสมองเพื่อสร้างสิ่งดีดีให้กับสังคม

พวกเรานั่งฟังความฝัน ซึ่งไม่ไกลไปจากความเป็นจริง จากปากของอาจารย์อย่างเพลิดเพลิน จนเกือบไม่ได้ลาจากกัน ตั้งใจว่า อีกไม่นานเมื่อโครงการของอาจารย์สมบูรณ์แล้ว เราจะกลับมา เพิ่มเติมความรู้ และซ่อมเสริมสุขภาพกับอาจารย์อีก ซึ่งอาจารย์บอกว่าควรใช้เวลาถึง สามวัน ให้ครบสูตร  โดยจะมีการพอกโคลน อาบน้ำแร่  รับประทานผลไม้    เพื่อดีท๊อกซ์ ล้างพิษ ดื่มน้ำเสาวรสสดจากไร่   รับประทานอาหารสดๆ ที่ปราศจากสารเคมี เสริมด้วยสมุนไพรจากสวนที่อาจารย์กำลังริเริ่ม ซึ่งเน้นว่าอาหารต้องอร่อยด้วย เพราะเน้นให้มาอยู่ให้สบายทั้งกายและใจ   ไม่ใช่มาทรมานร่างกายเพื่อล้างพิษ

เราจากมาพร้อมด้วยของชำร่วยเป็นผักสดจากไร่คนละห่อใหญ่ เป็นสินน้ำใจจากภรรยาของอาจารย์ดร.มนตรี

 

จากไร่ภูฝ้าย คณะ สว.ไปทานอาหารกลางวันที่เขื่อนจุฬาภรณ์ ทานต้มยำปลากด ปลาเผา ส้มตำ หน่อไม้สดต้ม ซึ่งรสชาติจัดจ้านอร่อยมาก

เขื่อนจุฬาภรณ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เขื่อนน้ำพรม สวยงาม และสงบเงียบ ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก เราเดินเที่ยวริมเขื่อน   เก็บภาพวิวงามๆ พร้อมทั้งย่อยอาหารไปด้วย

เสร็จแล้วก็ไปต่อกันที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เดินชมสัตว์ป่านานาชนิดที่ศูนย์ฯรวบรวมไว้เพื่อไม่ให้สูญพันธุ์ ไปเจอป้าย ป้ายนี้เข้า เอ เขาเอาไว้ให้ใครอ่านกันนะ

เรา กลับมาถึงขอนแก่น ห้าโมงเย็น เป็นทริปที่ประทับใจ ได้ความรู้    อิ่มท้อง และได้พูดคุยกับคนคอเดียวกันอย่างมีความสุข

ทริปหน้านัดกันไว้ว่าเดือนมกราคม จะไปเชียงคาน คงได้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังอีก

 

 

หมายเลขบันทึก: 552474เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2013 11:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2013 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เห็นสถานที่แล้วชอบมากเลยครับ

น่าไปเรียนรู้มาก

มีผักปลอดสารพิษด้วยนะครับ

ร่มรื่น   บ้านกังหันสวยนะคะ

ชีวิตยังไม่สุดท้าย...อยู่สบายอีกหลายสิบปี...ได้อากาศดี...สถานที่ดีดี...ชีวิตก็ดีด้วยครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท