หลายปีมานี้รู้สึกว่าความสุขของฉันหายไปเรื่อยๆ หากคิดเป็นภาพรวม พบว่าตัวเองทุกข์มากกว่าสุข เพราะอะไรหรือ ฉันถามตัวเองบ่อยๆ แต่ก็ยังหาคำตอบได้ไม่ชัดเจนนัก คำถามที่วนเวียนตลอดหลายปีในหัวของฉันมันส่งผลให้ฉันต้องหาคำตอบอยู่ร่ำไป ฉันว่าคนเลวก็มีความสุขแบบคนเลว หมายความว่า แม้เขาจะทำสิ่งไม่ดีให้กับคนอื่น แต่ในใจของเขากลับพบว่าตัวเขาเองมีความสุขตามความคิดของเขาเอง คนดีก็เช่นกัน ก็มีความสุขตามแบบของคนดี แต่ฉันผู้ซึ่งแสวงหาความดี และหลีกหนีความชั่ว ต้องคอยเตือนตัวเองเสมอว่าดีหรือยัง ชั่วหรือยัง นี่อาจเป็นกรอบที่ทำให้ฉันไม่มีความสุขหรือเปล่า อายุของฉันเพิ่มมากขึ้นทุกขณะแต่กลับพบว่าความดีของฉันน้อยลงไปทุกที ความเห็นแก่ตัวถูกก่อเกิดอย่างเงียบๆและบัดนี้บดบังปิดกั้นผู้อื่นไปโดยสิ้นเชิง
หากฉันตายลงในเวลานี้ ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีความดีอะไรที่ทำให้ฉันได้ขึ้นสวรรค์ ทว่าสำหรับความชั่วแล้วในระบบความคิดกลับมีมากเหลือคณา เฒ่าชราอย่างฉันก็คงเหลือเวลาอีกไม่มาก ชีพจรเต้นช้าลงไปทุกทีเสียงหายใจเบาลงไปทุกที สติค่อยพล่าเลือนลงอย่างช้าๆ และยังเฝ้าถามตัวเองว่าโลกหน้าจะเป็นอย่างไร
แสงอาทิตย์สีทองเริ่มปรากฏที่ตรงขอบฟ้า สกุณาร้องเจี้ยวจ้าวบินว่อนออกหากิน ลมเย็นๆพัดผ่านหน้าไป นี่เป็นรุ่งอรุณสุดท้ายจองฉันสินะ เป็นเช้าที่สวยงามในรอบหลายปีที่ผ่านมา เสียงหายใจเบาลงๆ และแน่นิ่ง คงเหลือแต่เพียงธรรมชาติที่ยังคงส่งเสียงดำเนินไปอย่างเงียบๆ...
ชายชราผู้โง่เขลาได้จากโลกนี้ไปแล้ว ไร้ญาติมิตร ไร้เสียงร่ำไห้ มีเพียงเสียนก ลมพัด ที่เป็นเพื่อนในยามสุดท้ายของชีวิต ธรรมชาติโอบอุ้มวิญญาณของเขาจากไป เราไม่รู้ว่าไปสู่ที่ใด นรกหรือสวรรค์ เหลือเพียงร่างกายที่ยังคงนั่งบนเก้าอี้ตัวโปรดพร้อมกับไดอารี่เล่มสุดท้าย...
หารูปรุ่งอรุณไม่ได้ งั้นเอาตอนเย็นละกัน อิอิ