การพัฒนาผลการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสวายวิทยาคาร


ชื่อเรื่อง  การพัฒนาผลการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์

   เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1

   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสวายวิทยาคาร

ผู้วิจัย             นางสาวอรนุช  ดมหอม

ปีที่วิจัย           2555

 

บทคัดย่อ

 

                   การพัฒนาผลการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน หลังการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนสวายวิทยาคาร อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 ชุด ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.89 เป็นแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ที่เหมาะสมมากที่สุด 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.91 เป็นแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมมากที่สุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (multiple choices) จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.78 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.82 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.89 และ 3) แบบวัดความพึงพอใจมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.903  สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบสมมติฐานเพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ใช้สถิติในการทดสอบ ที (t-test for dependent samples)และดำเนินการวิเคราะห์คะแนนความแตกต่างของความพึงพอใจของนักเรียน โดยใช้สถิติทดสอบ ที (t-test for one samples)

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

           1.  แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 78.94/78.10 ตามเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้

           2.  ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

           3.  นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องแรง มวลและกฎการเคลื่อนที่ มีความพึงพอใจหลังเรียนอยู่ในระดับมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

หมายเลขบันทึก: 550999เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2013 20:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ตุลาคม 2013 20:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท