รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์)
รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ครูตาล วงษ์ชื่น

"ตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ถ้ำพระยานคร" (๒๙ กันย์ ๕๖)


"ตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ถ้ำพระยานคร" (๒๙ กันย์ ๕๖) 

เช้าวันที่ ๒๙ กันยายน วันนี้นี่เองที่  ที่เราจะได้ใช้พลังอย่างเต็มที่ หลังจากเที่ยว

ในตัวเมือง สบาย ๆ คราวนี้จะได้โลดโผน กระโจนทะยานออกนอกเมืองกันบ้าง ตื่นเต้น

กันถ้วนหน้า หลังจากหลงทางอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจถามตำรวจท่องเที่ยว ได้รับคำอธิบาย

ด้วยดี แต่ก็ยังคงหลงทางอยู่ดี ตัดสินใจพุ่งทะยานไปตามที่ปรากฏบนเครื่องมือนำทาง

จึงเป็นผลสำเร็จ การเดินทางก็มิได้โลดโผนแต่ประการใด แต่มีถนนบางช่วงเป็นทางขาด  

ผู้รับผิดชอบกำลังซ่อมสะพานและน้ำใต้สะพานเชี่ยวมาก 

เมื่อถึงจุดหมาย จุดที่พาหนะคู่ใจของเราไม่สามารถตะลุยต่อไปได้อีก เรามองหาที่จอด

ที่คิดว่าดีที่สุด เพราะเราต้องทิ้งเจ้าหล่อนไว้ที่นี่ เพื่อลงเรือ ลูก ๆ มองลำเรือไปจาก

ชายฝั่งแล้ว รู้สึกกล้า ๆ กลัว เพราะเรือที่เห็นเบื้องหน้า มีลำเล็กเพียงนิดเดียว แต่เมื่อ

เดินเข้าไปใกล้ ภาพเรือลำเล็กที่ปรากฏข้างหน้า กลับมีรู้สึกว่า "ใหญ่ ยาว สามเท่า

ตัวจริง ๆ "  ไม่เชื่อพิสูจน์ได้ค่ะ อยากบอกให้ทราบว่า อันที่จริงแล้ว ทางเดินไปถ้ำ

พระยานครก็มีนะคะ ไม่ต้องลงเรืออ้อมเขา หากไม่พร้อมที่จะจ่ายเงินค่าเหมาเรือ

แต่ระยะทางในการปีนเขา ต้องใช้เวลาและใช้แรงกายอย่างหนักหน่วงเลยหละค่ะ

หลังจากติดต่อตกลงราคา "เรือนำเที่ยวแล้ว" ด้วยราคาเหมาลำ ๑,๐๐๐ บาท กับการ

นั่งเรือเที่ยว ๓ จุด ได้แก่ เกาะเจ้าแม่นมสาว   หมู่บ้านชาวประมง  และถ้าพระยา

นคร ไป-กลับ ซึ่งเจ้าของเรือบอกว่า เป็นราคามาตรฐานที่ทางอุทยานเขากำหนดไว้  

นอกจากนี้แล้วเราจะต้องซื้อบัตรสำหรับเข้าชมอุทยานอีก คนละ ๔๐ บาทสำหรับผู้ใหญ่

และ ๓๐ บาท สำหรับนักเรียนนักศึกษา 

หลังจากเรือลำใหญ่พาพวกเราวอ้อมไปทางเกาะเจ้าแม่นมสาวเพื่อบูชาเจ้าแม่แล้ว

ฉันสอบถามมัคคุเทศก์ประจำเรือ(คนขับเรือ) ว่าผู้มาบูชาเจ้าแม่ส่วนใหญ่ขออะไร

กับเจ้าแม่ ก็ได้รับคำตอบว่า ขอได้ทุกอย่าง เวลาแก้บน สิ่งของที่นำมาแก้บนส่วน

ใหญ่คือ "เสื้อยกทรง" ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ เจ้าแม่นมสาว น่าจะมีสถิติเป็นผู้ที่มีเสื้อ

ยกทรงมากที่สุด ก็ได้ค่ะ เพราะมีนับพัน ๆ ตัว

ภาพเบื้องหลังโน่น ที่เห็นเป็นเกาะสองเกาะนั่่นแหละค่ะ ที่เรือจะพาเราอ้อมไป เพื่อไป

เยี่ยมเยือนหมู่บ้านชาวประมงค่ะ คงใช้ทักษะชีวิตตัดสินใจบอกตัวเองได้ไม่ยากนะคะ

ว่าเกาะลูกใดคือ "เกาะเจ้าแม่นมสาว" 

พวกเรารู้สึกสดชื่นมาก ๆ กับการนั่งเรือชมทิวทัศน์สองข้างทางท่ามกลางน้ำเขียวใส  

สวยงามมากค่ะ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า "อันตัวข้าพเจ้านี้่ เสมือนใกล้เกลือกินด่าง"

มีของดีอยู่ใกล้บ้านแท้ ๆ กลับไปหลงใหลได้ปลื้มแดนไกลทางฝั่งอันดามัน

ไม่ว่าจะเป็น กระบี่ พังงา ภูเก็ต เกาะสมุย จริง ๆ แล้วประจวบคีรีขันธ์ของเรา

เองก็งดงามสมดังคำขวัญที่ว่า "เมืองทองเนี้อเก้า มะพร้าว สับปะรด สวยสดหาด

เขาถ้ำ  งามล้ำน้ำใจ" วันนี้เป็นวันที่โชคดีมาก ๆท้องฟ้าสดใสไร้เมฆครึ้มแต่ก็ใช่ว่า

จะมีแดดอากาศกำลังสบาย ๆ พอดี  พอเพียงจริง ๆ 

หลังจากสักการะเจ้าแม่นมสาวและเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงแล้ว เรือก็พาเรา

มุ่งตรงไปยังถ้ำพระยานครค่ะ ซึ่งเมื่อขึ้นจากเรือแล้วก็จะต้องเดินเท้าค่ะ สิ่งที่ต้อง

เตรียมคือ น้ำเปล่าขวดเล็ก ๆ พยายามทำตัวเองให้เบาที่สุด ไม่ต้องหอบหิ้วอะไร

ไปเลยเป็นดีที่สุดค่ะ

 

ระหว่างป้ายแรกคือป้าย อุทยาน กับป้ายที่สอง เป็นป้ายบอกระยะทาง มีช่วงห่าง

กันพอสมควรแต่ทางเดินร่มรื่นด้วยร่มไม้จึงไม่รู้สึกเหนื่อย แต่หลังจากนี้ไปสิคะ

ต้องเดินไปตามเส้นทางที่สูง ๆ ต่ำ ๆ ตะปุ่มตะป่ำ บางช่วงก็สูงชันพอสมควร

มีป้ายเตือนด้วยนะคะว่า ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรใช้วิจารณญาณ

ในการที่จะเดินทางต่อ

นี่คือเส้นทางแห่งการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้คือความ

สวยงาม ความประทับใจที่รออยู่เบื้องหน้า ไหวไหมกับทางแบบนี้ ๔๓๐ เมตร

จุด ๒๐๐ เมตร จะเป็นจุดชมวิวค่ะ ซึ่งทุกคนจะต้องแวะพัก แวะหายใจทาง

ปากบ้างก็ถ่ายรูปลงมาเบื้องล่าง เพราะสามารถมองเห็นชายหาดที่เราเดินผ่าน

มาบางคนก็พักยาว ไม่สามารถไปต่อได้ อาจจะนั่งรอเพื่อน ๆ ที่ยังสู้ไหว ส่วนคนที่

สู้ไหวจริง ๆ ก็จะได้รับรางวัลด้วยภาพงาม ๆ เป็นสิ่งตอบแทน พร้อมกับความ

ภูมิใจ พูดอวดใครต่อใครได้ด้วยความภาคภูมิ

ถ้ำพระยานคร เป็นถ้ำมีพลับพลาที่ประทับสวยเมื่อต้องแสงตะวัน ประวัติแต่โบราณ

ได้ชื่อนี้เพราะเจ้าพระยานครเป็นผู้ค้นพบ คราร่วมเสด็จประพาสในรัชกาลที่ ๕

ต่อมาพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ใครจะเชื่อ

ว่ายาม พระอาทิตย์ส่อง แสงผ่านปล่องเขาพลับพลาที่ประทับเรืองรอง

งดงามยิ่งกว่าใช้ไฟดวงใด ตามประวัติเล่าว่าในสมัยรัชกาลที่ ๑ เจ้าพระยานคร

ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราชได้แล่นเรือผ่านทางเขาสามร้อยยอด และเกิดพายุ

ใหญ่ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จึงจอดพักเรือหลบพายุที่ชายหาดแห่งนี้เป็น

เวลาหลายวันและได้สร้างบ่อน้ำเพื่อใช้ดื่ม เรียกว่า"บ่อพระยานคร""ถ้ำพระยานคร"

เป็นถ้ำขนาดใหญ่บนเพดานถ้ำมีปล่องให้แสงสว่างลอดเข้ามาได้ จุดเด่นของ

ถ้ำแห่งนี้ คือ"พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"

"พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"เป็นพลับพลา แบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จ

ประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์

เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลังโดยให้พระยาชล

ยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายก

ช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง ที่กำแพงหินด้านขวามีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และ

รัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา  พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นับเป็นจุดเด่น

ของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน

-------------------------------------------------------------------------

 

ขากลับ...ฝนตกหนักมาก ชนิดมองทางไม่ค่อยเห็น กว่าจะออกถนนเพชรเกษมได้

ก็ใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็น แต่พาหนะคู่ใจของเราก็สามารถพาพวกเราโลดแล่น

ไปได้อย่างไม่ติดขัด ไม่นานนัก ก็พบว่าเรากำลังนั่งรออาหารอยู่ที่ร้านอาหาร

แห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านคลองวาฬ จะด้วยความหิว หรืออาหารอร่อยจริง ๆ ก็มิอาจ

พิสูจน์ได้ สัมผัสได้แต่เพียงว่า ข้าวทุกเม็ด อาหารทุกจาน อร่อยและหมดไปใน

พริบตาค่ะ ไม่มีแรงจะถ่ายรูปด้วยค่ะ พออิ่มท้อง ก็มีแรงเดินทางกันต่อ และก็ยัง

พอจะมีเวลา ที่จะปันใจ แวะจุดพักรถใกล้บ้าน นั่งลิ้มละเลียดเครื่องดื่มตามใจ

ชอบของแต่ละคน ที่แบลคแคนยอน แบบชุ่มฉ่ำในดวงใจจริง ๆ ค่ะ 

ถึงตรงนี้ นับว่าทริปนี้ บรรลุตามจุดประสงค์ที่วางไว้ นั่นคือ การพาลูก ๆ มารู้จัก

มาเรียนรู้นอกห้องเรียน เรื่อง "ตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์" ซึ่งลูก ๆ เห็น

จากปกสมุดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน การได้เรียนรู้แบบนี้ เชื่อว่าลูก ๆ คงจดจำไปนานแสนนาน

และที่สำคัญสามารถเล่าเรื่องราวของจังหวัดตัวเองได้ มีความภาคภูมิใจ ที่มีความรู้เรื่อง

จังหวัดของตน ขอบพระคุณทุก ๆ น้ำใจของผู้คน ที่มีแต่รอยยิ้ม ขอบคุณท้องฟ้าอันสดใส

ขอบคุณน้ำทะเลที่น้างความสดชื่นและเย็นฉ่ำ ขอบคุณพาหนะคู่ใจ และท้ายสุด ขอบคุณ

ช่างภาพ และกล้องถ่ายรูปตัวนี้ค่ะ

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเลขบันทึก: 550659เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2013 17:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม 2013 18:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

คุณมะเดื่อไปปีนขึ้นถ้ำพระยานครมาแล้ว เกือบ 10 รอบ...เพื่อน ๆ มา

จากต่างที่ ใคร ๆ ก็อยากชมพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ตราประจำจังหวัด

ก็ต้องเป็นไกด์นำทาง...มีคน ๆ หนึ่งบอกคุณมะเดื่อว่า...(ขออภัยครูอิง

เจ้าของบันทึกและท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่าน ที่คุณมะเดื่อต้องใช้คำไม่ค่อย

สุภาพ...เพราะถ้าใช้คำสุภาพ...อาจจะไม่ได้อรรถรสแห่งพจนาจ้ะ)

" เป็นคนประจวบ ฯ ถ้าไม่เคยลงถ้ำพระยานคร...ล่ะ...โง่...แต่ถ้าลงแล้วลง

อีก..โค.ตะ.ระ..โง่..." ....แล้วนี่คุณมะเดื่อ...ล่ะ...กึ๋ยยยย

สวยมากๆๆเลยครับ

ยังไม่ได้ไปเลย

ขอบคุณพี่มากๆครับที่แนะนำ

สวยงามมากนะคะ...ขอบคุณค่ะ

คุ้มค่ามากมายสวยมากน่าเที่ยวจริงๆเลย

แวะมาสวัสดีปีใหม่กับครูอิงจันทร์ นะ ครับ

ด้วยความระลึกถึงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท