การบ้านทั้งปี
เดิมการบ้านหรืองานมอบหมาย หมายถึงงานที่ครูหรืออาจารย์ มอบหมายให้นักเรียนหรือนักศึกษาทำให้สำเร็จนอกห้องเรียน ส่วนมากจะเป็นงานที่นักเรียนต้องทำจากที่บ้านมาส่ง
ข่าวแจ้งจากศธ.ให้ปรับลดการบ้าน การให้การบ้านที่ต้องมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระวิชา การเรียนให้โรงเรียนในสพฐ.เรียนในห้องเรียนลดลง และจะมีโอกาสเรียนรู้และทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น รวมทั้งจะไม่ใช้วิธีการที่ครูมีอำนาจเหนือนักเรียน ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบ ครูให้การบ้านเด็กมากจนเกิดความทุกข์ทรมาน
ดร.วิจารณ์ พานิช กล่าวไว้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนยุคปัจจุบัน “กิจกรรมเป็นส่วนที่ง่าย จึงควรทำที่บ้าน เรียนเนื้อวิชาที่บ้าน แต่ยังมีส่วนของการเรียนรู้ที่สำคัญกว่า ทรงพลังกว่า เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงกว่า คือการทำแบบฝึกหัด หรือการฝึกประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหา การเรียนเป็นทีมกับเพื่อน การช่วยอธิบายส่วนที่เพื่อนไม่เข้าใจให้แก่เพื่อน (สอนผู้อื่น) การทำความเข้าใจว่า เนื้อสาระวิชานั้นมีความสำคัญอย่างไรในชีวิตจริง ส่วนนี้แหละที่ต้องเรียนที่โรงเรียน โดยมีครูเป็น facilitator หรือเป็นโค้ช “การเรียนที่บ้าน ทำการบ้านที่ห้องเรียน” และทำให้ห้องเรียนเป็นที่ที่นักเรียนแต่ละคนเรียนตามอัตราเร็วของตนเอง (เพราะธรรมชาติของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน) โดย ICT ช่วยให้ครูสามารถติดตามประเมินความก้าวหน้าในการเรียนของศิษย์ในชั้นเรียนได้เป็นรายคน”
เมือในโลกปัจจุบันมีมวลความรู้มหาศาล ค้นหาข้อมูลได้อย่างหลากหลาย การเรียนไม่ใช่เรียนแบบเหวี่ยงแห ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิผลน้อย ครูก็ต้องเลือกสิ่งที่จำเป็นให้กับเด็ก ดร.วิจารณ์ พานิช พูดถึงความรู้ที่จำเป็น Essential Knowledge เป็นความรู้ที่ขาดเสียมิได้ ที่นักเรียนต้องรู้
การบ้านก็เป็นการให้*การบ้านทั้งปี เพื่อให้เด็กมีความมุ่งมั่นทั้งปี จิตใจจดจ่อเรื่องที่ทำ เป็นการหลอมรวมความรู้ทั้งหมดที่เด็กเรียนมา การนำเสนอ การวิเคราะห์ วิจารณ์ หรือเป็นสรุปความรู้ด้วยการแสดงละคร 1 เรื่อง แล้วเราจะเตรียมตัวกับเรื่องต่างๆเหล่านี้อย่างไรดีหนอ......
...แทนที่จะสรุปเป็นละคร...ทำไมไม่ให้เด็กสรุปจริงๆ ...Presentation ตัวเองอย่างจริงจังให้เป็นที่ประจักษ์...ว่าจากการเรียนวิชา... นักเรียนได้นำความรู้จากวิชา...ไปใช้ทำอะไรมาบ้าง?ที่เกิดประโยชน์ทั้งในชีวิตประจำวันของตนเอง การนำไปช่วยเหลือครอบครัวและสังคม ...หากเป็นการจบช่วงชั้นการบ้านที่ต้องนำเสนอก่อนจบคือการให้เด็กแสดงความคิดเห็นเพิ่มจากที่กล่าวมานั้นว่าการเรียนวิชา...จะเกิดประโยชน์ในการเรียนในระดับที่สูงขึ้นอย่างไร? หรือหากจบแล้วไม่เรียนต่อก็ต้องบอกได้ว่าจะเกิดประโยชน์อย่างไร?ในการนำความรู้ไปประกอบอาชีพ...