พบเพียงผ่านอินเดีย 11


เรื่องเล่าต่อจากตอนที่แล้ว ในบ่ายแก่ ๆ ของวันหวนกลับคืนถิ่นเดิมของเราชาวไทยทั้งเก้าคนที่ไปร่วมงานสัมมนาทางวิชาการนานาชาตินั้น เรามีเพื่อนหนึ่งคนได้แยกทางเพื่อติดตามเพื่อน ๆ ชาวอัสสัมคงไปชมวิถีวัฒนธรรมกลุ่มคนไทในรัฐดังกล่าวหรืออย่างไรไม่ได้สอบถาม ก็ยังเหลือทีมเราอีก 8 คน มุ่งหน้าสู่เมืองอัครา รัฐยูพีที่เป็นเส้นทางผ่าน พอถึงห้างทันสมัยหน่อยพวกเราให้รถตู้คันที่รับจ้างเหมาเรานั่งมาเข้าจอดแล้ว พวกเราลงไปทานอาหารมื้อเที่ยงวันแต่ตอนนั้นมันบ่ายแก่ ๆ แล้วละ

พอพวกเราขึ้นรถตู้คันดังกล่าวอีกทีก็ตีตั๋วยาวข้ามแม่น้ำยมุนาเหลียวเห็นทัชมาฮาลอยู่ไกล ๆ แต่คนขับรถดูเหมือนไม่รู้จักเส้นทางจึงวนเวียนอยู่แถว ๆ นั้นกว่าจะเข้าไปจอดปากทางได้เล่นเอาหมดเวลาไปหลายนาที

พอพวกเราลงจากรถแล้วต้องไปต่อรถสามล้อเครื่อง ( ลิ๊กชอว์ ) หรือรถล้อที่มีอูฐลาก ต้องจ่ายคนละ30 รูปีหรือ แล้วแต่การต่อรองราคากันระหว่างคนขับกับคนนั่ง ที่จริงจ่ายคนละ 10 รูปี

ต่อจากนั้นเราจะลงเนเข้าไปซื้อตัวเข้าไปชมทัชมาฮาลอีกที ผมนำเป้ใส่โนตบุคไปด้วยเพราะไม่ไว้ใจแขก แต่ดันเจอเจ้าหน้าที่ห้ามนำเข้าไปต้องเดือดร้อนพีชายหัวหน้าทีมที่ต้องคอยดูแลดำเนินการ เรานัดกันไว้ว่าภายใน 1 ชั่วโมงใครออกมาจากการชมทัชมาฮาลแล้วให้มารออยู่ที่หน้าปากทางประตูเพื่อรวมกันไปยังรถที่จอดรออยู่ด้านนอกบริเวณ

เรื่องทัชมาฮาล เป็นสุสานหินอ่อนที่ชาวโลกเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดียผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ คือจักรพรรดิชาห์ จาฮาล พระราชสมภพในปีพ.ศ. 2135(ค.ศ. 1592) พระบิดา คือจักรพรรดิชาห์ ชหานชีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุลแห่งอินเดียตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชาย ได้พบรักกับ ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์ มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตร สาวของรัฐมนตรีพิธีอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ในปีพ.ศ. 2155(ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย


หลังจากที่พระเจ้าชาห์ จาฮาล ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปีพ.ศ. 2171พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ พระนาง มุมตัซ มาฮาล อัญมณีแห่งราชวังพระมเหสีติดตามพระองค์ แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก ครั้นในปีพ.ศ. 2174(ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์

หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีทำให้พระเจ้าชาห์ จาฮาลโศกเศร้าอยู่ถึงสองทศวรรษ ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์

ในปีพ.ศ. 2200(ค.ศ. 1657) พระเจ้าชาห์ จาฮาลทรงพระประชวร และในปีพ.ศ. 2201(ค.ศ. 1658) พระโอรส โอรังเซบ จับพระเจ้าชาห์ จาฮาลขัง และขึ้นครองราชบัลลังก์แทน พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปีพ.ศ. 2209(ค.ศ. 1666)

ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมอง เศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ

พระเจ้าชาห์ จาฮาลถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าพระเจ้าชาห์ ชหาน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล


ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนาในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวศิลาแลงประดับลวดลายเครื่องเพชรพลอยหินโมราและ เครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42เอเคอร์เป็นที่ตั้งของมัสยิดมีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม

ที่มา...http://amza2012.wordpress.comสืบค้น เมื่อ 4 ต.ค. 2556

พวกเราท่องไปในแดนดินถิ่นอนุสรณ์สถานของความรักบันลือโลกจนได้เวลาต่างคนก็เกาะกลุ่มมองหาเพื่อนเพื่อพร้อมกันต่างทยอยหวนกลับคืนมาตามที่นัดหมาย แต่เอ๊ะ...มีเพื่อนคนหนึ่งหายไปไหนของเขาน๊ะ เอาละสิ เราทุกคนต่างเป็นห่วงเพื่อนคนนี้เกรงจะหลงบ้างหรือเข้าห้องน้ำแล้วเป็นลมเพราะเห็นทานยาอยู่หรือจะแยกไปรถไฟใต้ดินไปลงเมืองนิวเดลีเพื่อรอทีมเราไปพรุ่งนี้ ผมเองหลังจากสะสมทานอาหารท้องถิ่นนั้นมามันสะสม มันเริมออกฤทธิ์เหมือนข้าศึกเข้าโจมตีท้องไส้ปั่นป่วน พอรู้ว่าเพื่อนหายไปคนหนึ่งเท่านั้นละ หายปวดท้องเลย เราช่วยกันนำเพื่อน ๆ บางส่วนไปรอที่รถและอีกบางส่วนเริ่มค้นหาผมนัดได้ว่าประมาณ 6 เที่ยวเดินไปมาระหว่างที่รถจอดกับประตูทางออกของทัชมาฮาล ไร้วี่แววเพื่อนคนนี้ พวกเราต้องไปตั้งหลักกันที่โรงแรมที่พักในเมืองอัคราแล้วโทรติดต่อสื่อสารระหว่างคนในอินเดียเพื่อตามหาเพื่อนเราคนนี้ก็ใช้เวลาสักพัก ได้ผลคือมีรถตำรวจวิ่งเข้ามาที่โรงแรมเราพักอยู่และตำรวจสองคนก็นำเพื่อนคนนี้เข้ามายังโรงแรม...โล่งอกพวกเราทุกคนโดยเฉพาะท่านผู้นำทีม และ เราได้จดจำเพื่อนเราคนนี้ได้แม่นยำทีเดียวว่าเขาเป็นใครมาจากไหน...อิ อิ อิ.

ไม่ต้องกล่าวถึงว่าค่ำคืนนั้นเราทอล์คโชว์กันด้วยเรื่องอะไร มันเป็นตำนานเล่าขานในหมู่เราไปแล้ว นี่ละทัชมาฮาลคือดินแดนอนุสรณ์สถานแห่งความรักระหว่างชายหญิงที่ยิ่งใหญ่ ทัชมาฮาลคือดินแดนแห่งคนไกลใฝ่ฝันอยากไปเห็นสักครั้งหนึ่ง และทัชมาฮาลคือดินแดนแห่งคนหลงทางเข้าแล้วแล.

หมายเลขบันทึก: 550250เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2013 21:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2013 21:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท