แวะมาอ่านบันทึกนี้ ได้สิ่งดี ดี ติดตัวกลับมา ดังนี้
มาคิดดู... ที่รู้สึกใจสลาย จวนจะขาดรอน ๆ เพราะเรายึดมั่นให้ค่ากับเจ้ากล้องสุดรักสุดวิเศษนั้น ช่างไม่รู้จักคิดว่า...มีสิ่งใดในโลกนี้เล่าที่จีรังยั่งยืน ก็ล้วนแต่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ทั้งนั้นไม่เว้นทั้งคน สัตว์ สิ่งของ เราไปหลงยึดกับสิ่งที่ไม่จีรัง...ว่ามันยั่งยืน... ก็ถูกทุกข์ขบกัดน่ะสิ
ตอนนี้รู้สึกดีเล็กๆ ว่าหากครั้งนั้นเจ้ากล้องวิเศษไม่หล่นแตกกระจายไป เราคงจะต้อง แบก มันไปอีกนาน ทั้งหนักทั้งเหนื่อย และคงไม่ได้เรียนรู้การชื่นชมภาพฝีมือคนอื่น เพราะแต่ก่อนนั้นเมื่อชมภาพของใคร ๆ ก็จะมองแบบพินิจพิจารณาว่าเขาใช้เทคนิคอะไร เปิดหน้ากล้องเท่าไร ความไวชัตเตอร์เท่าไร มันน่าจะทดแสงหน่อยนะ น่าจะจัดองค์ประกอบให้ลงตัวกว่านี้หน่อย น่าจะ......
ถึงตอนนี้ชมภาพถ่ายฝีมือคนอื่น ก็ได้ใช้ ใจ มอง จึงเห็นความงดงาม ความตั้งใจ ใส่ใจ ความสุขของคนถ่ายที่ซ่อนอยู่ในภาพนั้นเยอะแยะเลย
ดีละ...ที่เจ้ากล้องวิเศษมันหล่นหายแตกกระจายไปจากเรา... เบาใจจริง ๆ
❤(◠‿◠✿)
และคำนิยม ของอาจารย์ วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่ฝากไว้ในบันทึกนี้ ครับ
....................................................................................................................................
อ่านบันทึกนี้ ทำให้รำลึกถึง บุคคล 2 ท่านนี้ขึ้นมาจับใจ
..
ด้วยความระลึกถึง ครับ
คิดถึงเช่นกันครับ...
ขอบคุณแง่งามของความคิดนี้นะคะ
อยากสารภาพว่า " คุณหยั่งราก ฝากใบ " เป็นคนหนึ่งในจำนวนบล๊อกเกอร์หลายๆ คนที่ดิฉันคิดถึงค่ะ
แต่ท่านยังมีงานเขียนบันทึกให้คลายคิดถึงบ้าง แม้จะไม่ค่อยบ่อยเหมือนเมื่อก่อน
แต่ยังมีอีกหลายท่านที่เคยอ่านงานเขียนดีๆ แล้วก็หายไปค่ะ ..........
พี่แสงนำมาเรียบเรียงใหม่ อ่านได้ไม่เบื่อเลยค่ะ
ขอบคุณคุณแสงแห่งความดีที่เป็นกัลยาณมิตรต่อกันเสมอมาค่ะ
ด้วยความระลึกถึงเช่นกัน
แม้มีเวลาน้อยลงเพราะหลายเหตุปัจจัย แต่การได้เยือนและทักทายกัลยาณมิตรในนี้ เป็นความสุขอย่างหนึ่งค่ะ