ตั้งแต่กลายเป็นบุคคลนอกระบบโรงเรียน คือไม่ขึ้นกับสาขาใดสาขาหนึ่งในเครือ กลับต้องเข้าประชุมมากกว่าครูอื่นๆ คือเข้าทุกสาขา พบว่า ที่โรงเรียนของเรามีระบบการประชุมที่ดี น่าจะเอามาเผยแพร่กัน เพราะการประชุมบ่อยๆ ทำให้เรื่องราวต่างๆในการดำเนินงาน เป็นไปอย่างเป็นปัจจุบัน มีปัญหาอะไรแก้ได้ทันที ไม่มีการดอง ดังนั้น งานของแม่ใหญ่ ก็คือเข้าประชุม
วันจันทร์ อนุบาลไทย
วันพุธ ประถม
วันพฤหัสบดี อนุบาลอังกฤษ
และวันศุกรเนอรสรี่
วันไหนไม่อยากเข้าก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าอยากรู้อยากเห็นความเป็นไปแบบภาพรวมก็ควรไปเข้าประชุมกับเขา
วันจันทร์ ประชุมเฉพาะครูอนุบาลภาคภาษาไทยและผู้บริหารมี่โรงเรียนพัฒนาเด็กประชาสโมสร เวลา บ่ายโมงถึง สองโมงครึ่ง ครูประจำชั้นแต่ละห้องเข้าประชุมพร้อมกัน ให้ครูผู้ช่วยอยู่ดูแลห้องเรียนตอนเด็กหลับ ห้องอนุบาลสามที่ไม่นอนกลางวัน ก็จัดให้ครูพิเศษเข้าสอน เช่นครู Roxie สอนกิจกรรมเข้าจังวะเป็นภาษาอังกฤษ และครูดนตรีที่จ้างมาเป็นพิเศษอาทิตย์ละครั้ง
วาระการประชุมของอนุบาลไทยมีดังนี้
- รับรองรายงานการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว เชคเรื่องย้อนหลัง (เพื่อตรวจสอบว่า ที่คุยกันไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำกันไปหมดหรือยัง เด็กที่ขาดเรียนกลับมาครบไหม ถ้า ยังไม่มาได้โทรติดต่อหาผู้ปกครองเพื่อถามข่าวหรือเปล่า ฯลฯ)
- เรื่องแจ้งให้ทราบ ใครมีอะไรก็มาบอกกันได้ในวาระนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้บริหาร ครูท่านใดที่กำลังจะทำโครงการหรือกิจกรรมใดใด ในสัปดาห์ต่อไป ต้องการวางแผน บอกเล่าเก้าสิบ อะไร ก็ใช้วาระนี้เป็นทางสื่อสาร
- เรื่องที่กำลังลงมือปฏิบัติ การเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ กำลังทำโครงการเรื่องอะไร มีกิจกรรมที่ทำไปในสัปดาห์ที่แล้ว นำเสนอเป็น powerpoint ของแต่ละระดับ ก็จะมีแค่อนุบาล 1 อนุบาล 2 และ อนุบาล 3 นำเสนอแค่สามเรื่อง สามระดับ เพื่อให้รู้เขารู้เรา แลกเปลี่ยนเทคนิคของแต่ละห้อง สงสัยก็สอบถาม เรียนรู้กันในวาระนี้
- วาระ ห่วงใยศิษย์รัก ใครมาใครขาด ใครเป็นจอมป่วน ใครแพ้อะไร ใครไม่ทานหมู ใครพ่อแม่สั่งไม่ให้คนแปลกหน้ามารับ ฯลฯ เอารูปเด็กๆ ขึ้นจอ ให้ทุกคนในโรงเรียนได้เห็นหน้าด้วย ไม่ใช่รู้แค่ชื่อ แต่ไม่รู้ ว่าคนไหน เป็นครูอนุบาล ต้องรู้จักเด็กทั้งโรงเรียนไม่ใช่แค่ในห้องตนเอง เพราะมันมีเวลาที่จะต้องดูแลเด็กห้องอื่นด้วย เช่นเวลาเป็นเวรรับส่ง หรือการเห็นเด็กเดินออกมาจากห้องใดห้องหนึ่งต้องพาเขากลับห้องได้ ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลย ต้องหูไวตาไว
- เรื่องอื่นๆ(ถ้ามี) วาระนี้มักจะเป็นการพูดคุยกันสัพเพเหระ เพราะการประชุมเราไม่เคร่งเครียด ไม่ใช่เป็นแบบหัวหน้าพูดอยู่คนเดียว ประธานและคนจดบันทึกก็เวียนกันเป็น ช่วยกันทำ powerpoint ผลัดกันนำเสนอ การประชุมนี้จึงมีผลพลอยได้ คือ ฝึกให้ครูกล้าพูดกล้าแสดงออก รู้จักสรุปงานในรูปของแบบเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ทำให้การประชุมไม่น่าเบื่อและเยิ่นเย้อ และไม่ตกเทรนด์
วันนี้ขอเขียนแค่ประชุมวันจันทร์ก่อน เดี๋ยววันหลังจะมาต่อเรื่องการประชุมแผนกอื่นๆ และการประชุมใหญ่ประจำเดือน ซึ่งก็มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างขึ้นอยู่กับเนื้อหาและสมาชิกจากแต่ละแผนกนั่นเอง