OCOP กับ OPOP คล้ายแต่ไม่เหมือน


การเรียนการสอนแบบโครงการ ทำให้เด็กสนุกได้เรียนรู้ที่หลากหลาย

เขียนไปเมื่อบันทึกที่แล้วเกี่ยวกับกิจกรรม OCOP ของอนุบาลภาคภาษาอังกฤษ   วันนี้มาถึง กิจกรรม OPOP ของภาคภาษาไทยบ้าง   แรกเริ่มเดิมทีก็จัดด้วยกัน  แต่พอแยกโรงเรียน  อนุบาลไทยจึงใช้  One project one product แทนเพื่อให้เข้ากับการเรียนการสอนของอนุบาลไทย

อนุบาลไทยของเรามีการเรียนการสอนแบบโครงการมานานนับสิบปีแล้ว  ซึ่งมีขั้นตอนที่จะสรุปได้ง่ายๆคือ

  1. ขั้นที่ หนึ่ง  เด็กๆจะเลือกหัวข้อที่จะเรียนเอง  เราเรียกว่าขั้นนี้ว่า "หนูอยากรู้" มีการให้เด็กๆ เสนอชื่อเรื่อง  แล้วมีการล๊อบบี้พูดชักชวน เพื่อให้เพื่อนเลือกเรื่องที่ตนเสนอ  แล้วมีการโหวตลงคะแนนว่าเรื่องไหน จะเป็นเรื่องที่จะเรียนร่วมกัน
  2. ขั้นที่สอง  เป็นขั้นตอนการแยกแยะว่า  ในหัวข้อมี่โหวตชนะนั้น "อะไรที่รู้แล้ว"  และ "อยากรู้อะไร"  เพิ่มเติมอีก ครูจะเขียนหัวข้อย่อย ที่เด็กอยากรู้เพิ่ม  แล้วนำมาเรียนกันทีละหัวข้อ
  3. ขั้นที่สาม คือ "ค้นคว้าหาคำตอบ "  กิจกรรมในขั้นนี้ กินเวลายาวนาน เท่าที่เด็กยังสนใจ  มีการตั้งำถามไปถามผู้ปกครอง  มีการทัศนศึกษา ทดลอง  มีการค้นดูเนื้อหาจากวิดิโอและยูทูป โดยครูจะเป็นผู้คิดกิจกรรมเพื่อร่วมกันหาคำตอบกับเด็ก  และบันทึกเอาไว้
  4. สรุปและนำเสนอ  ด้วยรูปแบบต่างๆเช่นเป็นการสร้างผลงาน  การเล่าประสบการณ์ การวาด การปั้น ออกมาเป็นงานศิลปะ  การนำเสนอ และออกมาในรูปการแสดง

และวัน OPOP นี้ก็คือส่วนสุดท้ายของขั้นตอนที่  4 ดังกล่าวมาแล้ว วันนี้จะมีผู้ปกครองมาชมผลงานแยะมาก เพราะในการดำเนินการเรียนการสอนที่ผ่านมา ผู้ปกครองมีส่วนในการ ตอบคำถามที่ลูกๆไปถาม  บางคนส่งหนังสือที่เกี่ยวกับเนื้อหามาให้  บางคนมาเป็นวิทยากรให้แก่และลูกเพื่อนๆ  ปีนี้ เด็กนักเรียน  7 ห้องเลือกเรียนโครงการต่างกัน

  • ห้อง 1/1 เรียนเรื่อง"แตงโม" 
  • ห้อง 1/2 เรียนเรื่อง "เต่า"
  • ห้อง 1/3 เรียนเรื่อง "ผลไม้"
  • ห้อง 2/1 เรียนเรื่อง "นาฬิกา"
  • ห้อง 2/2 เรียนเรื่อง "ปลา"
  • ห้อง 3 /1 เรียนเรื่อง "รถยนต์"
  • ห้อง 3/2 เรียนเรื่อง "งูจงอาง"

ดังนั้น กิจกรรมวันนี้ จึงหลากหลายออกไป  กลุ่มอนุบาลหนึ่ง ยังไม่สามารถนำเสนอออกมาเป็นคำพูดได้เหมือนพี่อนุบาลสองและสาม  ผลงานจึงออกมาเป็นรูปองสินค้า และการแสดง  แต่พี่อนุบาลสองสามนั้น  พร้อมที่จะนำเสนอ ตอบคำถามถึงสิ่งที่เรียนรู้  และก็มีผลงานออกมาประกอบด้วย  บางห้องก็มีการแสดงประกอบด้วย   อย่างห้อง 3/2 ที่เรียนเรื่อง งูจงอางนั้นถึงกับมาแสดงการชกกับงูจงอางให้ดู  จนแม่ใหญ่ต้องบอกให้คุณครูเน้นๆกับนักเรียนตั้งแต่เริ่มเรียนโครงการนี้ว่า  เรื่องงูเป็นเรื่องอันตรายนะ  สิ่งที่เห็นเป็นความสามารถเฉพาะตัวเท่านั้น ห้ามลอกเลียนโดยเด็ดขาด

รูปต่อไปนี้เป็นรูปส่วนน้อยจากงานที่เพิ่งจบไปในวันนี้  ถ้าใครสนใจอยากดูรูปทั้งหมดก็ติดตามได้จากลิงค์ต่อไปนี้ ค่ะ

 https://www.facebook.com/#!/prin3030/media_set?set=a.10201344680092411.1073742045.1635699677&type=1

https://www.facebook.com/prin3030/media_set?set=a.10201344597850355.1073742043.1635699677&type=3

https://www.facebook.com/prin3030/media_set?set=a.10201344597850355.1073742043.1635699677&type=3#!/prin3030/media_set?set=a.10201344532488721.1073742041.1635699677&type=3

รูปสุดท้ายอย่าเพิ่งตกใจนะคะ  ดูให้ดีดี

หมายเลขบันทึก: 549383เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2013 17:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน 2013 18:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ฝีมือและความสามารถของเด็กๆน่ารักนะคะ...

 

   น่ารักม๊ากๆๆ เลยค่ะ 

 

 

เด็กๆๆน่ารัก

ภาพสุดท้าน งูปลอมนะครับ

งูปลอมค่ะ อาจารย์ขจิต ตอนเด็กเลือกเรื่องนี้ ครูพยายามชักจูงให้เลือกเรื่องอื่นๆแต่เด็ๆไม่ยอมค่ะ คงจะเป็นเพราะขอนแก่นมีหมู้บ้านงครูเลยต้องยอมเด็ก  แต่ได้ใส่เรื่องอันตรายและการระมัดระวังตลอดโครงการ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท