"หล่อน"...เกิด..มา..หลังสงครามเลิก..พอดี...มันเป็น..ตอนต้นๆ..ยุค ที่เรียกว่า.."สมัยใหม่"...กรุงเทพ..หรือเรียกกัน..ตามตัว อักษร..ว่า..เมืองเทวดา...เมืองๆนี้..แต่ก่อน..มี..คู มีคลอง..มีสวน..มี..นา..มี ช้าง ม้า.วัว ควาย..ถนนหนทาง..ร่มรื่น..ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่ให้ "ร่ม"..คือ..ต้น ..จามจุรี....(ธรรมชาติ..วันนี้..คูคลอง..หายไป..เขา..ทำเป็น..ถนน.ใส่..ท่อน้ำ..ระบายน้ำ ที่เดิมเป็นคลอง..ด้วย..ท่อ..ไม่ถึงเจ็ดสิบเซนต์..ตามแบบให้ไว้..เมตรครึ่ง..สมัยนั้น..หายไปครึ่ง.."เขาเรียก..กันสมัยนั้นว่า..ท่อ.........................เดอเกรมองค์."..)..คลองธรรมชาติ..เดิม..ขุดไว้..กว้างกว่าสี่เมตร...น้ำ..ก็แสนจะสะอาด..ลงไปเล่นอาบได้..ไม่แขยงตัว..)..สมัยนั้น..เรือพาย..เรือยนต์..แล่น..ขนส่ง..จราจรทางน้ำ..ไปได้ทั่วถึง..ไม่ต้องนั่งเรือ..แล้ว..ต้องอุดจมูกไปด้วย..แบบคลองแสบแสน..สมัยนี้....แถม..เวลาน้ำมา..ต้อง พายเรือ..บน ถนน..เพราะ..ความสมัยใหม่..ที่ต้องถอยหลัง..เข้าคลอง..
บน ถนนสมัยนั้น "การเดินทาง"...นั้นแสน..จะ สดวก.ดาย..มี..รถม้า..และ..รถ ลาก..ด้วยคน..สมัยนั้น.เรียกกันว่า.."รถเจ้ก"..อันแสน..จะ..โรแมนติค..ถ้า..จะเทียบกันไป..กับ..สมัยใหม่..ตอน..ปลาย..ของฝรั่ง..ที่.."หันมา ทำสามล้อ..ไว้ขี่..ให้นักท่องเที่ยว..ที่."ขี้เกียจเดิน"..แต่..ที่เมืองเทวดาเลิกใช้..กัน..รถสามล้อในยุคใหม่สมัยใหม่..กลายเป็น..รถตุ้กๆใช้เครื่อง..ที่พ่น..ไอเสีย..ให้..ดมกันเป็นว่าเล่น..(จน..เป็นโรค..รมควัน..ไปตามๆกัน..ตราบจนทุกวันนี้..(มันเป็น..ธรรมชาติ..ที่..คน..อยาก..สมัยใหม่.ต้องทน..เพราะ..อยาก..ทันสมัยที่มีโรค..รถ..ติด..เป็น..โรค..ประจำตัว.."ดู โก้ ดี"..)..
..เมื่อเมืองที่ยังไม่ทันสมัย..จึงมี..การแลกเปลี่ยน..ที่เรียกว่า.."หมูไป..ไก่มา"..เดี๋ยว..นี้.."หมูไป..ไก่ไม่มา..".เพราะ.ดอกเบี้ยเงินกู้..มันสูง...เพราะความ....ทันสมัย..
"..เขียน..มาถึง..ตรงนี้...ชัก..งงๆ...ว่า..เอ..เกิดเป็นคน..ในสมัย..ใหม่.ทันสมัย.จริง..รึเปล่าเนี่ยะ..."..
..."หล่อน"..คนึง....มาให้ รู้ กัน..ใน..โกทูโน...
เกิดไม่ทันครับยายธี
แต่เข้าใจว่าคงร่มรื่นมากกว่าปัจจุบัน
เอาผักที่ไปปลูกกับนักเรียนมาฝากครับ
ทำเป็นอาหารกลางวันได้เลย
...ทันได้นั่งรถไฟจากหน้ากรมตำรวจปทุมวันไปสนามกีฬาแห่งชาติ...ไปสพานพุทธยอดฟ้า...พ่อพาเดินบ้างอุ้มบ้างข้ามสะพานไปวัดพิชัยญาติเพื่อนมัสการเยี่ยมเยียนน้องของปู่ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส...มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยากว้างใหญ่ และสวยงามมากๆค่ะ...
สวัสดีค่ะ..อาจารย์ ขจิต..มีโปรเจ็คหนึ่งใน..อาฟริกา ชื่อ songhai เป็น โครงการครบวงจร..เขาเลี้ยงหนอนไว้ให้ ปลากิน..โอ้โห..ปลา..ดุก..ตัวโต..เชียว..ขี้หมูเหลือจากทำแก้ส..หุงต้มเป็นปุ๋ยผ่านสวนผัก..ปลูกสลับกับข้าวผลิตผลเพิ่มจากสามกิโลเป็นสามตัน..
โจน จันใด เป็นบุคคลหนึ่งที่น่าสนใจ..วิถี..ความคิดและความเป็นอยู่ที่ควรยกย่องและเอาอย่าง..
อาจารย์เกิดไม่ทันก็ดี..ไม่มี..สิ่งเปรียบเทียบ..อิอิ...เมื่อก่อนเรา..พูดภาษาอังกฤษไม่ได้..เดี๋ยวนี้..พูดได้..อาจดีกว่า..ฝรั่ง..แต่เราก็เป็นฝรั่งไม่ได้อยู่ดี...
..กำลังดูหนังเกี่ยวกับ..อินเดีย..เห็น..ลิงอยู่ในเมืองกับคน..ไต่สายไฟฟ้า..มีลูกโหนอยู่กับ..อก.อุ้มกัน.พะรุงพะรัง..ข้ามถนน..ลิงสมัยใหม่..อ้ะะๆ...
This ...มีโปรเจ็คหนึ่งใน..อาฟริกา ชื่อ songhai เป็น โครงการครบวงจร..เขาเลี้ยงหนอนไว้ให้ ปลากิน..โอ้โห..ปลา..ดุก..ตัวโต..เชียว... reminds me of a school (in Lopburi Thailand) project a few yeas back. I did a translation (Thai to English) of โครงงาน จากบันทึกของ อาจารย์กลิ่น สระทองเนียม http://www.vcharkarn.com/vcafe/144138. The theme is exactly the same. If we can have the dates of those projects, we may give credits to them appropriately.
Anyway, I hnow who stole my past. Do you know who stole your past?
How are you Sr.....อดีตเป็นกาล..ผ่านไปเถิด....(ใคร..ขโมย..อะไร..ใคร..ก็ "ชั่งหัว มัน"...)..ปัจจุบัน..อยู่กะ..ตัว..กลัว..อะไร.."เอามันไว้ ไม่อยู่..หลอกๆ"...เพราะ..ประเดี๋ยว..เดียว..มันก็ผ่านไป..อ้ะะๆๆๆ..เหมือน.."คน..นุ่ง..กางเกง..ลิง"
...Anyway..... I know who stole my past. Do you know who stole my future....ÄÄÄÄÄ.....
..... "หมูไป..ไก่ไม่มา.." ....ชอบตรงนี้...ที่ยายธีเขียนจังเลย .... เด็กสมัยใหม่ ....แปล..คำไทย/สำนวลไทย...อาจจะไม่เป็นแล้วนะคะ...
ยายธี สบายดีนะคะ
สวัสดี..ค่ะ..คุณหมอเปิ้ล...ขอบคุณค่ะ..ยายธีก็สบายแบบ..คนแก่ๆ..น่ะค่ะ...(เด็กสมัย..นี้.(.เค้่า..ตัว)..พูด..ภาษา..คนละ..ภาษากับ.(.คนสมัยใหม่..ตกรุ่น..อย่างยายธี..อิอิ.)."บางทีได้ยิน..ต้อง ถามหลาน..ว่า..เขาหมาย..ความว่า..อย่างไร..บางที..อาจจะ..ได้..คำตอบ..กลับมาว่า.."ถาม..ลุง กู(เกิ้ล)..แกดู..แหะๆ.".)...สำนวน..ที่ใช้..กัน...ได้ยินอยู่เสมอ.............................อังกิดๆ..ไม่ใช่..อังกฤษ..เสียแล้ว...อ้ะะ..(แถม..สำเนียงที่ใช้..ก็..คงจะเป็น..แบบไปอยู่ต่างประเทศมา..หลายอาทิตย์หน่อยๆ..น่ะ..เจ้าค่ะ...(แอบคิด..ยายธี)..
สวัสดีค่ะ..ดร. พจนา แย้มนัยนา..สงสัยว่า..เรา..อาจจะ อยู่เกือบสมัยเดียวกัน..หรือไม่..ห่างกันไม่กี่ปี..เป็นเด็ก..แถวๆ..ปทุมวัน..เหมือนกันจ้ะ..โรงเรียนเลิก..นั่งรถ เมล์.ขาว.นายเลิศ..ไปกิน..ก๋วยเตี๋ยว..วัด..ดง ที่ประตูน้ำ..แล้ว..ถึงจะกลับ..บ้าน..(สมัยนั้น..ก็เรียกว่า..หนี..เที่ยว..ซ้ะ..ก่อน..จะกลับบ้าน)...ดู..กีฬา..ที่..สนาม..ศุภชลาสัย..เดินกลับบ้าน..ที่อยู่ตรอก..สลักหิน...(ก่อนเป็นสลัม)...จำได้ว่า..น้ำท่วม..กรุงครั้งหนึ่งตอนเป็นเด็กมากๆ..จำได้ว่า..ขี่คอ..ตา..(โอ้ค)..แกพาลุยน้ำ..ทุลักทุเล..เหมือนกัน..เจ้าค่ะ...(ยายธี)
เฮอ!...พูดไปแล้วแถวบ้านผู้เฒ่ามีแนวโน้มที่จะก้าวตามไปในลักษณะนี้ทุกวันๆ นะครับ...ยายธี...
เมื่อตอนเด็กๆคุณแม่ชอบเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศเก่าๆ ผ่านไปทางไหนแม่ก็จะชี้ให้ดูว่าตรงนั้นตรงนี้เมื่อก่อนเป็นเช่นไร ก็จะมโนภาพไปว่ามันคงจะสวย และเป็นธรรมชาติมากเช่นคลองหลังบ้านที่มีดอกบัวสีชมพู สีขาว ดอกผักตบสีม่วงบานอยู่ท่ามกลางหมอกจางๆในเช้ารุ่งของหน้าหนาว แต่ทุกวันนี้ไม่ีอีกแล้ว คุณยายธี