ค่า EER บอกประสิทธิภาพเครื่องปรับอากาศ


EER (Energy Efficiency Ratio) หรืออัตราส่วนประสิทธิภาพพลังงานของเครื่องปรับอากาศ คือค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศว่าดีหรือไม่ อย่างไร มีหน่วยเป็น (Btu/hr.)/W ดูจากหน่วยของค่า EER นี้แล้วก็คงเข้าใจได้โดยง่ายว่าค่า EER นั้นก็คืออัตราส่วนของความเย็นที่เครื่องปรับอากาศสามารถทำได้จริง (Output) กับกำลังไฟฟ้าที่เครื่องปรับอากาศนั้นต้องใช้ในการทำความเย็น (Input) เครื่องปรับอากาศที่มีค่า EER ยิ่งสูงก็แสดงว่า เครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นยิ่งมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้น

ดังนั้นถ้าเครื่องปรับอากาศ 12000 Btu/1142.86 W จะมีค่า EER เท่ากับ 10.5 ถ้าค่า EER สูงนั้นแสดงว่าเครื่องปรับอากาศนั้นมีประสิธิภาพในการใช้พลังงานที่ดีนั้นคือเครื่องปรับอากาศก็จะประหยัดไฟได้ดี  โดยทั่วไปเครื่องปรับอากาศมักจะบอกขนาดเป็นบีทียูต่อชั่วโมง (Btu/hr.) แต่ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเรียกสั้นๆ ว่าบีทียู Btu เป็นคำย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า   British  thermal   units "ความหมายของ  1  บีทียู ก็คือ ปริมาณความร้อนที่เพิ่มอุณหภูมิของน้ำ 1 ปอนด์ (0.45  กิโลกรัม) อณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาฟาเรนไฮต์  (0.56 องศาเซลเซียส) ในเวลา 1 ชั่วโมง" british thermal unit per hour (btu/hr) หมายถึง the amount of heat required to raise one pound of water by one degree fahrenheit in one hour. 1  บีทียู  เท่ากับ   1,055  จูล หน่วย  12,000  บีทียู/ชั่วโมง มักจะเรียกว่า  1  ตันทำความเย็น ซึ่งจะหมายถึงว่าปริมาณความร้อนที่สามารถละลายน้ำแข็งหนัก 1 ตันให้ละลายเป็นน้ำได้หมดในเวลา 1 ชั่วโมง โดยทั่วไป ในเนื้อที่  1 ตารางฟุต  ดึงความร้อนออกประมาณ  30  บีทียู  ดังนั้นเนื้อที่ประมาณ  2000  ตารางฟุต  (185.5  ตารางเมตร)  ต้องใช้เครื่องปรับอากาศขนาด  60,000  บีทียูหรือขนาด 5 ตันทำความเย็น อย่างไรก็ตามเป็นการคำนวณคร่าว ๆ  เพราะจะต้องรวมของที่อยู่ในห้อง จำนวนคน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

**หมายเหตุ

มาตราฐาน มอก.2134-2545      คือ      EER 9.6

เบอร์ 5 ปี 2005                    คือ      EER 10.6

เบอร์ 5 ปี 2006                    คือ      EER 11.0

เบอร์ 5 Premium ปี 2006       คือ      EER 11.5   

 

เบอร์ 5 Premium ปี 2006       คือ      EER 11.5

-------------------------------

ที่มา :

http://khemmanan.igetweb.com/?mo=3&art=114672

http://www.carrier.co.th/knowledge/tips_1.asp

หมายเลขบันทึก: 548222เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2013 06:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน 2013 06:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท