ขออภัย..กระทรวงศึกษา กำลังบ้าไปกันใหญ่แล้ว


ท่านผู้อ่านครับ..อย่าคิดว่าผมได้ใจ หรือได้กำลังใจจากรางวัลสุดคะนึง หรือรางวัลบริหารจัดการยอดเยี่ยมระดับเขตฯเลยนะครับ เพียงแค่คิดว่าเรื่องราวการศึกษา.เราต้องรับรู้และทำความเข้าใจให้ตรงกัน เมื่อก่อน..เอาแค่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็พอ เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว ทุกคน ทุกภาคส่วนต้องเข้ามาร่วมมีบทบาท ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง..เราลงทุนเพื่อการศึกษาเยอะมาก เงินภาษี(อาน)ของพวกเราทั้งนั้น

คืองี้ การที่ประเทศไทยติดบ๊วยอาเซียน จาก ๘ ประเทศ เราได้ที่ ๘  จริงๆก็ได้ที่ ๑๐ นั่นแหละ ถ้านับรวมลาว พม่า ด้วย คราวนี้..พอข่าวแพร่สะพัด หลายคนหลายฝ่ายตกใจ โดยเฉพาะ รมต. ตื่นตระหนกกว่าเพื่อน ถ้าไม่ทำอะไรก็จะเสียหน้า เพราะเพิ่งมานั่งเก้าอี้ใหม่ๆ ก็ต้องฉับไวกันหน่อย สั่งนักวิชาการสพฐ. สะแกน สมองเด็ก ด้านภาษาไทย ป.๓ และ ป.๖(ด้วยแบบทดสอบโน่น นี่ นั่น) ให้เสร็จภายในกันยายน ๒๕๕๖ ตอนนี้ วิ่งวุ่นกันไปทุกเขต ศน.ประชุม/ เรียกครูประชุม /แจ้งขอข้อมูลนักเรียนและครู

การจัดอันดับ "คุณภาพ" ผลสัมฤทธฺิ์ทางการเรียนเด็กไทย เป็นแค่ปัจจัย หรือตัวแปรตามตัวหนึ่งเท่านั้น สถาบัน(อะไรไม่รู้) เขาดูที่การบริหารจัดการ เขาดูที่ต้นทุนผลผลิตเพราะเขามองแล้วเห็นว่าเราจัดการศึกษาแบบไม่คุ้มค่า เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน แบบนั้นแหละ

ประเทศเขมร เวียดนาม ลาว พม่า เขาลงทุน ๑๐๐ บาท เขาได้ผล ๑๕๐ บาท อาจเนื่องมาจากระบอบการปกครอง การเมือง ระบบการศึกษาและพื้นฐานประเทศ ส่วนเราลงทุน ๓๐๐ บาท ผลลัพธ์ได้ ๖๐ บาท เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมชี้ให้เห็นชัดๆ เป็นเพราะอะไรพวกเราก็รู้ๆกันอยู่

บางท่านอาจนึกไม่ถึง ว่าลงทุนสูงจริงหรือ ตามผมไปเลยนะครับ ว่าหมดไปกับค่าอะไรบ้าง ...เงินเดือนครู(สูงมาก) ค่าวิทยะฐานะ (ได้ค่อนข้างง่าย ไม่ให้ครูประท้วง) นโยบายเรียนฟรี /โครงการประชุมอบรมสัมมนาตามโรงแรมหรู/ ศึกษาดูงานต่างประเทศ (ของผู้บริหารระดับสูงมาก ที่อายุ ๕๙ - ๖๐ปี ประเภทว่าจะให้กำลังใจกัน ว่าทำงานมานาน มีคุณูปการมามาก ก็น่าจะเรียกว่าไปพักผ่อน เพราะกลับมาก็ทำอะไรไม่ไหวแล้ว ผิดกับประเทศชั้นนำ เขาจะให้คนอายุ ๓๕ - ๔๕ ปี ไปดูงาน จะได้กลับมาสร้างบ้านสร้างเมือง อนิจจา)

หมดไปกับแท็บเล็ต..เรื่องนี้ต้องคุยกันยาว ท่านผู้อ่านทราบแล้วจะหนาว สั้นๆก็คือ จะให้ ป.๖ และ ม ๑ อีกแล้ว (ตรงนี้เราเห็นด้วย) แต่ตอนนี้ถึง ป.๒  แต่แท๊บเล็ตยังไม่ถึงโรงเรียนเลย  แบ่งกันใช้กับ ป.๑ ไปก่อน ...แม่เจ้า

หมดไปกับ การสร้างเอกสาร ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ของกระบวนการประเมินแบบรวมมิตร ของ สมศ. และ งบประมาณมหาศาลกับการทดสอบทางการศึกษาของ สทศ. ป.๓ ป.๖ และม.๓ ที่ตกต่ำมา ๑๐ ปี แต่ไม่รู้เอาผลไปทำอะไร สอบกันได้ทุกปี หมดค่าออกข้อสอบ คนคุมสอบและค่าประมวลผล มากมาย

เอาแค่นี้ก่อน..จริงๆปลีกย่อย..หมดไปกับการลงทุน จิปาถะ อันนี้บางอย่างเราก็ไม่ได้ว่าอะไร มีความจำเป็น แต่ถามว่า...ในอาเซียน..ประเทศไหน เขาทำอย่างเราบ้าง

ที่ผมเจ็บใจก็คือ...ขอข้อมูลเด็กและครู เพื่อเตรียมทดสอบพื้นฐานภาษาไทย และตั้งกรรมการคุมสอบ และคิดว่า ก็คงเตรียมประชุมอบรมสัมมนาครูอีกนั่นแหละ แต่ข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อเดือนที่แล้ว สพฐ. ให้เขตรายงาน ข้อมูลเด็กจากทุกโรงเรียนที่อ่านคล่องเขียนคล่อง และอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มีกี่คน ขอชื่อด้วยและให้บอกว่าเป็นเพราะอะไร /เมื่อปีที่แล้ว เทอมที่ ๒ ก็มีเรื่องแบบนี้ แถมให้โรงเรียนรายงานด้วยว่า "แล้วโรงเรียนแก้ไขอย่างไร"

เมื่อข้อมูลมีอยู่อย่างเป็นปัจจุบันเช่นนี้ ถามว่า ทำไมต้องขอกันอีกให้วุ่น ทำไมไม่บูรณาการข้อมูล ที่สำคัญก็คือ โรงเรียนส่วนใหญ่ ครูเพิ่งเสร็จสิ้นการอบรมสัมมนาโรงเรียนเขาได้ตั้งหลักสอนหนังสือกันแล้วหรือยัง...โรงเรียนบนดอย โรงเรียนภาคใต้ เขาพร้อมแค่ไหน และจะรีบทำไปไหน..เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วหรือ

จริงๆ ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ปรับทุกข์ผูกมิตร จับเข่าคุยกันให้ดีก่อน ก็น่าจะดี คิดอะไรไม่ออก สุ่มตรวจ คิดอะไรไม่ออกแต่ละครั้ง เดือดร้อนครูทุกทีเลย..

ทำรั้วสวนสมุนไพร แบบพอเพียง เพื่อการเรียนรู้แบบยั่งยืน จ่ายค่าแรงแล้ว ค่าวัสดุอุปกรณ์ติดทางร้านไว้ก่อน สิ้นเดือนเงินเดือนออกค่อยจ่าย...เป็นผู้บริหารโรงเรียนเล็กต้องใจใหญ่

หมายเลขบันทึก: 547961เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2013 14:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กันยายน 2013 14:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

เพิ่งทราบว่า สพฐ เก็บข้อมูลละเอียดมากเลยนะคะ

"เมื่อเดือนที่แล้ว สพฐ. ให้เขตรายงาน ข้อมูลเด็กจากทุกโรงเรียนที่อ่านคล่องเขียนคล่อง และอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มีกี่คน ขอชื่อด้วยและให้บอกว่าเป็นเพราะอะไร /เมื่อปีที่แล้ว เทอมที่ ๒ ก็มีเรื่องแบบนี้ แถมให้โรงเรียนรายงานด้วยว่า "แล้วโรงเรียนแก้ไขอย่างไร"

ที่ผมเจ็บใจก็คือ...ขอข้อมูลเด็กและครู เพื่อเตรียมทดสอบพื้นฐานภาษาไทย และตั้งกรรมการคุมสอบ และคิดว่า ก็คงเตรียมประชุมอบรมสัมมนาครูอีกนั่นแหละ แต่ข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อเดือนที่แล้ว สพฐ. ให้เขตรายงาน ข้อมูลเด็กจากทุกโรงเรียนที่อ่าน---------

เมื่อข้อมูลมีอยู่อย่างเป็นปัจจุบันเช่นนี้ ถามว่า ทำไมต้องขอกันอีกให้วุ่น ทำไมไม่บูรณาการข้อมูล -----

 

โรคนี้แก้ไม่หาย เป็นทุกกรมกองใน ศธ. เมื่อก่อน GD รับผิดชอบเรื่องแผนงาน สถิติข้อมูลก็จะคลั่งตายกับการไม่ประสานข้อมูลกันของหน่วยเหนือ

ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจนั่งโต๊ะติด ๆกันก็ได้เพราะเข้าไปข้างในเห็นเขานั่งอัดเป็นปลา

กระป๋อง ขอซ้ำซ้อนอยู่นั่นเอง  

 

 

-สวัสดีครับ...

-การศึกษาไทย..น่าคิดๆ ๆ .

-ขอบคุณครับ..

คุณครูมะเดื่อ อย่าเครียดสิ  เดี๋ยวผมหยุดเขียนบันทึกนะ พวกเรา เป็น "ครู" ธรรมดา ไม่มีตำแหน่งใหญ่โตอะไร พุดไป เจ้านายเขาไม่ฟังหรอก แต่เป็นเรื่องจริงในระดับปฏิบัติการ ผู้ปกครองและบุคคลทั่วไปควรได้รับรู้ และเชื่อว่า "ปัญหา"ต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้ อย่างน้อย ก็เป็นประวัติศาสตร์ ข้อมูล"ต้นตอของสาเหตุมาจากอะไร" ผมเขียนแล้ว ไม่เครียดนะ สนุกกับงานมากขึ้นด้วยซ้ำ

  • เรียน กศน จบเร็วครับ
  • ๘ หรือ ๙ เดือน จบ ม.๖
  • เห็นป้ายใหญ่ ข้างทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ ผอ.

ผมอ่านบันทึกของอาจารย์หลายๆท่าน รู้สึกชื่นชมในการเรียนการสอน เด็กๆดูสนุกและเข้าถึงกับการเรียนรู้มากกว่ายุคผมเป็นไหนๆ

ไม่เห็นจะแคร์ตัวเลขอันดับนั้นเลย หากเด็กๆโตขึ้นจะเป็นคนดี มีอยู่แบบพอเพียง

ไม่ต้องไปดิ้นรนตามทุนนิยมให้เครียดอย่างทุกวันนี้

สักวันเราต้องทำได้

หากไม่มีนักการเมืองอย่างทุกวันนี้

อ้าว...เฮ้อ

เครียดจนได้ 555

ผลาญงบแล้วไม่คุ้มค่า = ผลาญชาติ ;)...

............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ท้ายที่สุดก็จบลงที่ตัวเราครับ

จริงครับท่าน ผอ. เราเก็บข้อมูลกันทั้งปีและซ้ำซาก แล้วไม่เคยนำข้อมูลไปใช้ (ไม่คุ้มค่า)  เก็บแต่ละครั้งก็เดือดร้อนครู เดือดร้อน ศน.นั่นแหละ การพัฒนาก็เน้นอบรมๆๆๆๆ แล้วก็ประเมินๆๆๆๆๆ ไปไม่ถึงตัวเด็กซักที ผมเองก็ปลงๆอยู่เหมือนกัน

  • เกาถูกที่คัน ดีจังครับ ผอ
  • กำลังแพร่ระบาดเข้าองค์กร/หน่วยอื่นมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่องค์กรของครู.....
  • ไม่รู้ว่า..จะแก้จะรักษา ถูกตรงที่คัน หรือถูกข้างๆคูๆ ขอบๆ ที่คัน อย่างที่เห็นและเป็นอยู่.....

ผม ทำงานการศึกษา อยู่นอก ศธ.
สัปดาห์ที่แล้วไปร่วมประชุมสัมมนา กับ สป.ศธ.
เรื่องการส่งข้อมูลการศึกษา
..
โรงเรียนผม เฉพาะทาง ระดับ ม.ปลาย
ส่งข้อมูล ให้ สพฐ. , สป. , สกศ.
ส่งทุกที่ ข้อมูลคล้ายๆกัน

.
สอบถามว่า ทำไมให้ส่งหลายที่ ทำไมให้ส่งเยอะ
ทำไม ไม่ให้ส่งที่เดียว ฐานข้อมูลเดียว แล้วใช้ร่วมกัน ....ไม่ได้คำตอบ
..
ประโยคหลักที่ผมถาม แต่ไม่มีใครให้คำตอบ
"ส่งข้อมูลนักเรียน ครู มากมาย แล้วนำไปเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษา อย่างไรบ้าง"....
เลยเสนอไปว่า
"ถ้าตอบได้ ให้ตอบทุกสถานศึกษา ใน ศธ. ได้ทราบด้วยว่า จำเป็นอะไรอย่างไร ถึงต้องทำ"
"ถ้ามันไม่จำเป็นอะไร ผมว่า มันสร้างภาระให้สถานศึกษา"
..
จากการสัมมนา สถานศึกษาแทบทุกแห่ง นอก ศธ.ไม่มีปัญหาการส่ง
ปัญหา รับส่ง ใน ศธ. ล้วนๆ
..
แค่เรื่อง ส่งข้อมูล ยังไม่กระจ่าง
เรื่องอื่น ยังอีกเพียบ
..
แวะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ

อ่าน เรื่องราวที่ท่านนำเสนอ

และ อ่าน ทุกความคิดเห็น

- อึ้ง - ทึ่ง -เสียว.....เฮ้อ...เฮ้อ....

...ขอให้ "สยามประเทศ"  จงเจริญ..

คม ชัด ลึก จริงๆค่ะ ขอให้บันทึกต่อไป เพราะเรื่องแบบนี้ต้องประสบการณ์ตรงแบบนี้แหละค่ะ ชัดเจนดี

เรียนท่าน ผอ.คนเก่ง

    ที่คุณมะเดื่อบอกว่า " เครียด" นั้น ก็เครียดจริง ๆ ไม่ใช่จากบันทึกของ ผอ.หรอก 

แต่จากสารพัด  สารพันปัญหาของการศึกษา ทั้งใกล้ตัว  และไกลตัว ในชีวิตราชการ

หลายทศวรรษของคุณมะเดื่อ จะเรียกว่าผ่านมาหลายยุคแล้วก็ว่าได้...ไม่เคยเห็นว่า

มีกระทรวงใดใช้รัฐมนตรีเปลืองเท่ากับ กระทรวงศึกษาธิการ และไม่เคยเห็นกระทรวงใด

มี " กองขยะโครงการ " ใหญ่โตมโหฬารเท่ากระทรวงนี้อีกเช่นกัน...

   ท่านเขียนความจริงแบบนี้น่ะดีแล้ว  ท่านเขียนแล้วมีกำลังใจมากขึ้น ก็ดีที่สุดแล้ว

เขียนต่อไปเถอะอย่าหยุดเขียนเลย   อีกหลาย ๆ คนที่เขาคิดอย่างท่านก็ยังอยากจะ

อ่านอีกต่อไป

   สำหรับคุณมะเดื่อ ขอติดปีกความคิดอย่างอิสระ โบยบินหนีปัญหาการศึกษาเมืองไทย

ให้คลายเครียดไปอย่างนี้ละกันนะท่านผอ.คนเก่ง  เดินหน้าต่อไปจ้ะ ต้องยืนบนจุดยืน

ของตัวเองอย่างมั่นคงต่อไปนะ  สู้ ๆ ท่าน

ผอ ยังโชคดี

นะครับ บางที่ สพฐ ขอ ต่อไปเขตขอ บางทีเอกสารอันเดียวกัน

ขอสองถึงสามครั้ง ครูไม่ต้องทำอะไร

เฮ้อ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท