เมื่อแม่รู้สึกผิด..กับความใจร้อนขี้หงุดหงิดของตัวเอง


แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกมีและไม่มี แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น และไม่เป็น แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกทำและไม่ทำ แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกทำได้และทำไม่ได้ แม่ต้องรักตัวตนของลูกในแบบที่ตัวลูกเป็น..รักอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีประมาณ

เริ่มเช้าวันใหม่ กับเรื่องราวดี ๆ จากพี่ตุ๊บปองอีกแล้วค่า

คุณแม่ที่น่ารักแต่ใจร้อนท่านหนึ่งถามว่า..
ลูกชายชอบเถียง จึงเป็นเหตุให้เกิดหงุดหงิดใจ วันก่อนตั้งใจจะตี(ตบ)ปากลูกชายวัย 7 ขวบ แต่พลาดไปโดนที่หางตา
แถมยังมาผลักลูกสาววัย 2 ขวบด้วยความโมโห ที่ลูกมัวแต่สนใจดูอย่างอื่น ขึ้นรถช้า และแม่กลัวว่าเสื้อผ้าของลูกสาวจะเปื้อน
ตอนนี้มานั่งคิดถึงสิ่งที่ทำร้ายลูกตัวเองแล้วเสียใจ..ควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดี
เรื่องนี้..
มีหลาย ๆ ปัญหาซ้อนทับกันอยู่
แต่ปัญหาหลัก คือ ตัวแม่เอง ที่ "หลงอารมณ์"
เรื่องแรกที่ต้องจัดการกับตัวเอง คือ ต้องรู้จักหาวิธีที่จะมาระงับอารมณ์ของตัวเองให้ได้ 

จริง ๆ แล้วเรื่องอารมณ์นี้เคยตอบหลายครั้งแล้ว..แต่วันนี้ขอซ้ำ ย้ำ ทวนอีกครั้งละกันนะจ๊ะ..อย่าว่ากันล่ะ
แม่สอนเสมอว่า..
การใช้ชีวิตในแต่ละวัน ใครที่รู้เท่าทันอารมณ์..คนนั้น “รอด” 
ใครที่ไม่รู้เท่าทันอารมณ์ แล้วปล่อยชีวิตให้ตกอยู่ในความหลง..หลงอารมณ์รัก หลงอารมณ์เกลียด หลงอารมณ์ชอบ หลงอารมณ์ชัง หลงอารมณ์โกรธ..เห็นที่จะรอดยาก เพราะ คน ๆ นั้นได้หย่อนเมล็ดพันธุ์แห่งอารมณ์ร้อน อารมณ์ร้าย ให้ผลิดอก ออกใบ ขยายผล จน”คับอกคับใจ” ..ด้วยตัวของตัวเอง
แม่ว่า..
คนเรา..ถ้ามีจิตที่มีอารมณ์โกรธ อารมณ์ร้อน อารมณ์ร้ายก็เหมือนมีไฟในเรือนใจ ที่พร้อมจะเผาไหม้ตนเอง และผู้คนรอบข้างที่มีจิตอ่อนแอ จนพ่ายแพ้แก่อารมณ์..ทุกอารมณ์

แม่หลงอารมณ์โกรธจึงเกิดหงุดหงิดใจทันทีที่ลูกชายเถียง
แม่หลงอารมณ์โมโหจึงเกิดหงุดหงิดใจทันทีที่ลูกสาวมัวแต่สนใจดูอย่างอื่นจนทำให้ขึ้นรถช้า
แม่หลงอารมณ์ร้อนจึงเกิดหงุดหงิดใจเพราะเกรงว่าลูกสาวจะเพลินเล่นจนเสื้อผ้าจะเปื้อน
เมื่อแม่หลงอารมณ์เช่นนี้..จึงเหวี่ยงความหลงให้หลุดด้วยการตี(ตบ)ปากลูกชาย และผลักลูกสาว เมื่อแม่เหวี่ยงแล้วกระแทก..ลูกจึงถูกกระทบจนกระเทือน
รู้ไหมว่า..
ตอนนั้นจนถึงตอนนี้..
ใจของลูกชายยังเจ็บ..ไม่หายไปพร้อมกายที่ถูกตบ
ใจของลูกสาวยังเจ็บ..ไม่หายไปพร้อมกายที่ถูกผลัก
ใจของลูกสาวยังเปื้อน..ไม่หายไปกับการทำความสะอาดเสื้อตัวนั้น

ขอย้ำ..ย้ำกันทุกวันในคำสอนของแม่ว่า..
แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกมีและไม่มี 
แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น และไม่เป็น 
แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกทำและไม่ทำ 
แม่ต้องยอมรับในสิ่งที่ลูกทำได้และทำไม่ได้
แม่ต้องรักตัวตนของลูกในแบบที่ตัวลูกเป็น..รักอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีประมาณ 

แม่สอนว่า..
สิ่งที่ต้องทำให้ได้ คือ..
แม่ของลูกคนนี้ ต้องรู้จัดหาวิธีในการควบคุมอารมณ์ตนเองให้ได้โดยเร็ว ตัดอารมณ์และความรู้สึกที่คิดจะให้ลูกทำทุกอย่างให้ได้ดั่งใจ..และต้องทำในทันทีทันใดที่แม่เอ่ยปากบอก 
แม่ต้องหัดเพ่งให้เห็นทุกสิ่งที่เป็นเนื้อแท้ของลูก เพ่งให้เห็นเห็นคุณค่าของลูก และเพ่งเห็นสิ่งดี ๆ ที่ลูกมี ไม่มี เป็น ไม่เป็น ทำ ไม่ทำ ทำได้ และทำไม่ได้
แม่ต้องหันมา ชื่นชมในตัวลูก และชื่นชมในสิ่งที่ลูกมี ไม่มี เป็น ไม่เป็น ทำ ไม่ทำ ทำได้ และทำไม่ได้ 

แม่จึงสอนเสมอว่า..
การคิดดี พูดดี และทำดีต่อลูก คือ พื้นฐานการสร้างความสุภาพที่สำคัญ เพราะการใช้ชีวิตด้วยความสุภาพนั้น เป็นพฤติกรรมที่สร้างคุณค่าในตัวของลูก
เมื่อลูกมีความรุนแรง หยาบคาย..ไม่สุภาพ
หน้าที่ของพ่อแม่ก็คือ..ต้องอบรมบ่มสอนลูกให้อ่อนโยนและสุภาพ
แต่เมื่อมีความรุนแรง หยาบคาย..ไม่สุภาพ
แม่จะยอมให้เป็นหน้าที่ของลูกไหม ที่จะกระตุกจิตที่ตก แล้วยกให้สูงขึ้น ให้อ่อนโยนและสุภาพ ถ้าใจกว้างพอก็น่าจะเป็นทางออกได้บ้าง..แต่ก็ต้องสอนให้ลูกรู้จักวิธีที่ "อ่อนโยนและสุภาพ"

แม่ต้องไม่เพียงแต่เมื่อทำผิดคิดพลาดแล้วก็มานั่งสำนึกผิด..เท่านั้นไม่พอหรอกเพราะการกระทำต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ แต่แม่ต้องหันมาตั้งสติ ทบทวนเพื่อหาหนทางที่เหมาะกับจริตของตนเอง ที่จะระงับยับยั้งอารมณ์ของตนเองให้ได้ ถ้าค้นหาด้วยตนเองไม่ได้ ก็ต้องหาใครสักคน หาหนังสือสักเล่ม หรือหาสื่อใด ๆ ก็ตามสักสื่อ สองสื่อที่จะช่วยฉุดให้แม่หลุดพ้นจากการเป็นทาสอารมณ์ที่มักจะลุ่มหลงเมื่อยามประมาทขาดสติ..แล้วลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง
เมื่อคิดได้แล้ว..
ขอให้รีบลงมือทำ หมั่นฝึกฝน..เพราะลูกไม่อาจรอได้ และไม่อาจทนอยู่ได้ในภาวะเช่นนี้

ลูกรักบรรยากาศในบ้านเรา..
ที่มีแต่ความสงบสุข เพราะทุกคนมีแต่ความสุภาพต่อกัน
แม่เป็นผู้นำ ทำให้บรรยากาศในบ้านเรามีแต่ความสุข..เช่นนี้
รักแม่เป็นที่สุด

หมายเลขบันทึก: 547921เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2013 07:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กันยายน 2013 07:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณพี่ตุ๊บปองที่ขยันแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้เหล่าบรรดาพ่อแม่ทั้งหลายได้ขยายความรู้ (ความรู้และระลึกรู้) ทุกเช้าได้เสพเรื่องราวดี ๆ ก็เป็นการเพิ่มพลังบวกให้ชีวิตได้เหมือนกันว่าไหมค่ะ  

เรื่องนี้ คิดว่าอาจเคยเกิดขึ้นกับหลาย ๆ คน ที่เป็นพ่อแม่ แม่ดาวเองก็เคยเกิดอารมณ์ร้อน ใจขุ่น แต่ยังไม่เคยถึงขนาดทำร้ายร่างกาย แต่ทำร้ายจิตใจ จะว่าไปเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การทำร้ายจิตใจหากมากไปก็ไม่ต่างกับการที่ลูกถูกกระทำทางร่างกายเช่นกัน บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แผลกายหายง่าย แต่แผลใจมันหายยาก

ได้ยินบ่อยมาก "ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเถอะ เด๊่ยวก็ลืม เด็ก ๆ ลืมง่ายจะตาย" คำพูดประมาณนี้ได้ยินบ่อยจริง ๆ นะคะ แต่จากที่แม่ดาวเรียนรู้มาจากลูกตัวเอง และจากประสบการณ์ตรงตัวเอง เด็กไม่ได้ลืมได้ง่าย เพียงแต่เขาจำได้ แค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น อยากให้ใส่ใจกับการพูดและทำของตัวเรา ว่าสิ่งที่จะพูดจะทำต่อลูกนั้นดีต่อลูกหรือไม่ ส่งผลดี/ร้ายอย่างไรต่อใจเขา

เห็นด้วยค่ะ อย่าตีลูกเลยค่ะ ใช้การแนะนำดีกว่าค่ะ ลูกเป็นผ้าขาว เขาจะมองแม่และจะเป็นเหมือนแม่ค่ะ

 

  1. ทุกใจมากค่ะเพราะทุกครั้งถ้าลูกทำผิดทั้งๆที่ห้ามหลายครั้งแต่ไม่ฟังจนต้องลงไม้ลงมือตามอารมสุดท้ายทำลูกเจ็บก้อต้องมาร้องทั้งน้ำตาเพราะเห็นลูกร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ดิฉันเกิดมาจากครอบครัวที่พ่อแม่ชอบลงไม่ลงมืออน่างรุนแรงอาจเปนเพราะอย่างนี้พอมีลูกเลยสั่งสอนลูกตามพ่อแม่ เจ็บปวดมากค่ะ อัดอั้น อึดอัดกับอารมตนเองที่เวลาโกรธแล้วคุมไม่อยู่สงสารลูกที่ต้องรับอารม มีใครช่วยกรุณาให้คำปรึกษาหน่อยได้มั้ยค่ะ แนะนำหน่อยเถอะไม่อยากให้ลูกใจต้องเข็บเพราะดิฉันคนเปนแม่ระงับอารมไว้ไม่อยู่จริงๆทรทานมาก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท