เสียงคร่ำครวญจากความผิดพลาด


 

 

 

ชีวิต......ปล่อยไปตามชะตากรรม
ความรัก......สูญจากไปไม่คืนกลับ
ยืนอ้างว้าง.....มองตะวันลาลับ
รอรับ...คำพิพากษาจากฟ้าดิน...


กลอนบทนี้ เป็นบทกลอนเริ่มต้นเกริ่นนำของนิยายแนวกำลังภายในเรื่องหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าเคยเขียนไว้ในอินเตอร์เนต เป็นนิยายที่มีพระเอกสองคน ทั้งคู่เป็นพี่น้อง (ต่างสายเลือด)  กัน

คนหนึ่งเป็นตัวแทนของความถูกต้อง ส่วนอีกคนเป็นตัวแทนของความผิดพลาด

ความถูกต้อง ผงาดทระนง เป็นวีรบุรุษที่ได้รับความยกย่องชื่นชมจากเหล่าจอมยุทธทั่วแผ่นดิน ในขณะที่ความผิดพลาด มีชีวิตอยู่อย่างขมขื่น ตรอมตรม เก็บตัวหลบๆซ่อนๆไม่กล้าเผชิญตัวตนกับผู้ใด

ไม่..แม้แต่จะเปิดเผยบอกความจริง แสดงตัวต่อแม่และน้องชายที่ตนรัก ว่าตนเองเป็นใคร !

เพราะความไม่รู้...ความถูกต้อง จึงชิงชังรังเกียจความผิดพลาด คอยคิดแต่จะพิฆาต จัดการความผิดพลาดให้จบสิ้น ด้วยคิดว่านั่นคือการกระทำเพื่อพิทักษ์ความสันติสุขของปวงชน  โดยหาได้เคยทันคิดถึงสาเหตุและเหตุผลที่ความผิดพลาดต้องกลายเป็นเช่นนั้นไม่

โดยหาได้รู้ไม่ว่า.. การดำรงอยู่ ตลอดจนความสำเร็จของตนนั้น ล้วนมาจากการเสียสละ และช่วยเหลือโอบอุ้มเกื้อกูลย์จากความผิดพลาดทั้งสิ้น

เพราะเสียใจและสำนึกผิดที่ตนเองกระทำผิดพลาดไป   ความผิดพลาดจึงคอยช่วยเหลือ ฝึกปรือความถูกต้องให้เข้มแข็ง ให้เป็นจอมกระบี่ผู้เกรียงไกร เพราะมีแต่ทำเช่นนี้..จึงช่วยลบล้างความรู้สึกผิดในใจของตนเอง

เพราะมีแต่ทำเช่นนี้  จึงสามารถสร้างผู้มีฝีมือ มาจัดการพิพากษาตนเองให้จบสิ้นลงไปเสียที

ชีวิต......ปล่อยไปตามชะตากรรม
ความรัก......สูญจากไปไม่คืนกลับ
ยืนอ้างว้าง.....มองตะวันลาลับ
รอรับ...คำพิพากษาจากฟ้าดิน...

บทกลอนนี้หดหู่และเศร้าสะเทือนใจ  บรรยายความรู้สึกของความผิดพลาดได้เป็นอย่างดี

และในตอนท้าย... ณ บทซึ่งต้องพิพากษา บทที่ความผิดพลาดรอคอยการหลุดพ้น  จึงเป็นหน้าที่ของความถูกต้อง  ที่จะต้องหวนพิจารณนาตนเองบ้าง  ค้นหาหลักการของตนให้เจอ 

ว่าสิ่งที่ถูกต้อง..สมควรทำอย่างไรกันแน่ ?


..............


ความถูกต้องและความผิดพลาดเป็นสองสิ่งที่คู่กันอยู่ในโลกนี้

จริงอยู่ที่หากไม่มีความถูกต้อง..คนทั้งโลกก็คงไม่รู้ว่าอะไรคือความผิดพลาด

แต่เพราะโลกนี้มีความผิดพลาด .. ความถูกต้องจึงได้รับการยกย่องเชิดชูให้มีค่า เป็นที่ต้องการใช่หรือไม่ ?

อันที่จริง..ทั้งสองสิ่งล้วนมีประโยชน์เท่าเทียมกัน
ต่างกันแต่...จะเลือกใช้ประโยชน์จากมันอย่างไรต่างหาก

เราควรใช้ความถูกต้องเป็นบรรทัดฐาน เป็นเป้าหมายเพื่อไปให้ถึง
และใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียน...เพื่อค้นหาสาเหตุที่เกิดมันขึ้นให้เจอ

จากนั้น...แก้ไขสาเหตุเหล่านั้น จัดการเสียก่อนที่มันจะเกิด

เพื่อจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดขึ้นมาอีกครั้ง

เพื่อจะได้ไม่รู้สึกเสียใจสำนึกผิด เมื่อเกิดความผิดพลาดนั้นขึ้น !

จงรู้สึกผิดเมื่อทำผิดพลาด
แต่อย่าท้อแท้..เอาแต่โทษตนเองเพราะความผิดพลาดนั้น

ไม่มีใครที่ไม่เคยพลาดผิด
แต่มีเฉพาะคนที่เข้มแข็งเท่านั้นที่ใช้ความผิดพลาดเป็นครู
เพื่อเดินไปสู่ความถูกต้องให้จงได้

อย่าชื่นชมความถูกต้องจนลืมตน
และก็อย่าดูถูก ซ้ำเติมคนผิดพลาดจนเกินไป

ไม่มีใครในโลกนี้ ที่อยากกระทำผิดหรอกนะ !


...............................

ปล. ขอแถมคำพูดประโยคหนึ่ง ขออภัยที่จำแล้วว่ามาจากหนังสือเล่มใด

" ทำผิดครั้งแรกถือว่าเป็นครู  ทำผิดครั้งที่สองถือว่าเป็นความโง่เขลา"

ขอบคุณค่ะ  ^_^

 

หมายเลขบันทึก: 54778เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2006 12:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

แวะมาทักทาย

ต้องแว็ปไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องไปเจออาจารย์ที่ปรึกษา เสี่ยวว่าจะโดนว่า หุหุ nothing in my brain now...

*___*

 

อิอิ.. ขอให้คลาดแคล้วนะคะ น้อง IS

โชคดีๆๆ... ^________^

 

ถึงคุณ K-jira

ชีวิตครูอ้อยเดินทางมาไกลแล้ว  มีความผิดนับครั้งไม่ถ้วน  ความผิดเหล่านั้น  บางครั้งก็ต้องแก้ไข  บางครั้งปล่อยเลยไปแล้วแต่ชะตากรรม  ให้เวลาเป็นยารักษาไป 

ขอให้รู้ก็แล้วกันว่า  เราผิดอะไร

ขอบคุณที่มีบันทึกที่ดีมาให้ครูอ้อยอ่าน  กำลังเหงาพอดีค่ะ

เรียนเชิญอ่านที่นี่ค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณครูอ้อย ^_____^

แวะเข้าไปอ่านแล้วค่ะ ขอบคุณมาก

อันที่จริงเขียนบันทึกนี้ขึ้นมา ไม่ได้มีสาเหตุจากทำผิดอะไรหรอก  แต่บังเอิญไปเจอกลอนบทดังกล่าวนั้นขึ้น เลยเกิดแรงบันดาลใจชั่ววูบให้คิดเช่นนั้นขึ้น

พอได้คิดก็รีบเขียน รีบบันทึกไว้

k-jira เป็นคนที่ชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยนะคะ  บางทีก็มีไอเดียใหม่ๆผุดขึ้นมาอยู่เรื่อย ถ้าไม่รีบจดไว้ รับรองผ่านคล้อยหลัง บางครั้งไม่กี่ลมหายใจก็ลืมค่ะ

คนขี้ลืมน่ะ...แหะๆ

หลายต่อหลายหน ที่ไปเห็นสภาพชีวิตผู้คน จนปรัชญาชีวิตผุดขึ้นสะกิดใจ บางทีก็เกิดเรื่องบางอย่าง ที่ทำให้เกิดแง่คิดอะไรดีๆ แต่เสียดายที่คิดๆตีความจนแตก แล้วก็เก็บไว้ในใจ

นานไปพอหวนกลับไปนึกถึงสอ่งนั้นอีกครั้ง อยากจะเอามาเรียบเรียงเขียนในบทความของตนเอง แต่อารมณ์มันเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยนไป.. สิ่งที่เคยคิดเรียบเรียงไว้ในใจก็สูญหายไปสิ้น

สุดท้าย...ตอนนี้ถ้าไม่ลืม ก็จะพกกระดาษ ไม่ก็สมุดบันทึกเล่มเล็กไว้ติดตัว พอคิดอะไรขึ้นมาได้ก็จดไว้  โชคดีวันนี้อยู่ห้อง แล้วก็เปิดบล็อกอยู่พอดี พอเรียบเรียงความคิดได้ก็เลยรีบจดบันทึกลงบล็อกน่ะค่ะ

เผื่อว่าจะมีใครได้มาต่อยอด ไม่ก็ ลปรร ร่วมกันได้

ดังนั้นจึงเป็นที่มาเป็นบันทึกฉบับนี้

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้...อิอิ

 

^________________^

 

ฝากกลอนไว้ในบันทึกหน่อยค่ะ
อยู่ๆก็วูบคิดขึ้นมาได้...
จึงขอใส่ไว้ในบันทึกนี้เพื่อกันลืม   ^_^

 

                  หลายๆครั้งที่คนเราทำพลาดผิด
                  หลายๆหนที่หวนคิดสำนึกได้
                  หลายๆเรื่องกลับปล่อยให้ผ่านไป
                  สักกี่คนที่ตั้งใจ.. แก้ไขมัน ?

 

"แด่ผู้มีฝัน...ขอจงสร้างฝันให้เกิดจริง

จงตั้งมั่นหมั่นเพื่อหาสิ่งที่ชอบ

จงประกอบสัมมาชีพเพื่อการดำรงตน

จงเป็นขุนพลเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์

"พลัง" สู่พี่น้องผองไทยทั่วทุกท้องถิ่น "

ทำไมต้อง รอคำพิพากษา จากฟ้าดิน เล่าครับ??

<ทำไมต้อง รอคำพิพากษา จากฟ้าดิน เล่าครับ?? >

 อ๋อ..นั่นเป็นบทกลอนในนิยายน่ะค่ะ ความหมายของ รอคำพิพากษาจากฟ้าดิน.. ก็คือ กรรมใดใครก่อ คนนั้นชดใช้กรรม ผลจากการกระทำ จะย้อนคืนมาพิพากษา ซึ่งก็ไม่ต่างกับ รอคำพิพากษาจากฟ้าดิน

อันที่จริง.. อ้างอิงบทกลอนบทนั้นขึ้นมา พอได้อ่านกลอนบทนี้ ก็เลยสะกิดให้เกิดแรงบันดาลใจ เขียนบันทึกนี้ขึ้นมา ประมาณนั้นน่ะค่ะ

^_____________^

ขอหยอดไว้หน่อยนะคะ 

ฉันผิดเองในวันวานที่ผ่านพ้น

ฉันผิดเองที่เป็นคนไม่เสแสร้ง

ฉันผิดเองที่จิตใจไม่ระแวง

ฉันผิดเองที่ใจแบ่งไปรักเธอ

 

  • ชอบเพลงนี้ เพลง อะไรน่า ...fair
  • ลืมไปแล้ว
  • มิน่าผมถึงชอบทำผิด เพราะผิดเป็นครูนี่เอง

ชื่อเพลง SCARBOROUGH FAIR ค่ะ  ^___^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท