๖/๐๙/๒๕๕๖
**********
สรุปจากการอ่าน สอนให้รู้ “กินอยู่ดูฟังเป็น”
วันนี้ได้เข้าไปอ่านหนังสือดีเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือไฟล์ PDF ที่ให้ดาวน์โหลดมาอ่านได้ฟรี ที่นี่ มีให้อ่านหลายเล่ม ผมเลือกหนังสือที่ชื่อว่า สอนให้รู้ “กินอยู่ดูฟังเป็น” จัดทำโดย มูลนิธิสยามกำมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สถาบันเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข(สรส.)และมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา เป็นโครงการร่วมผลิตสื่อเพื่อเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา โดยเนื้อหาในเล่มกล่าวถึง การดำเนินการของโรงเรียนประชาราชวิทยา ตำบลบ้านร้อง อำเภองาว จังหวัดลำปาง พอสรุปเนื้อหาได้ดังนี้
1. เน้นความเป็นโรงเรียนวิถีพุทธและโรงเรียนที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการปฏิบัติในทุก ๆ ด้านของการจัดการเรียนการสอน
2. การจัดกิจกรรมทั้งการเรียนการสอนของครู การจัดกิจกรรมของเด็กนักเรียน การขยายผลไปสู่ชุมชน จนเห็นผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
3. แนวคิดของวิถีพุทธที่นำมาคิดวิเคราะห์ปรับใช้ร่วมกันคือ
หลักอริยสัจ ๔ ทุกข์คือสิ่งที่ควรรู้ สมุทัยคือสิ่งที่ควรละ นิโรธคือสิ่งที่ควรบรรลุ และมรรค คือสิ่งที่ควรเจริญและทำบ่อยๆ
หลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
หลักภาวนา คือความเจริญงอกงาม ๔ ประการ คือ กายภาวนา ศีลภาวนา จิตภาวนา และปัญญาภาวนา
หลักสัปปุริสธรรม ๗ ประการ คือ รู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้ชุมชน และรู้บุคคล
หลักคิดโยนิโสมนสิการ คือการรู้จักคิด วิเคราะห์อะไรคือ คุณค่าแท้ อะไรคือคุณค่าเทียม อะไรควรใช้ อะไรไม่ควรใช้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ โดยขมวดความว่าคือ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง สรุป คือ การสอนให้นักเรียนรู้จัก “การกินอยู่ดูฟังเป็น” ไม่โน้มเอียงไปตามกระแส
4. แนวคิดหรือขบวนการขับเคลื่อนไปทั้งระบบเน้น “บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียน สามเส้าเขยื้อนเคลื่อนไหวไปพร้อม ๆ กัน อาศัยหลักสงเคราะห์หรือสังคหวัตถุ คือ การให้สิ่งของและให้เกียติให้โอกาสกับหน่วยงานต่าง ๆ(ทาน) การต้อนรับ โอภาปราศรัยเป็นเจ้าบ้านที่ดี(ปิยวาจา) การให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน(อัตถจริยา) ปฏิบัติต่อกันอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอไม่ทอดทิ้งแม้จะต้องใช้เวลาหลายปีก็ตาม(สมานัตตตา)ดังกล่าวมานี้ประสานการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย คือ ครูนำโดยผู้อำนวยการ พระ องค์กรท้องถิ่นต่าง ๆ ร่วมกับผู้ปกครองและเด็กนักเรียน
5. โรงเรียนยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นหลักในการบริหาร คือ หลักคุณธรรม หลักนิติธรรม หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส และหลักความคุ้มค่า
ดังนั้นโรงเรียนจึงให้ความสำคัญกับ “บวร” เสมอ คือ
บ้าน เป็นรากฐานสำคัญของนักเรียน ของชุมชน ของสังคม
วัด เป็นศูนย์รวมน้ำใจ เป็นที่พึ่งทางใจ เมื่อคนมีศาสนาในหัวใจอยู่ที่ใดก็อบอุ่น
โรงเรียน เป็นแหล่งสร้างอนาคตของเยาวชน
สรุปว่า หนังสือเล่มนี้เขียนแนวทางกว้าง ๆ ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการนำหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่หลากหลาย และน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้กับทั้งโรงเรียนโดยไม่ได้เน้นในรายละเอียดมากนัก แต่ก็ได้แนวทางในการนำไปดำเนินการหรือปฏิบัติตามได้มองเห็นภาพ หากท่านใดหรือโรงเรียนใดสนใจจะนำมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมก็ต้องไปศึกษาดูงานกับสถานที่จริงดังกล่าวมา
สิ่งที่ผมอยากให้มีการเขียนเกี่ยวกับเรื่อง สอนให้รู้ “กินอยู่ดูฟังเป็น" ก็คือ ตัวอย่างในทางการปฏิบัติจากองค์ความรู้มาสู่การลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม เห็นผลอย่างชัดเจน ไม่ตีวงกว้างจนเกินไป โดยผู้อ่านสามารถนำเอาไปปฏิบัติตามได้ให้มากกว่านี้ ผู้รู้ท่านใดมีแผนการสอนหรือวิธีการสอนให้เกิดการเรียนรู้หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนเกิดเป็น “กินอยู่ดูฟังเป็น” ดังกล่าวมา ขอให้ช่วยเผยแพร่ด้วยครับผม
ขอบคุณหนังสือประเทืองปัญญาจากมูลนิธิสยามกำมาจล
ขอบคุณโกทูโนว์
ขอบคุณจ้ะพี่หนาน add ไว้แล้วจ้ะ เอาไว้อ่านวันหน้าจ้ะ
น่าสนใจมากครับ
เอามาฝากด้วยครับ
ขอบคุณครับ พี่หนาน ;)...
ขอบคุณค่ะพี่หนาน สรุปไว้เยี่ยม ทำให้น่าติดตามอ่านฉบับเต็มค่ะ
พี่ได้เคยคุยกับครูที่ทำโรงเรียนวิถีพุทธมาบ้างค่ะ ชอบวิธีคิดแบบนี้ อยากเห็นโรงเรียนทุกแห่งเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ+เศรษฐกิจพอเพียง
ขอบคุณที่มาเล่าค่ะ
ขอบคุณมาลัยน้ำใจจากทุกสารทิศมากครับ
ขจิต ฝอยทอง |
nui |
noktalay |
เขียวมรกต |
Wasawat Deemarn |
จัตุเศรษฐธรรม |
ชยพร แอคะรัจน์ |
คุณมะเดื่อ |
กุหลาบ มัทนา |
ขอบคุณหลาย ๆ เด้อค่ะ กุหลาบพอแกะได้นิด ๆ หน่อย ๆ สอนบ่ได้ดอกค่ะ บ่มีหลักการ เพิ่นหมายถึงภาษาลาวแมนบ่ค่ะ