GotoKnow

ฟื้นคดีฆ่า 4 รัฐมนตรี

วีระศักดิ์ เดชอรัญ
เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2556 15:26 น. ()

เรื่องหนึ่งในหนังสือ ย้อนตำนานเลือดไทยฆ่าไทย สำนักพิมพ์สยามบันทึก โรม บุนนาค เขียนถึงคดี ล่าสังหาร 4 อดีตรัฐมนตรีเสรีไทย เหตุเกิดในสมัยรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม

4 อดีตรัฐมนตรี รัฐบาลนายปรีดี พนมยงค์ คือ ดร.ทองเปลว ชลภูมิ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายถวิล อุดล และนายจำลอง ดาวเรือง ถูกจับข้อหาเป็นกบฏ คราวกบฏวังหลวง ถูกควบคุมตัวไว้ที่สันติบาล และโรงพักกลาง

คดีนี้เงียบหาย และถูกขุดคุ้ยขึ้นมาหลังจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติยึดอำนาจเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500

กลาง ดึกคืนวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2492 ตำรวจได้เบิกตัวสี่อดีตรัฐมนตรี ออกจากห้องขัง โดยบอกว่า จะย้ายไปขังที่โรงพักบางเขน เพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อรถไปใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สมัยนั้นเป็นที่เปลี่ยวปลอดคน สี่ผู้ต้องหาก็ถูกยิงตาย

ตำรวจอ้างว่าเป็นฝีมือโจรจีนมลายู ซึ่งตอนนั้นเป็นข่าวดังอยู่ในภาคใต้

เมื่อ เป็นคดีที่ถูกรื้อฟื้นในรัฐบาลใหม่ มีตำรวจถูกจับ 5 คน พล.ต.จ.ผาด ตุงคะสมิต จำเลยที่ 1 พล.ต.จ.ทม จิตรวิมล จำเลยที่ 2 ร.ต.ท.จรัส ยิ้มละมัย จำเลยที่ 3 ร.ต.ท.ธนู พุกใจดี จำเลยที่ 4 และ ส.ต.อ.แนบ นิ่มรัตน์ จำเลยที่ 5

คดีนี้จำเลยต่อสู้ถึงสามศาล ที่สุดศาลฎีกาได้ พิพากษาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2504 สรุปว่า จำเลยทั้ง 5 กับพวกอีกหลายคนที่หลบหนีไป และตายไปแล้วหนึ่งคน ร่วมกันใช้เพทุบายรับผู้ตายจากที่คุมขังออกเดินทางไปตามถนนพหลโยธิน ต่อมาได้ให้รถยนต์หยุด แล้วใช้อาวุธปืนยิงคนทั้งสี่ตาย

คำพิพากษา ระบุด้วยว่า ผู้ตายทั้งสี่เป็นนักการเมือง เคยเป็นผู้แทนราษฎร และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเสรีไทย เป็นนักการเมืองฝ่ายนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นนักการเมืองคนละฝ่ายกับจอมพล ป.พิบูลสงคราม และพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์

ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นอธิบดีกรมตำรวจในเวลาต่อมา

คำ ให้การของพยานบางปาก ระบุว่า ในขณะที่ผู้ต้องหาเริ่มรู้ตัวว่าจะถูกฆ่า คนหนึ่งได้พูดว่า "อย่าทำผมเลย นึกว่าสงสารลูกนกลูกกาตาดำๆ ลูกผมมาก" ฝ่ายตำรวจชุดที่ฆ่า คนหนึ่งบอกว่า "อ้ายพวกนี้เป็นกบฏ เอาไว้ทำไม...?"

พ.ต.อ.จำรัส ฟอลเล็ต ผู้ชำนาญการพิเศษ ให้การในฐานะพยานว่าไปดูที่เกิดเหตุ เห็นปลอกกระสุนปืน 11 มม. และปลอกกระสุนปืนคาร์ไบน์ มีรอยเลือดเป็นหย่อมๆ ริมถนนด้านซ้ายถ้าหันหน้าไปทางดอนเมือง มีเศษกุญแจมือหักอยู่ 1 ชิ้น ยาวประมาณ 1 นิ้ว

ทำให้เข้าใจว่าผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งถูกยิงขณะใส่กุญแจมือ

รอยเท้าเล็กน้อยในคูด้านซ้าย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพวกโจร (มลายู) ตั้ง 20-30 คน จะมาแย่งผู้ต้องหา

ศาล วินิจฉัยว่า หากมีโจรมาดักยิงเพื่อแย่งชิงผู้ต้องหาจริงแล้ว ก็มาเอาเฉพาะรถที่ควบคุมผู้ต้องหาเท่านั้น รถคันอื่นๆหาได้ถูกคนร้ายยิงประการใดไม่ เห็นว่าผิดธรรมดาอยู่มาก

มี เหตุผลน่าเชื่อว่า ผู้ตายทั้ง 4 ตายเพราะการเป็นนักการเมือง มีรายงานว่าได้ร่วมในการกบฏ ได้ถูกออกหมายจับ แต่หลักฐานการเป็นกบฏอาจไม่เพียงพอ เพียงแต่ได้รับรายงาน จึงถูกผู้มีอำนาจสั่งให้จัดการเสีย

ฉะนั้น ผู้กระทำการยิงผู้ตายจึงมิใช่ใครอื่น เป็นตำรวจผู้ได้รับคำสั่งไปในขบวนการคุมผู้ต้องหานั่นเอง

อาศัยเหตุดังกล่าว จึงพร้อมกันพิพากษาว่า

พล.ต.จ.ผาด ตุงคะสมิต พล.ต.จ.ทม จิตรวิมล และ ส.ต.อ.แนบ นิ่มรัตน์ จำเลยที่ 1-2-5 มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 269 ให้วางโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 ไว้ตลอดชีวิต

ส่วน ร.ต.ท.จรัส ยิ้มละมัย และ ร.ต.ท.ธนู พุกใจดี หลักฐานคำพยานโจทก์ยังไม่มั่นคง ให้ยกประโยชน์ให้เป็นผลดีแต่จำเลยทั้งสองเสีย.

สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง

ความเห็น

Pojana Yeamnaiyana Ed.D.
เขียนเมื่อ

...ประเทศไทยมีคดีลักษณะนี้มาก...ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนะคะ...เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รักษากฏหมายเป็นผู้กระทำผิดเอง...


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย