ผมในวารสาร "สุขศาลา"


และแล้ว....วารสารสุขศาลา...ฉบับล่าสุดก็เดินทางถึงผม

มีเรื่องราวของผม...ชีวิต...การทำงาน...อนามัย...Gotoknow และแหล่งท่องเที่ยว

ของบ้านเกิดของผม...ให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงความงาม และคุณค่าเล็กๆ ที่อยู่ในนั้น

 

ทำให้ผมย้อนเวลา...ไปสู่ช่วงกองบอกอขอสัมภาษณ์ผม และขอลงมาเก็บข้อมูลผมถึงบ้านและที่ทำงานของผม

ผมทวนความรู้สึกของผมว่า "ผมไม่มีอะไรน่าสนใจเลย"

"ผมจะช่วยหาหมออนามัยแถวบ้านที่น่าสนใจให้ไหม?"

บ่ายเบี่ยงไปบ่ายเบี่ยงมา...

ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลย..."น้องจุง" นักเขียนสารคดีอิสระก็บอกว่า

"หนูมาถึง บขส. ที่บ้านพี่แล้วนะ..."

ทำให้ผมที่กำลังออกอนามัยโรงเรียนอยู่...รีบทำงานให้เสร็จและไปรับน้องจุง

 

น้องจุง- หญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆ...เป็นทั้งนักเขียนและนักถ่ายรูปในตัว

เป็นคนรุ่นใหม่ที่เก่งมาก...ความรู้รอบด้าน...ทั้งที่บุคคลที่น้องไปสัมภาษณ์

ต่างมีประสบการณ์และการทำงานที่แตกต่างกัน

แต่ด้วยการศึกษาข้อมูลล่วงหน้า...ทำให้การสัมภาษณ์ของเราราบรื่นด้วยดี

ถึงแม้ผมจะผุดลุกผุดนั่งไปทำงาน...น้องยังเข้าใจและรอคอยด้วยรอยยิ้ม

 

แม้การมารับมาส่งที่พักของน้อง...น้องเป็นคนเตรียมพร้อมและเตรียมตัว...ตรงเวลาอย่างสูง

เป็นคนวินัยมาก...ทำให้ผมแอบทึ่งเด็กรุ่นใหม่ที่มีระเบียบวินัยเช่นนี้

วันแรกของการสัมภาษณ์...น้องเจาะเรื่องชีวิต...งานR2R และโครงการแม่วัยใส...และการทำงานที่อนามัย

วันสอง...ให้คอลัมน์ต้องให้หมออนามัยแนะนำสถานที่ที่เราอยากให้คนอื่นมาเยือน

ผมเลือกทั้งแบบชิวๆ และแบบผาดโลน...คือ...ขึ้นเขา...เพื่อไปเยือน

"ผาหำหด"

 

ผมสงสารน้องจัง...ทำงานให้กรุงเทพฯ ต้องแบกกล้อง กระเป๋า และสมุดบันทึก

ขาขึ้นใช้เวลาสามชั่วโมง ขาลงใช้เวลาครึ่งหนึ่ง

แต่เขาขุรขะ สูงชัน ลื่นง่าย...และยุงเยอะมาก

ทำให้แอบสงสารน้องมาก...ทั้งขาแพลง...ยุงกัด...และหน้าซีดเซียวเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง

 

ต้องขอบคุณน้องจุงมากๆ...

สำหรับประสบการณ์ที่ดีที่ได้ร่วมงานกัน

แม้เป็นเพียงเวลาสั้น...แต่ผมก็ได้เรียนรู้กับชีวิตเด็กรุ่นใหม่

ที่มีความคิดอิสระ...ความมีระเบียบวินัย และความเพียร

บนพื้นฐานความเก่งรอบด้านของน้อง

 

เมื่อผมเปิดอ่านคอลัมน์...ผมอ่านด้วยรอยยิ้ม

ผมย้อนเวลาไปสู่...การทวนความรู้สึกของผมว่า "ผมไม่มีอะไรน่าสนใจเลย"

ว่า...

"ผมก็มีอะไรๆ ที่น่าสนใจอยู่บ้าง...แต่การเรียนรู้

และความเป็นบริบทของบ้านเกิด...น่าสนใจมากกว่า...และให้ทุกคนมาเยือน...

และ Gotoknow เป็นมากกว่าการเขียนบันทึก

แต่เป็นการเยียวยาชีวิตของผมต่างหาก"

 

ผมขออนุญาตลงมาให้ชมบ้างส่วนนะครับ....

ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในการสัมภาษณ์เรื่องราวของผม

และถ้าไม่มี Gotoknow ผมก็ไม่มีโอกาสและคุณค่าเช่นนี้ครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 547294เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2013 13:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน 2013 13:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ชื่นชมครับ "สุขศาลา" เป็นชื่อเดิมของ "อนามัย" ใช่ไหมครับ? ภาพที่มีตัวหนังสืออ่านไม่ได้ตัวเล็กมากและตาลายด้วยครับ

เยี่ยมยอดมากๆเลยค่ะ น้องหมอ คนเก่ง 

ชื่นชม ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

 

ชื่นชม กับคุณหมอด้วยครับ

เหมาะสมและทรงคุณค่าครับ....

 

มองไม่เห็นน่ะค่ะ อ่านไม่เห็นเลยค่ะ ลางๆ 

อยากได้สักเล่มจังเลยค่ะ หากเป็นไปได้ค่ะ

ภูมิใจแทนคนในสังคมนะคะ ที่มี " คุณหมอ "  ที่มีคุณภาพ คุณธรรม และรักในวิชาชีพหมออนามัยนะคะ

 

ตอนเด็กๆ ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ก็เคยมีสุขศาลา เป็นที่พึ่งให้กับผู้คนในสังคม ...... 

จำได้ว่ามีคนถูกยิงมาที่สุขศาลา ........ ไม่น่าเชื่อว่าคุณหมอที่นั่น ก็ผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้ได้ ........

 

"หมออนามัย ... น้องชายของดิฉันก็เคยอยู่ตรงนี้ค่ะ .... เคยเห็นเค้าช่วยเหลือผู้คนและทำงานหนักมากมายค่ะ " 

 

เป็นกำลังใจนะคะ

สวัสดีค่ะ

สุขศาลา คำนี้ นึกถึงสมัยก่อนนี้นะคะ "ศาลาแห่งความสุข" ถ้าจำไม่ผิด เป็นชื่อเก่าของอนามัยใช่ไหมคะ

ชื่นชมคุณหมอคนเก่งค่ะ

ตามมาเชียร์ อยากเห็นภาพน้องคนเขียนหนังสือด้วยครับ

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เย้ๆๆ

ขอแสดงความยินดีและชื่นชมนะคะ...คุณหมอ(ทิมดาบ)

สุดยอดจริง ขอยกนิ้วให้ แต่ว่าอักษรเล็กไปหน่อย

ไม่ค่อยสะดวกอ่าน ..สำหรับคนแก่ ๆ

อ่านแล้วยิ้ม ยินดีปรีดา กับสุขศาลาฉบัยนี้ค่ะ

อยากไปเที่ยวภูเขียวแล้ว  แง แง แง

ดีใจจังเลย ….. “คนดีศรีสา’สุข” ของเรานะคะ ….. ชีวิตพวกเรา ชาว สา’สุข เราได้ทำสิ่งดีดี มีคุณค่ากับชาวบ้าน ได้ทำในสิ่งที่ “คนอื่นๆ อยากทำ แต่ …ไม่ได้ทำ” นะคะ ภูมิใจในตัวน้องอดิเรก มากค่ะ ขอบคุณบันทึกดีดีนี้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท