ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่า การทำวิธีนี้คิดทำด้วยตัวผู้เขียนเอง
ดังนั้นเมื่อทราบแล้วจะทำดื่มหรือไม่อยู่ในความพิจารณาของแต่ละผู้อ่านชมบันทึกนี้นะคะ
เนื่องด้วยได้มีการสอนทำมังคุดต้มสุกทางโทรศัพท์ให้กับผู้ฟังรายการวิทยุ ของสถานนีวิทยุแห่งประเทศไทยรายการทั่วทิศถิ่นไทย เป็นรายการวิทยุเน้นสุขภาพของประชาชนด้านสมุนไพรเป็นยา ในช่วงระหว่างการสอนในโทรศัพท์นั้นจนถึงเมื่อวานนี้ก็ยังมีผู้โทรมาเรื่อยๆ มังคุดก็ยังมีขายที่เชียงใหม่ ล่าสุดนี้เป็นมังคุด และเงาะ ที่ได้ซื้อมานั้นมาจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี จึงมีการทดลองทำและเก็บส่วนหนึ่งไว้ก่อนที่มังคุดจะหมด หนึ่งในวิธีการทำนั้นคือ นำเนื้อเปลือกด้านในผิวเปลือกนอกผล ที่ต้มสุกมาใส่น้ำผึ้ง แช่ไว้เพียง 2-3 วันก็ได้น้ำสีชวนดื่ม และหมักต่อไปได้นานเท่านานในตู้เย็น
ถ้าผู้อ่านติดตามเรื่องมังคุดทุกบันทึกที่เขียนไว้จะทราบว่า มีหลายวิธีที่จะได้ประโยชน์จากเปลือกมังคุดที่เราทิ้งถังขยะหรือปาทิ้งขว้างบนพื้นหรือในน้ำนั้นทำอะไรได้บ้าง ในเปลือกมังคุดมีสารอาหารที่ดีเป็นยาต่อสุขภาพมาก แต่วิธีการที่เราพอจะนำออกมาใช้ได้เอง คือการต้มให้สุกได้น้ำสีแดงเพียงน้อยนิดแต่เราก็ได้บ้างดีกว่าไม่ได้เลย แต่ถ้าผู้ชำนาญการจะสกัดวิธีอื่นทีได้มากก็ดีไป แต่เราชาวบ้านธรรมดาก็ทำง่ายด้วยวิธีต้มหรือนึ่งก็สะดวกปลอดภัยได้
วิธีทำ
1. มังคุดล้างผิวให้สะอาดแล้วนำไปต้มหรือนึ่งน้ำเดือดไฟอ่อนๆ 30 นาที
2. เมื่อได้ 30 นาที ปิดไฟ ตักลูกมังคุดขึ้นมาตั้งวางเรียงให้ลูกหัวจุกกลีบเลี้ยงตั้ง
3. พอเย็นแล้วจับลูกตรงๆใช้มีดผ่ารอบลูก ค่อยๆดึงเปลือกบนขึ้น เนื้อมังคุดจะติดเปลือกบนมีน้ำสีแดงจากเปลือกติดเล็กน้อย วางในจานไว้ก่อน แล้วที่เปลือกล่างที่ถือไว้ในบางลูกจะมีน้ำสีแดงอยู่เพียงน้อยนิดนั้น เทใส่ขวดไว้ ทำแบบเดิมจนหมดทุกลูกที่ต้ม
4. เนื้อมังคุดต้มที่ติดเปลือกบน จะตักกินเลยหรือใส่ภาชนะเก็บไว้ในช่องแข็งไว้กินวันอื่นๆได้ ควรเก็บช่องแช่แข็งเพื่อเก็บไว้ได้นานและไม่เกิดเชื้อรา
5. เปลือกที่ต้มทั้งหมดใช้มีดหรือช้อน ตักแต่เนื้อเปลือกด้านในออกมาจากผิวเปลือกแข็ง ส่วนที่เป็นแข็งๆในเเนื้อเปลือกตัดทิ้งไป ใช้ส่วนเปลือกที่นิ่มเท่านั้น
6. เนื้อเปลือกทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งนำใส่ขวดโหลแก้ว เทน้ำผึ้งแท้ใส่ลงไปให้ท่วม ปิดฝาให้แน่นแล้วเขย่าให้น้ำผึ้งและเปลือกมังคุดกระจายน้ำผึ้งละลายไม่ข้นนอนก้นขวด แล้วคลายฝาขวดออกแค่ปิดวาง แช่เย็นไว้
7. วันต่อมาทุกๆวัน ก็ปิดฝาให้แน่นแล้วเขย่าหรือเอียงขวดให้น้ำผึ้งทั่วถึงเปลือก(เปลือกจะลอย) ทำประมาณ 7 วัน หลังเขย่าเสร็จอย่าลืมคลายฝาขวดทุกครั้ง
8. ประมาณ 2-3 วันน้ำสีแดงจะออกจากเปลือก สีของเปลือกและน้ำผึ้งจะสวยงามน่าดื่มมาก ดื่มได้โดย เทหรีอตักใส่ช้อน 1 ช้อนชา ตามด้วยน้ำ 1 แก้ว หรือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ1 แก้ว แล้วดื่ม น้ำจะมีรสฝาดเล็กน้อย
9. ที่แนะนำให้แช่เย็น เพราะทำแล้วแช่เย็นไว้แล้วสบายใจ กลัวเกิดเชื้อรา เป็นเครื่องดื่มที่คิดเองยังไม่ทราบว่ามีใครทำมาก่อน แช่เย็นไว้ไม่เกิดเชื้อรา เพราะเปลือกมังคุดเกิดเชื้อราง่ายและเร็ว การแช่น้ำผึ้งแท้ เปลือกมังคุดต้องถูกน้ำผึ้วน้ำผึ้งทั้งหมดก่อนเปลือกจมลงก้นขวดทุกวัน ที่ทำไว้ไม่เกิดเชื้อรา
เปลือกมังคุดต้ม
น้ำผึ้ง
น้ำเปลือกมังคุดต้มหมักน้ำผึ้ง
สีสวยชวนดื่มเราดื่มต่อครั้งเพียงช้อนชาเดียว ไม่มากเพียงดื่มให้สม่ำเสมอตามสะดวกของเรา น้ำผึ้งที่ว่าหวานแช่เปลือกมังคุดก็จะใสแดงตามภาพ น้ำมีรสฝาดเพียงเล็กน้อยถ้าเราผสมน้ำพร้อมดื่ม การทำออกมาในลักษณะนี้ได้สอบถามอาจารย์สุวัฒน์ ทรัพยะประภาแล้ว ท่านบอกปลอดภัยค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ ๒๕๕๖
ดีจังค่ะที่ทำเองบริโภคได้ประโยชน์...ขอบคุณที่แบ่งปันกันเช่นนี้
เมื่อสัก 2 ปีก่อนนี้ มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่งดังมาก
เป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากผลมังคุด เนื้อ เปลีอก เมล็ด มังคุด ขวดนิดเดียวประมาณ 100 บาท (ขวดเท่ายาคูลล์)
ดิฉันซื้อไว้รับประทานพร้อมทั้งสมัครสมาชิก ด้วยความเกรงใจหลายอย่าง แม้จะรู้ว่า อะไรก็คงสู้ทานผลสดๆ ไม่ได้
(ทานทีละ 1-2 กิโล ยังไม่ถึง 50 บาทในช่วงฤดูกาล)
เห็นพี่ดาทำก็น่าสนใจนะคะ แต่ทางใต้มีผลไม้ตามฤดูกาลทั้งปี สลับสับเปลี่ยนกันไปค่ะ
มังคุดหมด เบื่อมังคุดพอดี เดี๋ยวมะม่วงมาอีกค่ะ ณ ตอนนี้ จำปาดะ ทุเรียน ลำใย ลองกอง ฯลฯ ค่ะ
ขอบคุึณและฝันดีค่ะ
วันนี้ผู้ปกครองเด็กเพิ่งกลับจากเมืองนรา ฯ เอามังคุดมาฝากคุณมะเดื่อที่โรงเรียน 1 ลัง
ใหญ่ ๆ คุณมะเดื่อก็จัดการแบ่งใส่ถุึงแจกจ่าย ผู้ปกครองเด็กบ้าง ครูน้อง ๆ บ้าง หมดทั้งลัง
ช่วงนี้มังคุดเยอะมาก ราคาก็ถูกด้วยจ้ะ
...น้ำเปลือกมังคุดต้มหมักน้ำผึ้ง...สีสวยชวนดื่ม ขอบคุณค่ะ