ไม่ว่าการทำสิ่งใดหากเราใช้ "ใจ" เราเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกับงานและบุคคลในงานนั้นๆ การทำงานจะเต็มไปด้วยพลัง อันเป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ ตื่นรู้ และเบิกบาน เป็นกัลยาณมิตร
และเมื่อเกิดปัญหา เราจะไม่มองว่าคือ ความผิดพลาดของใคร หากแต่จะกระโดดเข้าไปช่วยกันแก้ไข เติมเต็มให้ความพร่องในการทำงานในจุดนั้นๆ สมบูรณ์ขึ้น
และลักษณะการทำงานเช่นนี้...จะไม่มีใครโดดเด่นเป็นเจ้าของผลงาน
เพราะเราได้ฝึกฝนการทำงานแบบเสียสละออกจากตัวเอง ไม่ได้เป็นเจ้าของของงาน หากแต่เป็นหนึ่งเดียวในงานนั้น
ดังนั้นการฝึกฝนการทำงานเช่นนี้ จึงไม่มีใครเด่นกว่าใคร เพราะทุกคนต่างเป็นองค์ประกอบที่เกื้อหนุนกันและกัน...
ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงต้นไม้...ต้นหนึ่งที่มีองค์ประกอบ ของราก ลำต้น กิ่งก้าน ใบ ดอก ผล... ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่ได้หรือ...
ข้าพเจ้าย้อนกลับไปมองว่า...
ในชีวิตที่ผ่านมาของการทำงาน ไม่ว่าจะร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการดำเนินงานในโครงการ R2R ประเทศไทย หรือการทำงานเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ในกลุ่มงานเล็กๆ...หรือการทำงานแบบอาสาใจพาทำให้กับการพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนการทำงานเช่นนี้ ดังนั้นในชีวิตการทำงานของข้าพเจ้าจึงเป็นผู้ไม่มีผลของงานเป็นส่วนตัว เพราะได้ฝึกฝนการทำงานแบบเป็นหนึ่งเดียวในงาน จึงไม่เคยได้เป็นเจ้าของของงานนั้นๆ เลย
ซึ่งการทำงานเช่นนี้ทำให้เราได้ใช้ศักยภาพแห่งภายในเรามากมายอย่างไม่มีจำกัด
จนอยู่มาวันหนึ่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านมาเมตตาสอนว่า "การทำงานด้วยจิตว่าง ทำให้เราทำงานได้มากมาย และยิ่งทำยิ่งไม่เหนื่อย... "
นี่คือ ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในชีวิตแห่งการงานของข้าพเจ้า
...
๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๖
http://www.youtube.com/watch?v=4SntynbUdjs
ไม่มีความเห็น