ซอกแซกทัวร์อาเซียน ตอนที่ 3 เวียตนาม อ่าวฮาลองเบย์ มรดกโลก


                ประเทศเวียดนาม (เวียดนาม: Việt Nam) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีประชากรมากกว่า 89 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 13 ของโลก
               ประเทศเวียตนามในอดีตเคยถูกจีนครอบครองประเทศถึง ๑,๐๐๐ ปี ต่อมาถูกฝรั่งเศสเข้ายึคครองอีก หลังจากนั้นยังมีเหตุการณ์สงครามกลางเมืองที่มีฝรั่งเศสและอเมริกายุให้คนในชาติรบกันเองที่เรียกว่า เวียตนามเหนือ ที่มีฝรั่งเศสหนุนหลัง ส่วนเวียตนามใต้มีอเมริกาหนุนหลัง ต่อมาโฮจิมินห์ หรือที่คนไทยเรียกว่า ลุงโฮ พยายามรวบเวียตนามเหนือและเวียตนามใต้เข้าด้วยกัน
พ.ศ. 2488 โฮจิมินห์รับมอบอำนาจจากจักรพรรดิบ๋าวได่และรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกหลังประกาศเอกราช 

       

           แผนที่ของประเทศเวียตนามมีลักษณะทอดยาวเหมือนตัว S     เส้นทางที่ผู้เขียนใช้ในการเดินทางจะผ่านด่าน ตม.ชั่วคราวที่ จ.บึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทน ด่านชั่วคราวจะปิด 16.30 น. ใครจะใช้บริการด่าน ตม.ชั่วคราวจะต้องบริหารเวลาดี ๆ น่ะค่ะ เข้าด่านสกัด (ตม.ลาว) บริคำไซ ของลาว ผ่านหลักซาว เข้าด่านเก๋าแจว      เวียตนาม เส้นทางนี้สวยมาก ๆ เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ป่าหนาทึบ

          ท่าน ดร.ทัศนีย์  แสณจันทร์ ผู้บริหารและเจ้าของวิทยาลัยเทคโนโลยีเอ็น-เทค อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงเรียนในเครือ ผู้ริเริ่มโครงการนำข้าราชการสังกัดกลุ่มสถานศึกษาเอกชนในเขตตรวจราชการที่ 10 และ 12 ไปศึกษาดูงานประเทศเวียตนามในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภูมิภาคที่ วิทยาลัยเอ็น-เทค อินเตอร์เนชั่นแนล อ.เซกา จ.บึงกาฬ และท่าน ดร.ทัศนีย์  แสณจันทร์ ยังเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคณะ ทั้ง 50 คน ด้วยค่ะ

 

 

         ด่านแรก ณ ด่านศุลกากร จ.บังกาฬ

    

 

 

 

    แม่น้ำโขงในเดือนสิงหาคม น้ำหลากและเป็นสีน้ำตาล นั่งเรือข้ามฟากประมาณ 10 นาที จะถึงแขวงบริคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

    

 

                                      เจอไฟแดงลาวแห่งแรก ........เลี้ยวขวาได้ ต้องระวัง

 

     ด่านที่สองของลาวที่ต้องผ่านค่ะ ด่านสกัด น้ำพาว อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความสูงของการไต่ระดับภูเขา

   

 

 

 ตม.ของลาวค่ะ

      

 

วิวสวย ๆ ระหว่างทางค่ะ เมฆลอยลงมาต่ำมาก อากาศค่อนข้างเย็น สบาย ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                            กก 2933 บริคำไซ

 

 

       ระหว่างทางจะมีดินสไลค์และถล่มจากฝนที่ตกหนักในคืนก่อน เป็นระยะ ๆ มีลุ้นตลอดทางค่ะ

 

         ทีแรกผู้เขียนนึกว่า.....โกดังรับซื้อข้าวเปลือก อ้าวกลายเป็น Immigration office at Vietnam เฉยเลย 

 

 

          สุขาพันไร่.....เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทริปนี้ค่ะ เพราะระยะทางยาวไกลมาก ปั้มน้ำมันไม่ได้มีห้องน้ำสะดวกสบายเหมือนเมืองไทย บางปั้มมีจะเป็นอารมณ์ประมาณว่า ไม่มีประตูปิดเข้าพร้อม ๆ กันทีละ 6-8 คน นั่งหันหน้าเข้าฝา เอาก้นชนกัน เจาะเป็นหลุมเล็ก ๆ และกลิ่นแรงมาก ๆ  มากจนติดผม เสื้อผ้ามาด้วย ทำธุระเสร็จต้องแกล้งยืนรับลมชมวิวสักพัก ถึงกล้าขึ้นรถ เกรงใจเพื่อนร่วมทาง

 

 

           ปั้มน้ำมันของ Goverment of Vietnam ค่ะ มีแค่สองหัวฉีด เรื่องห้องน้ำไม่ต้องพูดถึง..........อย่างที่บอก

     

        อาหารมื้อแรกใน Vietnam คล้าย ๆ สลัดผักบ้านเรา แต่ใส่ผักดองบางชนิดลงไปด้วย มีเสริฟทุกมื้อ อร่อยมากทีเดียวค่ะ

 

 

      ที่พักคืนแรกในเมืองวินห์ บ้านเกิดของโฮจิมินห์ วีรบุรุษกู้ชาติของชาว Vietnam ทีแรกแอบกังวลใจนิด ๆ เนื่องจากเวียตนามขึ้นชื่อในเรื่องความสกปรก จนผู้เขียนคิดจะติดผ้าเช็คตัวมาใช้เอง แต่ปรากฏว่าผิดคาด โรงแรมดีและใช้ได้ทีเดียวค่ะ ห้องน้ำก็สะอาดแตกต่างจากข้างนอกโดยสิ้นเชิ

 

 

 

 

    ถ่ายจากมุมสูงจากห้องพักค่ะ คนเวียตนามประหยัดสุด ๆ สร้างบ้านมีหน้าต่างและทาสีเฉพาะด้านหน้า ส่วนด้านข้างจะไม่มีหน้าต่างและไม่ทาสี เพราะเค้ามีความคิดว่า ประเดี๋ยวคนอื่นก็จะมาสร้างบ้านข้าง ๆ เค้า ไง ๆ ก็มองไม่เห็นสีและหน้าต่างข้างบ้านอยู่ดี ที่นี่จะสร้างบ้านชนิดหลังคาติด ๆ กัน ไม่มีกฏหมายกำหนดว่าจะต้องเว้นช่องว่างจากหลังคาถึงรั่วเท่าไหร่เลยน่ะค่ะ และไม่มีรั้วบ้าน หรือบริเวณบ้าน คนเวียตนามนิยมออกมานั่งทานข้าว คุยกันตรงหน้าบ้าน เพราะสมัยก่อนรัฐบาลจะจัดสรรที่สำหรับสร้างบ้านให้เพียงน้อยนิด ไม่มีบริเวณ

          อนุสรณ์สถานเวียตกง อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมพอดี เวียตกง หมายถึง เวียต=คนเวียตนาม  กง=ในภาษาเวียตนาม หมายถึง ทหาร 

        รูปปั้มลุงโฮ (โฮจิมินห์) ณ เมืองวินห์ บ้านเกิดของท่านค่ะ

           เวียตนามสามารถทำนาได้ถึงปีละ 4 ครั้ง โดยไม่ต้องรอน้ำฝน เพราะภูมิประเทศเป็นภูเขาถึง 70% ทำให้มีน้ำตลอดทั้งปี ถึงฤดูเกี่ยวข้าวถนนทางเข้าสู่เมืองวินห์ รัฐบาลจะอนุญาตให้ชาวนา นำข้าวเปลือกออกมาตากกลางถนน เพราะไม่มีพื้นที่ราบให้ตากข้าว แต่ข้าวที่นี่อร่อยสู้ข้าวหอมมะลิของไทยไม่ได้น่ะค่ะ รสชาติจะออกเหนียว ๆ จับกับเป็นก้อนไม่หอมขึ้นจมูกเหมือนข้าวหอมมะลิบ้านเรา คนเวียตนามนิยมนำศพบรรพบุรุษมาฝังไว้ในผืนนาของตนเอง ด้วยความเชื่อว่า ลูกหลานจะได้ไม่นำมรดกไปขายให้คนอื่น และคนอื่นก็จะไม่กล้าซื้อเพราะมีศพคนฝังอยู่ในผืนนา พอครบ 3 ปี เค้าจะขุดศพออกมาทำพิธีคล้าย ๆ กับความเชื่อล้างป่าช้าของคนจีน แล้วนำกระดูกกลับไปฝังใหม่ ทำฮวงจุ้ยอย่างสวยงาม ตลอดเส้นทางจะเห็นฮวงจุ้ยอยู่ในท้องนา เต็มไปหมดค่ะ

 

        ท้องถนนบรรยากาศยามเช้า รถยังไม่พลุกพล่านค่ะ สาย ๆ รถมอเตอร์ไซค์เยอะมาก ๆ กฏหมายที่นี่ นอกเมืองตามชนบทถนนสองเลน จำกัดความเร็วอยู่ที่ 70 กม./ชม.  ส่วนในเมืองที่มีถนน 4 เลน จำกัดความเร็วอยู่ที่ 40 กม./ชม. เป็นเรื่องที่แปลกมาก ๆ อย่างว่าล่ะค่ะ จะไปเอาอะไรแน่นอนกับเมืองคอมมิวนิสต์ล่ะค่ะ หากมีอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก รถเล็ก มอรเตอร์ไซค์ คนเดินถนน จะเป็นฝ่ายถูกเสมอค่ะ ส่วนรถใหญ่ คือฝ่ายผิดแต่เพียงผู้เดียว แถมนิยมบีบแตรเสียงดังตลอดทางด้วย

       ใข้เวลาถึง 2 วันเต็ม ๆ จาก จังหวัดบึงกาฬ มาถึงเมืองฮานอยพลบค่ำพอดี วิวสวย ๆ จากหน้าต่างห้องพักโรงแรม เสียดายไม่มีเวลาได้ชื่นชมความงามของอ่าวฮาลองเบย์ในมุมสูงสักเท่าไหร่

        

    เมืองฮานอยเป็นฐานผลิตกระเป๋ายี่ห้อ Kipling และรองเท้ายี่ห้อ Onisuka Tiger ของญี่ปุ่นค่ะ อย่าลืมแวะไปซื้อน่ะค่ะ ของแท้แต่ราคาถูกมาก ๆ เทียบกับในห้างเมืองไทย   ให้ -0 ออก 1 ตัวแล้ว หารด้วย 2 จะเป็นราคา Kipling ที่นี่ค่ะ ผู้เขียนได้มาหลายใบเชียวค่ะ เวลาฝรั่งสั่งผลิต 1 แสนใบ พี่เวียตก็จะผลิตออกมา 6 ล้านใบ แอบมาขายในตลาดมืดหรือ Night Market ใกล้ ๆ กับโรงแรมที่พัก เปิดตั้งแต่ 16.30-22.00 น. ค่ะ

                    ตอนเช้าออกไปล่องเรือชมความงามของ ฮาลองเบย์ : มหัศจรรย์แห่งอ่าวมังกรตกน้ำ ตามนิทานปรัมปราของชาวเวียดนาม ที่กล่าวถึงมังกรโบราณซึ่งเคยร่อนมาลงในอ่าวนี้เมื่อครั้งดึกดำบรรพ์ และชื่อของฮาลอง ก็แปลได้ว่า มังกรร่อนลง จากความสวยงามและสมบูรณ์ของอ่าวฮาลอง ทำให้ที่นี่ประกาศได้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์กรยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งเป็นเสมือนประกาศนียบัตรที่ใครเห็นต่างเชื่อถือ จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศเวียตนาม ต้องล่องเรือมาชมอ่าวฮาลองเพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ อ่าวฮาลองตั้งอยู่ในจังหวัดกว่างนิงห์ (Quang Ninh) ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงฮานอย เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

                                                                              

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                                                      

        ไก่จูบกัน สัญลักษณ์ของอ่าวฮาลองเบย์ 

   ซ้ายมือเป็นไก่ตัวผู้ ขวามือเป็นตัวเมีย

 

 

 

 

 

 

               กราบขอบพระคุณ......... ท่าน ดร.ทัศนีย์  แสณจันทร์     ผู้บริหารและเจ้าของวิทยาลัยเทคโนโลยีเอ็น-เทค อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงเรียนในเครือ คุณแม่คนสวย ผู้ใจดีซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์คณะเดินทางทั้งหมด ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ คิดเงินให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทอง คุณแม่ไปไหน หนูขอไปด้วย ๆๆๆๆ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ  จุ๊บ ๆ ๆ

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 546819เขียนเมื่อ 27 สิงหาคม 2013 23:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน 2013 09:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

มาอ่านเรื่องราวและชมความงามของมรดกโลก...อ่าว ฮาลอง นะคะ...ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท