อยากจะแอบต่อท้ายชื่อบันทึกว่า โดยเฉพาะคนเล่นสมาร์ทโฟน เพราะว่าวันนี้จะพูดเน้นเรื่องนี้
คนจำนวนมากหลงเพลินไปกับ smart phone (โทรศัพท์ฉลาด) เสียจนตัวเองไม่สมาร์ท (ฉลาด) อีกต่อไป จะสังเกตกันเห็นได้บ่อยๆ เช่นในรถไฟฟ้า คนจำนวนมากทั้งไทยทั้งต่างชาติ ทั้งเด็กและไม่เด็ก ต่างก็หลงเพลินอยู่กับมัน ผมเพิ่งไปเจอคลิปข้างล่างที่สะท้อนเรื่องนี้ได้ดี
ส่วนผมเองซึ่งบางครั้งก็หันไปมองดูคนรอบๆ บ้าง แต่ก็มักใส่ใจอยู่กับวิหารธรรมของผมไปด้วยคือ อานาปานสติ นอกเหนือจากนั้น ส่วนมากผมไม่มีความคิดอะไรอยู่ในหัวเลย จะว่าสมองอยู่กับความว่างๆ เป็นการพักผ่อนก็ว่าได้ เคยอ่านเจอจากพระไตรปิฎกว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระองค์อยู่กับอานาปานสติเป็นส่วนมาก และอีกพระสูตรหนึ่ง คือ จูฬสุญญตสูตร พระองค์ตรัสว่า ทรงอยู่กับ สุญญตวิหารธรรม (ก็คือจิตว่างนั่งแหละ) ผมคิดว่าการที่ผมทำตามวิธีปฏิบัติของพระพุทธองค์นี่น่าจะเป็นวิธีที่ถูก และฉลาดที่สุด ที่เราน่าทำตาม
โทรศัพท์มือถือที่ผมใช้อยู่คือเครื่องอายุ ๒ ปี ราคา ๙ ร้อยกว่าบาท ทำหล่นมาหลายสิบครั้งแล้วก็ยังใช้ได้อยู่ ก็คงใช้ต่อไป ใช้โทรเป็นส่วนใหญ่ สลับกับ sms บ้าง
ก็ต้องยอมรับว่า ผมก็มี smart phone กับเขาเหมือนกัน แต่ว่าตัดสินใจวางเอาไว้บนโต๊ะทำงานที่บ้านเฉยๆ ไม่พกเอาไปไหนต่อไหน เพราะว่าเมื่อตัวเองไม่เล่น FB หรือ Line เด็ดขาด เกมส์ก็ไม่เล่น ก็เลยไม่รู้จะเอาพกอีกตัวไปให้หนักทำไม เว้นแต่จะไปต่างจังหวัด ก็เอาไปไว้เช็คอีเมลระหว่างเดินทางบ้างแค่นั้น เติมเงินแค่เดือนละไม่กี่สิบบาทต่อเดือนแค่นั้น ถ้าจะใช้เน็ตก็ต่อผ่าน wifi ที่บ้าน
ส่วนใครที่มี smart phone เพียงตัวเดียวก็ใช้ต่อไป ไม่มีใครห้าม แต่เสนอแนะด้วยความหวังดีว่า ปิดเครื่องบ้างก็น่าจะดี จะได้พักสมองกันบ้าง เพราะผมเห็นแล้วรู้สึกว่า บางคนใช้มันเหมือนกับติดยาอย่างไรก็ไม่ทราบ เสมือนกับว่าใช้การลูบสมาร์ทโฟนเป็นวิหารธรรม
ที่เขียนมานี่ เขียนไปด้วยความรู้สึกกลางๆ (อุเบกขา) ไม่ได้นึกตำหนิใครเลย กลับปราถนาดีเสียอีก อันที่จริงก็เพราะมีคนรู้จักที่ใจอยากจะบอกพวกเขาเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบอกเขาหรอก กลัวเขาเข้าใจเราผิด จะโกรธเอา ก็เลยมาเขียนในนี้แทน เผื่อว่าวันหนึ่งเขาอาจจะมาเจอเอง
Smart Phone เครื่องแรกของผม ... ช่างใช้ไม่ึคุ้มค่าเสียเลย นอกจากรับสายเข้ากับโทรสายออก ;)...
เหมือนกันครับ อ้อ เพิ่ม sms นานๆ ทีไปอีกอย่าง :-)