"บ้านกับรถผ่อนอะไรก่อนดี" ... (Finance in House จัดการการเงินในบ้าน ให้อยู่หมัด : ทัดทอง เตียตระกูล)

บังเอิญมีคนใกล้ตัวกำลังคิดเรื่อง "การผ่อนบ้าน กับ การผ่อนรถ" อยู่
และก็บังเอิญอีกที่ซื้อหนังสือเ่ล่มนี้มาวางแผนการเงินของตัวเอง

จึงนำเสนอเป็นข้อมูลเบื้องต้นนะครับ

บ้านกับรถผ่อนอะไรก่อนดี

ถ้าให้ตอบคำถามนี้อย่างง่าย ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก คงต้องบอกว่าผ่อนบ้านก่อนผ่อนรถย่อมดีกว่าแน่นอน แต่กระนั้นจะดีกว่าจริงหรือไม่ ยังต้องพิจารณาในเรื่องอื่นประกอบด้วย เพราะการทำสัญญาผ่อนบ้าน หรือรถนั้นเป็นการสร้างภาระทางการเงินที่คุณต้องแบกรับไปอีกหลายปี บ้านประมาณ ๒๐ - ๓๐ ปี ส่วนรถประมาณ ๕ ปี เป็นอย่างสูง ซึ่งภาระนี้จะกลายเป็นเงื่อนไขที่ส่งผลต่อความคล่องตัวของคุณในโอกาสข้างหน้าที่อยากขยับขยายทำสัญญาสินเชื่ออื่นอีก ดังนั้น ผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถ ผ่อนอะไรก่อนดี จึงต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และความจำเป็นของแต่ละบุคคล ลองไปดูกับว่าเหตุผลที่คนซื้อบ้านก่อนรถ และคนซื้อรถก่อนบ้าน เขามีวิธีคิดกันอย่างไร เผื่อจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

๔ เหตุผลที่ซื้อบ้านก่อนรถ

๑. กู้เงินซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย

ปกติธนาคารผู้ให้กู้จะพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้โดยดูความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้เป็นหลัก หากคุณมีรายได้ไม่แน่นอน แถมยังมีหนี้สินอยู่อีก ทั้งหมดทั้งปวงนี้จะถูกนำมาเป็นปัจจัยที่ใช้ร่วมประเมินว่าควรปล่อยสินเชื่อให้คุณหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ผ่านไปง่าย ๆ จนกว่าคุณจะไปเคลียร์หนี้อื่น ๆ ให้หมดก่อน ขณะการทำสัญญากู้เงินซื้อรถจะผ่านง่ายกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่เรื่องมาก เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องใช้รถจริง ๆ กู้ซื้อรถมือหนึ่งไม่ได้ ก็ถอยมือสองออกมาใช้ไปก่อน

๒. บ้านเป็นสินทรัพย์ที่แพงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ยิ่งถ้าเลือกผ่อนบ้านที่มีที่ดิน และเป็นตึกแถวหรือทาวเฮ้าส์จะได้ทำกิจการของตัวเองไปด้วย เป็นแหล่งสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง หนุ่มสาวออฟฟิศจำนวนมาก เลือกผ่อนคอนโดฯ ก่อนเพราะชีวิตเมืองกรุง อยู่คอนโดฯ สะดวกสุดแล้ว แถมค่าผ่อนก็ไม่สูงมากนัก (ถ้าไม่เลือกหรูจนเกินตัว) ผ่อนสบายๆ เมื่อหน้าที่การงารสูงขึ้นก็ขยับไปซื้อบ้าน ส่วนคอนโดฯ ก็ปล่อยให้เขาเช่าเอาเงินค่าเช่าคอนโดฯ มาผ่อนรถก็ยังได้

๓. หากซื้อรถก่อนจะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากมาย

ทั้งค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน หรือจะติดตั้งแก๊สต้องมีค่าติดตั้ง ค่าแก๊ส เมื่อเสียก็ยังมีค่าซ่อมอีก ไหนจะค่าผ่อนชำระรายเดือนที่มักจะมีจำนวนมากกว่าผ่อนบ้านประมาณเท่าตัว เพราะจำนวนเวลากู้สั้นกว่า รายการค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มอุปสรรคให้คุณกู้ซื้อบ้านได้ยากขึ้นเมื่อคิดอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง

๔. ๑๐ ปี รถกลายเป็นซาก แต่บ้านยังมีราคา

เพราะมูลค่าของบ้านมีโอกาสขึ้น และถ้าจะมีค่าเสื่อมราคาก็มีในอัตราที่ช้ากว่าค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ เคยได้ยินหรือไม่ว่ารถยนต์พอถอยออกมาจากศูนย์ราคาก็ตกลงมาแล้ว ๒๐ - ๓๐ % โดยประมาณ แต่ราคาบ้านนั้นหากไม่บังเอิญ โชคร้ายไปเจอบ้านที่ถูกเล็งให้เวนคืน ซื้อมาเท่าไร ราคาก็แกว่งไปแกว่งมาอยู่ในช่วงแคบ ๆ ยิ่งถ้าบังเอิญมีการตัดถนนนำความเจริญมาสู่บริเวณรอบบ้าน ราคาก็จะโดดสูงขึ้นไปอีกที่สำคัญผ่านไป ๑๐ ปี หากคิดขายต่อบ้านจะยังคงมีราคาอยู่ไม่แตกต่างจากเดิม แต่รถยนต์คงต้องขายซากได้ราคาเหลือไม่เท่าไร

๓ เหตุผลที่คนซื้อรถก่อนบ้าน

๑. ซื้อบ้านแล้วเงินจม

บ้านจะเป็นของเราก็ต่อเมื่อผ่อนชำระหมดแล้ว ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานร่วม ๑๐ - ๒๐ ปี ขณะที่ซื้อรถเป็นไฟท์บังคับแค่ ๕ ปีเป็นอย่างช้าก็ได้ชื่อว่ามีทรัพย์สินในครอบครองแล้ว ใช้จนคุ้มแล้ว เกิดอยากใช้เงินขึ้นมาก็เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ หรือขายไปเลยก็ยังได้

๒. บริษัทออกค่าใช้จ่ายบางส่วนให้

แค่ค่าน้ำมันก็ทุ่นแรงผ่อนไปได้โข อีกทั้งถ้ารถเป็นสิ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจอย่างนี้ก็คงต้องตัดสินใจซื้อรถก่อนบ้าน

๓. บ้านยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ต่อไปได้

อย่างนี้เริ่มซื้อก่อนน่าจะเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อม แถมภาระผูกพันก็ไม่นานเกินไป

อ่านมาถึงตรงนี้ คิดว่า คุณคงจะได้คำตอบแน่ชัดแล้วว่า ควรผ่อนบ้านก่อนรถ หรือรถก่อนบ้านดี ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องของเทคนิคในการเลือกซื้อ และเลือกเงื่อนไขในการผ่อนชำระที่จะทำให้คุณจ่ายได้อย่างสบาย ๆ ไปตลอดรอดฝั่งกระทั่งได้กรรมสิทธิ์ครอบครองบ้านและรถนั้นเป็นของตัวเอง

เทคนิคการเลือกซื้อ และเงื่อนไขการผ่อนชำระ

บ้าน

เลือกขนาดบ้านให้พอเหมาะกับกำลังความสามารถในการจ่ายชำระ โดยปกติราคาไม่ควรเกิน ๓๐ เท่าของรายได้ต่อเดือน เช่น ถ้าคุณมีรายได้เดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท ก็ควรซื้อบ้านไม่เกิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท แต่ถ้ารวมรายได้คุณและภรรยาเดือนละ ๔๐,๐๐๐ บาท ก็ซื้อบ้านได้ไม่เกิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนระยะเวลาในการผ่อนชำระจะสัมพันธ์กับค่างวดในการผ่อนชำระ ยิ่งผ่อนนานปีค่าผ่อนก็จะถูกลง แต่ถ้ากำหนดระยะเวลาผ่อนให้สั้นลงค่างวดก็จะสูงขึ้น ตรงนี้ให้คำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระของคุณเป็นหลัก หากแน่ใจว่ามีกำลังส่งมากก็ให้เลือกผ่อนระยะเวลาสั้น แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ให้เลือกผ่อนยาวเข้าไป มีเงินมากในวันหลังจะโปะจ่ายก็ได้ ดีกว่าเลือกผ่อนสั้น ค่างวดสูง พอถึงเวลาจ่ายไม่ได้ขึ้นมาจะเป็นเรื่องให้ต้องวุ่นวายเปล่า ๆ

โดยปกติแล้วกูรูทางการเงินแนะนำว่าค่าผ่อนบ้านไม่ควรเกินกว่า ๓๐ เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อเดือน เช่น ถ้ารายได้เดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท ก็ไม่ควรผ่อนเกินเดือนละ ๖,๐๐๐ บาท เพราะในแต่ละเดือนคุณยังต้องกันเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก เว้นแต่หากคุณไม่มีภาระด้านอื่น ก็ควรเร่งชำระหนี้ในอัตราที่สูงขึ้นเป็นเป็น ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อเดือน เพราะยิ่งคุณผ่อนจำนวนมากเท่าไร ภาระหนี้ก็จะหมดเร็วขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จะผ่อนมากหรือน้อยคุณเท่านั้นจึงจะตอบได้ดีที่สุด

รถ

การทำอะไรแต่พอตัวเป็นกฎเกณฑ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการทุกอย่างในชีวิตได้เป็นผลสำเร็จ การเลือกซื้อรถ คุณควรเลือกสเป๊กที่มีราคาไม่เกินความสามารถในการผ่อนชำระของคุณ ซึ่งจากคำแนะนำของกูรูทางการเงินระบุว่า ควรอยู่ในราว ๒๐ - ๓๐ เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อเดือน เช่น หากรายได้ของคุณเดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท ไม่ควรผ่อนรถเกินเดือนละ ๔,๐๐๐ - ๖,๐๐๐ บาท หากมากเกินจากนี้อาจกลายเป็นภาระเกินสำหรับคุณ

การเลือกระยะเวลาผ่อนสำหรับสินเชื่อรถ แนะนำให้เลือกผ่อนระยะเวลาสั้นสุด เพราะการคิดดอกเบี้ยเงินกู้รถมักคิดแบบ Flat Rate คือ เป็นการนำเอาเงินต้นรวมเข้ากับดอกเบี้ย แล้วแบ่งจ่ายเป็นรายงวด ยิ่งคุณกู้ระยะสั้นได้มากเท่าไรก็จะเสียดอกเบี้ยน้อยลงเท่านั้น กระนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณอีกเช่นกัน หากไม่แน่ใจก็เลือกตามระดับราคาค่างวดที่พอจ่ายไหว หากโชคดีสัญญาเปิดทางไว้ให้คุณโปะหลังจ่ายชำระไปแล้วเท่านั้นเท่านี้ปี ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยผ่อนแรงให้คุณ

................................................................................................................................................

ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อพิจารณาเบื้องต้นเท่านั้น

เพื่อให้สิ่งที่ได้มาสมดุลกับรายได้ที่มีต่อเดือน

จะทำให้เราใช้ชีวิตได้มีความสุขมากขึ้น

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

................................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือดี ๆ ...

ทัดทอง เตียตระกูล. Finance in House จัดการการเงินในบ้าน ให้อยู่หมัด. กรุงเทพฯ : เพชรประำกาย, ๒๕๕๕.

เขียนใน GotoKnow โดย Wasawat Deemarn
ใน หอมกลิ่นหนังสือ

คำสำคัญ (Tags): #วสวัตดีมาร#wasawatdeemarn#ทัดทอง เตียตระกูล#Finance in House จัดการการเงินในบ้าน ให้อยู่หมัด#ข้อมูลตัดสินใจ#บ้านหรือรถ#รถหรือบ้าน#การผ่อนชำระ

หมายเลขบันทึก: 545861เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2013 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2013 19:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน