ทำอะไรประจำ อย่าลืมพัฒนา นึกถึง R2R ซิคะ
อันนี้แทบจะแทบจะเป็นการเขียนบอกตนเอง
เพราะนิสัยเดิม ๆ ด้านอกุศล ความเคยชินเก่า ๆ เข้ามุมเดิม ท่านอนท่าเดิม ที่ทำให้หลับยาวไร้สติ
การตื่นแบบเดิม ๆ ไหล แบบเดิม ๆ ที่ส่งผลให้จิตมัว และขี้เกียจ มันไหลไปทำทั้ง ๆที่ไม่วางแผน แต่ทำซ้ำ ๆ
ก่อนหน้านี้ไม่เห็นกับตนเองว่า “ไอ้นิสัยแย่ ๆ หน่ะมันไหลไปทำอย่างเก่า” ทั้ง ๆที่ครูชี้ให้แก้ไข
ให้ปฏิปทา ให้ข้อวัตรไว้ทำให้พอ ให้ขัดเกลา จิตใจ
มีแต่มาคร่ำครวญว่า “หนูทำไม่ได้”
พอท่านมาชี้ว่า “แล้วทำไม อันที่ไม่ดี มันทำซ้ำอย่างเดิม”
พอเห็น อาการเอ๋อ กำเริบเลยค่ะ เพราะจริงอย่างที่ครูว่า
“นี่ หมายถึงว่า จิตมันทำอะไรที่ซ้ำ ๆได้ ทำได้สบายด้วย”
แต่ที่น่าอนาจคือ อันที่มันหยิบมาทำซ้ำดันเป็น กิเลสพาทำเรื่องอกุศล อย่างความขี้เกียจ ไม่เอาไหน ทำอะไรไม่เรียบร้อย สารพัด จะเรื่องราว ที่เป็นเวลาเดิม ๆ เพิ่มแค่จำนวน
พอจะมาฝึกมาหัดทำอะไรที่เป็นกุศล มันก็เอาอีกละ ท่าเดิม
ได้นิดหน่อย ไหลลงช่องอกุศล แล้วมาคร่ำครวญ
เหตุมันคือ อะไรหล่ะ
ปัญหาคือ ทำไมทำข้อวัตรไม่ครบ ไม่สำเร็จต่อเนื่องสักกะที
อะไรเป็นสาเหตุ
ขาดสติ ไม่ฝืน ไม่อดทนทำ พอไม่อยากทำก็ตามใจมัน พอมีเรื่องมาแทรกก็ปล่อยปะละเลย นี่ไง
ไม่บุ๊คเวลาแน่ชัดกับตนเอง พอบุ๊คเวลาแทนที่จะกำหนดลงที่ใจ กลับไปกำหนดแค่สมองเอาไว้เป็น “ข้ออ้าง” ก็เลยย่ำแย่
เอาหล่ะ สาเหตุมาแบบนี้ แก้ไขยังไง
เบื้องต้นต้องยอมรับก่อนว่า “วิธีเก่า ๆ ใช้ไม่ได้”
ลองไปสืบค้นดูซิ คนอื่นเขาทำยังไง
หลวงพี่ก็เคยเล่านี่ว่า ไปอ่านดู ของท่านเอง บางเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ ก็เป็นงงอยู่เป็นเดือน ๆ แต่พอมันลงใจแล้วก็ไปลิ่วนะ
ลองนั่งนึก ๆ กับตนเอง
การอยู่ที่วัด เหมือนมีกัลยาณมิตรคอยเกื้อหนุน ทำให้ลื่นคล่อง
แต่บางครา โดนกิเลสอัดเข้าหนัก ๆ ก็ล้มไม่เป็นท่าอยู่นะ
เคยทำเช็คลิสต์ ไปๆมาๆก็หาไม่เจอเพราะ เก็บไม่เป็นที่
เตือนกับตนเองเฉย ๆ ก็ ขี้หลงขี้ลืม
มันต้องมีสักทางซินะ ตอนนี้ครูก็ให้ไว้เรื่องการทบทวนตนเอง จะได้วิมังสา ใคร่ครวญพัฒนา ๆ
หลัง ๆมา มันพล่าม
แต่ก็ยังต้องทำกับตนเอง เรื่องการใคร่ครวญ
อันนี้เป็นแนวทางการ เจาะปัญหา ค้นหาลงไปถึงสาเหตุ แล้วก็มา หาทางแก้ไข
เป็นแนวทางที่ครูชี้ไว้ เอาน่า
มีเอ๊ะ แต่ยังไม่อ๋อ
ก็ต้องทบทวน แล้วมาลองกับตนเอง อย่าเอ๋ง ไปซะก่อนหล่ะ
ไม่มีความเห็น