BAR ถามใจ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต้นกล้าอาสา ฯ รุ่น 2


 

BAR ถามใจ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต้นกล้าอาสา ฯ รุ่น 2

 

ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้

 

หนูตั้งคำถามกับตนเองว่า “หนูจะไปทำไม ไปทำอะไร ไปเพราะอะไร”

 

เป็นคำถามที่เกิดจากการปลูกฝังของครู ให้รู้จัก BAR กับตนเอง ก่อนที่จะทำอะไร

 

แต่ในการเดินทางมี คำของหลวงพี่ประกบจิตมาจ่อ ๆ ว่า

 

“ไปแบบอีจัญไร ไม่ใช่นางเอก ไปแบบไร้ตัวตนเป็นไหม ไม่ใช่ไปเป็น ไปเอา แต่ไปขัดเกลา ครูบาอาจารย์ชี้บอก ชี้สอน ให้คิดพิจารณาแล้วแก้ไขถอดถอน เป็นทางเดียวที่จะพาให้รอด ณ ตอนนี้”

 

 

 

ครั้งนี้เป็นพอมีคำถามปุ๊บ

 

ใจก็ดึงคำตอบมาตอบว่า

 

“ความรู้ความสามารถในการ Capture ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบันทึก การทำคลิปวิดีโอ เป็นสิ่งที่ครูเมตตาสอน ชี้บอก ให้โอกาส จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่จะขอใช้ความสามารถที่พอมี รับใช้ทำงานถวายครู ถวายหลวงปู่ แบบเต็มที่กับตนเอง”

 

คำตอบที่มันออกมา มักจะดูดีเสมอ

 

จิตดังย้ำขึ้นมา ตบความหลง สำคัญตอนที่ลงมือทำ มีสติไหม ถ้าขาดสติ อะไรที่ตั้งไว้ก็จบข่าว ล่มไมเป็นท่า

 

นี่คือ อีกบททดสอบที่ครูเมตตา “ให้โอกาส อยู่ที่เรียนรู้เป็นไหม”

 

วัคซีนของความล้มเหลว มีมาเพียบตลอดเส้นทาง 4 ปี ที่ครูเมตตาให้ได้เรียนรู้กับท่าน แบบท่านเสี่ยงมากในการสอนหนู แต่ครูก็ไม่เคยท้อ หรือ ล้มเลิก เพราะจิตหนูมันคอยจะห้อย จะโหน ตามครูยังกะลูกก็ไม่ปาน ผ่านมาก็นานหลายปี ก็พอมีอะไรได้ติดตัวบ้าง แม้จะน้อยกว่าที่ใจอยากได้

 

(เพราะมันมัวแต่อยาก และจิตเต็มไปด้วยตัวกู) ใจจึงถูกปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้

 

แต่เอาหล่ะ นี่ได้ตั้งต้นกัยตนเองแล้ว จะไปทำงาน รับใช้ และขัดเกลาใจตนเอง

 

 

 

หลายครั้งพฤติกรรมหนูดูเหมือนจะหน้าด้าน (ซึ่งก็จริง ๆ)

 

หน้าด้านทำสิ่งชั่ว ๆมามากแล้ว

 

ลองพลิกมาใหม่ หน้าด้านที่จะ เอาความหน้าด้าน ดื้อด้านมาใช้ในทางกุศลดูบ้าง ก็ท่าจะไม่เลวทีเดียว

 

 

 

ความอึด ความอดทน อันนี้ แม่ให้มา แบบแนบจิต แนบใจ

 

เพราะกิเลสบีบคั้น มันจึงทำให้เจ็บปวดทรมาร แต่แล้วทุกอย่างก็ผ่านไป

 

เหลือเพียงพยายาม “เริ่มใหม่และตั้งใจเรียนรู้กับตนเอง”

 

 อะไรที่ต้องใช้ในการเดินทาง พัฒนาตนเอง

ครูเมตตาให้มาหมดแล้ว ที่เหลือคือ "มุ่งมั่นทำมันให้ได้ แบบแนบใจตนเอง"

ที่ผ่านมามันยังไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า "ต้องหยุดทำ"

แต่นั่นคือสัญญาณบอกว่า "ต้องทำให้มากกว่าเดิม มุ่งมั่นให้มากกว่าเดิมต่างหากหล่ะ"

ที่ผ่านมา แค่จิตเป็นง่อย

สักแต่ทำตามที่ครูชี้ แต่ไม่ยอมคิดพิจารณา

ไม่ดึงศักยภาพที่มีออกมาใช้ รอแต่ครูชี้

ทำตัวแบบนี้ ครูเมตตาสอนมากขนาดนี้ ก็บุญหัวแล้ว

ต่อไป รู้แล้วถึงอาการ จิตเป็นง่อย

 

ก็ต้องมาฟัดกันสักที ระหว่างกิเลสในใจ กับ ความใฝ่ดี ที่มีสติเป็นเพื่อน

มีครูบาอาจารย์และหลวงพี่เป็นกัลยาณมิตร ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

ครานี้ก็เป็นอะไรที่น่าดูชมกันทีเดียว "ว่าไหม"

 

 

หมายเลขบันทึก: 545524เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2013 23:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 สิงหาคม 2013 23:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท